กลยุทธ์แบรนด์หรู ทำไม Gucci ต้องทำแคมเปญ นับถอยหลัง เปิดตัวคอลเลกชันใหม่ ที่กรุงเทพฯ บนจอยักษ์หน้าเซ็นทรัลเวิลด์
21 ก.ย. 2023
ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมานี้ ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจที่สุด ในแวดวงแบรนด์หรูระดับโลก คงหนีไม่พ้นความเคลื่อนไหว ของ Gucci แบรนด์หรูสัญชาติอิตาลี
ที่เริ่มทำแคมเปญนับถอยหลัง สู่คอลเลกชันใหม่ Spring Summer 2024 ที่มีชื่อว่า Gucci Ancora
ก่อนที่จะมีการเปิดตัวคอลเลกชันนี้อย่างเป็นทางการ ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ในวันที่ 22 กันยายน นี้
ก่อนที่จะมีการเปิดตัวคอลเลกชันนี้อย่างเป็นทางการ ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ในวันที่ 22 กันยายน นี้
เรื่องน่าสนใจ ที่เราเห็นได้จากความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุด ของ Gucci มีอยู่ด้วยกัน 2 เรื่อง
นั่นก็คือ Gucci Ancora จะเป็นคอลเลกชันแรกของ Gucci ภายใต้การนำของ Sabato de Sarno ซึ่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์คนใหม่ ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
หรือเรียกแบบง่าย ๆ ก็คือ เรากำลังจะได้เห็น “ทิศทาง” ใหม่ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ของ Gucci ในอนาคต
เพราะก่อนหน้านี้ ถ้าใครได้ติดตามบัญชี Instagram ของ Gucci จะพบว่า มีการลบโพสต์เก่า ๆ ทิ้งไปทั้งหมด เพื่อรอต้อนรับทิศทางใหม่ ๆ ที่เราจะได้เห็นกันเร็ว ๆ นี้
นอกจากนี้ Gucci ยังเล่นใหญ่ ด้วยแคมเปญนับถอยหลัง สู่การเปิดตัวคอลเลกชัน Gucci Ancora ผ่านสื่อโฆษณาขนาดใหญ่ ใน 6 เมือง Global Landmark ระดับโลก ได้แก่
เฉิงตู ประเทศจีน
ปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
โรม ประเทศอิตาลี
นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
โรม ประเทศอิตาลี
นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
แต่ที่น่าจับตามองมากที่สุด ก็คือ กรุงเทพฯ ประเทศไทย ก็ได้รับการคัดเลือก ให้เป็น 1 ใน 6 เมือง Global Landmark ระดับโลก ที่ Gucci เลือกทำแคมเปญนับถอยหลัง สู่คอลเลกชัน Gucci Ancora เช่นเดียวกัน
ทำให้ในช่วงเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ หลาย ๆ คนน่าจะได้เห็น สื่อโฆษณาของ Gucci บนบิลบอร์ด และจอโฆษณาขนาดใหญ่ กลางกรุงเทพฯ อยู่หลายแห่ง
แต่ที่โดดเด่น และได้รับการพูดถึง บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมากที่สุด คงหนีไม่พ้น ภาพของสื่อโฆษณานับถอยหลังสู่คอลเลกชัน Gucci Ancora ที่แสดงอยู่บนหน้าจอยักษ์ The Panoramix ที่ด้านหน้าเซ็นทรัลเวิลด์
ที่ดึงดูดความสนใจ และทำให้ผู้คนบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เฝ้ารอว่า Gucci จะสร้างความน่าตื่นเต้นอะไร ให้กับวงการแบรนด์หรูระดับโลก..
ซึ่งหากจะตั้งคำถาม ว่าทำไม Gucci ต้องเลือกทำแคมเปญนับถอยหลัง สู่คอลเลกชัน Gucci Ancora ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย ร่วมกับอีก 5 เมือง Global Landmark ระดับโลก..?
เรื่องนี้ วิเคราะห์ได้ไม่ยากเลย เพราะกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก
ทำให้แคมเปญนับถอยหลัง สู่คอลเลกชัน Gucci Ancora มีโอกาส ที่จะได้รับ Brand Visibility อย่างมหาศาล
ทำให้แคมเปญนับถอยหลัง สู่คอลเลกชัน Gucci Ancora มีโอกาส ที่จะได้รับ Brand Visibility อย่างมหาศาล
และที่สำคัญก็คือ Brand Visibility ที่ Gucci จะได้รับนี้ มาจาก “สายตา” ของผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก ที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับหน้าจอยักษ์ที่อยู่ด้านหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ที่เรียกได้ว่าเป็นศูนย์การค้า ที่ตั้งอยู่บนทำเล ที่สำคัญที่สุด ของกรุงเทพฯ ก็ว่าได้ และตรงจุดนี้ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ที่หลายแบรนด์ทั่วโลกต้องการจับจองพื้นที่โฆษณา
นอกจากนี้ ในแต่ละวัน เซ็นทรัลเวิลด์ ยังได้ต้อนรับผู้ที่มาใช้บริการ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มากถึง 150,000 คนต่อวัน
ยังไม่นับรวม ผู้ที่สัญจรไปมา ในย่าน “ราชประสงค์” ที่มีจำนวนอีกหลายแสนคนต่อวัน เช่นกัน
ทำให้ที่ผ่านมา เราได้เห็นแบรนด์ดังระดับโลกมากมาย เลือกทำแคมเปญใหญ่ ๆ ในกรุงเทพฯ ไม่ต่างจากเมืองใหญ่ระดับโลกอื่น ๆ เลย
นั่นหมายความว่า การที่แบรนด์หรูอย่าง Gucci เลือกทำแคมเปญนับถอยหลัง สู่คอลเลกชัน Gucci Ancora ที่กรุงเทพฯ รวมถึงที่หน้าจอ The Panoramix หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ไปพร้อม ๆ กับอีก 5 เมืองใหญ่ระดับโลก
ก็จะยิ่งเป็นการกระตุ้นให้แคมเปญนับถอยหลังที่ว่านี้ ของ Gucci ได้รับความสนใจ จากคนทั่วโลก ได้อย่างมหาศาล โดยใช้ประโยชน์จากศักยภาพสำคัญของกรุงเทพฯ นั่นเอง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากแคมเปญนั้น เป็นการนับถอยหลัง สู่คอลเลกชันใหม่ ของ Gucci ที่แฟน ๆ ทั่วโลก ต่างเฝ้าคอยที่จะได้เห็น “ทิศทาง” ใหม่ ที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน
ภายใต้การนำของ Sabato de Sarno ซึ่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์คนใหม่ ของ Gucci นั่นเอง..