Sizzler เผยสูตรความสำเร็จ ผู้นำร้านสเต๊กสลัดบาร์ ตลอด 30 ปี พร้อมปล่อยเมนู Festive Season ส่งท้ายปี

Sizzler นับเป็นร้านสเต๊กและสลัดบาร์ ที่ครองใจผู้บริโภคในไทย มายาวนานกว่า 30 ปี

โดยตลาดสเต๊กในประเทศไทย มีมูลค่าเกือบ 10,000 ล้านบาท 

และ Sizzler เป็นผู้นำในตลาดนี้ ครองส่วนแบ่งประมาณ 30%

ซึ่ง Sizzler ได้เผยว่า สูตรลับความสำเร็จทางธุรกิจ ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา 

ว่ามีหัวใจสำคัญอยู่ที่การให้ความสำคัญกับเรื่อง

1) ส่งมอบความสดใหม่ (Fresh) ความพรีเมียม (Premium) และคุณภาพของอาหารที่เหนือระดับ (Quality) พร้อมกับนำเสนอเมนูใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ

เช่น เมนู Sizzling ที่ใช้วัตถุดิบนำเข้ามาทำเป็นสเต๊กพรีเมียมสไตล์ต่าง ๆ

หรือ “Farmers’ Festival” ที่นำผลผลิตสดจากไร่เกษตรกรในประเทศ เช่น แตงโม มะเขือเทศ และสับปะรด มารังสรรค์เป็นเมนูสลัดบาร์ทั้งคาวและหวาน ที่ได้เริ่มต้นตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า

2) ต่อยอดกิจกรรมทางการตลาด และส่งมอบกิจกรรมสุดพิเศษ ให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

ที่ผ่านมา Sizzler ได้สร้างกิจกรรมทางการตลาด เพื่อเติมเต็มสีสันและความสุขให้ผู้บริโภค อยู่เสมอ 

พร้อมให้ความสำคัญกับ Loyalty Member ที่มีฐานสมาชิกปัจจุบันมากกว่า 4 แสนคน เพื่อรักษาฐานลูกค้า ด้วยการมอบสิทธิพิเศษต่าง ๆ ผ่าน Loyalty Program E-Member

อีกทั้ง Sizzler ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบและตกแต่งบรรยากาศร้าน ให้สอดรับกับช่วงเวลาพิเศษในเทศกาลต่าง ๆ ตลอดปีนี้ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ใหม่

นอกจากจะเพิ่มการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์และลูกค้าให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังเป็นการช่วยกระตุ้นยอดขายไดน์อินให้เพิ่มขึ้นด้วย

ซึ่งการทำสิ่งเหล่านี้ และพัฒนาอย่างไม่หยุดหย่อน ทั้งเรื่องคุณภาพเมนูอาหาร และด้านการตลาด  

ส่งผลให้แบรนด์สามารถสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า และภาพรวมธุรกิจของ Sizzler มีการเติบโตเป็นไปในทิศทางบวก ตลอดมา

และช่วงส่งท้ายปีนี้ Sizzler จะกระตุ้นยอดขาย ด้วยกลยุทธ์ “Festive Marketing” ใช้เทศกาลเข้ามาเชื่อมโยงกับความพิเศษของเมนูอาหาร ควบคู่ไปกับกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่หลากหลาย

ประเดิมด้วยการรังสรรค์เมนู Festive Season 3 เมนูสเต๊ก เพื่อต้อนรับการมาถึงของเทศกาลแห่งความสุข

- สเต๊กปลากะพง และเบคอน (Bacon-Wrapped Sea Bass Steak) 

สเต๊กปลากะพงเนื้อแน่น พันด้วยเบคอน มาพร้อมมะเขือเทศสดหลากหลายชนิด อโวคาโด โฮมเมดชีส เลมอน และผักโขมผัด เสิร์ฟคู่กับซอสซีฟู้ดมาโย ในราคา 549 บาท

- สเต๊กบีฟลอยน์ และเบคอน (Bacon-Wrapped Beef Loin Steak) 

เนื้อบีฟลอยน์นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย พันด้วยเบคอน มาพร้อมมะเขือเทศสดหลากหลายชนิด อโวคาโด โฮมเมดชีส และหน่อไม้ฝรั่ง เสิร์ฟคู่กับซอสแบล็กเปปเปอร์ ในราคา 899 บาท

- สเต๊กเนื้อไพร์มริบ (สำหรับ 2 ท่าน) (Grilled Sous Vide Beef Prime Rib Cote De Boeuf)  

สเต๊กเนื้อไพร์มริบซูวี ท็อปด้วยเนยคาเฟ เดอ ปารีส และโรสแมรี เสิร์ฟพร้อมสลัด Mesclun และโปเตโต้เวจเจส ทานคู่กับซอสแบล็กเปปเปอร์ และซอสทรัฟเฟิลมาโย ในราคา 1,999 บาท

สำหรับแผนธุรกิจของ Sizzler ในปีหน้า 

แบรนด์ยังคงโฟกัสกับเรื่องการส่งมอบความสดใหม่ (Fresh) ความพรีเมียม (Premium) และคุณภาพ (Quality) ไว้เช่นเดิม เพราะเป็นรากฐานสำคัญแบรนด์

เพิ่มเติมคือ การจัดกิจกรรม Loyalty Program มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าสมาชิกทุกระดับต่อเนื่อง 

คู่ไปกับการขยายสาขา ให้ครอบคลุมพื้นที่ห้างสรรพสินค้า และหัวเมืองสำคัญ

คาดว่าปีหน้า จะขยายสาขาเพิ่มอีก 3 สาขา และรีโนเวตร้านเดิมอีก 5-6 สาขา

ซึ่ง Sizzler ได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่า อยากจะเป็นร้าน Western Casual Dining อันดับ 1 ของประเทศไทย