มาตรการห้ามแชร์รหัสผ่านของ Netflix ได้ผลดี จำนวนสมาชิกเพิ่ม 5.9 ล้านบัญชี ในไตรมาสเดียว

หลังจากที่ Netflix แพลตฟอร์มสตรีมมิงชื่อดัง ประกาศใช้มาตรการห้ามแชร์รหัสผ่าน กับบุคคลอื่น ที่ไม่ได้อยู่อาศัยภายในบ้านหลังเดียวกัน

ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนจำนวนมาก ว่า Netflix อาจกำลังเดินเกมผิด จนทำให้สมาชิกเก่า ๆ ที่ใช้งานมาอย่างยาวนาน ยกเลิกสมาชิก เพราะค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น

แต่จากข้อมูลล่าสุด ดูเหมือนว่า มาตรการห้ามแชร์รหัสผ่านของ Netflix จะได้ผล ตามที่วางแผนไว้

เพราะในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา Netflix มีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้น มากถึง 5.9 ล้านบัญชี โดยสาเหตุหลัก ก็มาจากการใช้มาตรการห้ามแชร์รหัสผ่าน กับบุคคลที่ไม่ได้อยู่อาศัยภายในบ้านหลังเดียวกัน ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

ทำให้มีจำนวนสมาชิกที่สมัครใหม่ มากกว่าสมาชิกเก่า ที่ยกเลิกสมาชิก

และหากเทียบกับ ช่วงไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว จะพบว่าในช่วงเวลานั้น Netflix มีจำนวนสมาชิกที่ลดลงมากถึง 1 ล้านบัญชี ภายในไตรมาสเดียว

นอกจากนี้ Netflix ยังระบุด้วยว่า ในอนาคต Netflix จะใช้มาตรการห้ามแชร์รหัสผ่าน กับประเทศอื่น ๆ ที่เหลืออยู่ ให้ครบอีกด้วย

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2 ของ Netflix นั้น
มีรายได้อยู่ที่ 8,187 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.78 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 2.7%
และกำไร 1,487 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 3.3%

โดย Netflix ระบุว่า ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คาดว่ารายได้จะเติบโตได้ดี โดยมีสาเหตุจากมาตรการห้ามแชร์รหัสผ่าน และแพ็กเกจราคาถูก แต่มีโฆษณา ที่เปิดให้บริการไปแล้วในบางประเทศ

ส่วนในด้านคอนเทนต์นั้น Netflix ระบุว่า คอนเทนต์ท้องถิ่น ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ กำลังได้รับความนิยมในระดับโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกเหนือจากประเทศต้นกำเนิด

โดยในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เราได้เห็นคอนเทนต์ท้องถิ่น ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ แต่ได้รับความนิยมในระดับโลกเป็นจำนวนมาก เช่น The Glory ของเกาหลีใต้, Alice in Borderland ของญี่ปุ่น และ Hunger ของไทย

และที่สำคัญคือ คอนเทนต์เหล่านี้ ติดอันดับคอนเทนต์ที่มีการสตรีมมิงสูงสุด 10 อันดับแรก ในสหรัฐอเมริกา เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ อีกด้วย

#Netflix
#สตรีมมิง
—------------------
อ้างอิง : https://s22.q4cdn.com/959853165/files/doc_financials/2023/q2/FINAL-Q2-23-Shareholder-Letter.pdf