ทำไม AssetWise ถึงต้องเข้าซื้อ TITLE หนึ่งในผู้นำอสังหาฯ ของภูเก็ต ?

ทำไม AssetWise ถึงต้องเข้าซื้อ TITLE หนึ่งในผู้นำอสังหาฯ ของภูเก็ต ?

17 ก.ค. 2023
ล่าสุดคุณ กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาแบรนด์คอนโดฯ ชื่อดังอย่าง ATMOZ, KAVE, MODIZ และอีกหลายแบรนด์
ได้เผยว่าบริษัทกำลังขยายธุรกิจไปที่ “จังหวัดภูเก็ต” หนึ่งใน 3 จุดหมายปลายทาง
ด้านการท่องเที่ยวของไทย ที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กรุงเทพและพัทยา..
เบื้องหลังของเรื่องนี้คือ แนวโน้มการท่องเที่ยวไทยที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต ที่เป็นที่ถูกใจของชาวรัฐเซียที่ต้องการหนีความวุ่นวายมาตั้งถิ่นฐาน หรือพักผ่อนระยะยาวที่นี่กันมากขึ้น
รวมไปถึงนักท่องเที่ยวจากจีน ก็เริ่มกลับเข้ามาแล้วบางส่วน
แถมจังหวัดภูเก็ต ยังอยู่ในระหว่างการขยายสนามบินนานาชาติเฟสที่ 2 เพิ่มขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ซึ่งถ้าทำเลไม่ดีจริง มันเป็นไปได้ยากมากที่จะมีสนามบินนานาชาติถึง 2 แห่งในจังหวัดเดียวกัน..
จึงไม่แปลกเลยว่าทำไม หลายบริษัทยักษ์ใหญ่ในไทย ต่างก็ไปลงทุนที่ภูเก็ต กันเต็มไปหมดในช่วงหลัง ๆ
พอเป็นแบบนี้ แอสเซทไวส์ จึงมองเห็นโอกาสในการเติบโตที่จังหวัดนี้ และนำมาสู่บิ๊กดีลในการจับมือกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเชี่ยวชาญและเข้าใจตลาดภูเก็ตเป็นอย่างดี
นั่นก็คือ “บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE” ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หนึ่งในสองบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับแนวหน้าของภูเก็ต
การร่วมมือกันครั้งนี้ แอสเซทไวส์ ได้เข้าถือหุ้น 57% ผ่านบริษัทย่อยของแอสเซทไวส์ อีกที
โดยดีลนี้ คุณ กรมเชษฐ์ ได้บอกว่า ถือเป็น Good Timing (เวลาที่ดี), Good Deal (ข้อตกลงที่ดี) และ Good Company (บริษัทที่ดี)
ที่เป็น Good Timing ก็เพราะสถานการณ์การท่องเที่ยวภูเก็ตดีขึ้น ส่งผลให้ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น จนสามารถชดเชยความต้องการที่ชะลอตัวลงช่วงโควิด 3 ปีที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี
โดย TITLE สามารถเปิดขายและโอนทุกโครงการได้ทั้งหมด 100% อย่างรวดเร็ว แม้แต่โครงการล่าสุดที่เพิ่งเปิดขายไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 อย่างโครงการ THE TITLE HALO 1 NAIYANG ยังสามารถทำยอดขายได้แล้วกว่า 79%
Good Deal คือ การร่วมมือกันของทั้งคู่จะช่วยเสริมความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า พันธมิตร และนักลงทุนได้เป็นอย่างดี
เพราะจากความแข็งแกร่งของทั้งสองบริษัท จะช่วยผลักดันให้ตลาดอสังหาฯ ภูเก็ตเติบโต พร้อมเปิดทางไปสู่ธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง
นอกจากนี้ทาง TITLE ก็จะช่วยเป็นอีกหนึ่งช่องทางรับรู้รายได้ของแอสเซทไวส์ ได้เป็นอย่างดี
และสุดท้าย Good Company คือการที่ TITLE เป็นผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมในภูเก็ต ซึ่งมีทีมผู้บริหารที่อยู่ในธุรกิจนี้มายาวนานกว่า 10 ปีอยู่แล้ว
ที่สำคัญคือ TITLE มีที่ดินในทำเลศักยภาพพร้อมพัฒนาโครงการได้อย่างต่อเนื่อง และถ้าดูในรายละเอียดต่าง ๆ จะเห็นได้ว่าทั้ง TITLE และแอสเซทไวส์ มี DNA การทำธุรกิจที่คล้ายคลึงกันมาก ๆ
เริ่มจากทั้งคู่มีใจรักในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และมี Passion ในการพัฒนาโครงการที่ดี ใส่ใจในรายละเอียดการออกแบบ รวมถึงสามารถควบคุมต้นทุนได้ดี เหมือนกัน
ในขณะเดียวกันทั้งคู่ก็ได้รับการยอมรับอย่างมากในคุณภาพการก่อสร้าง และมีบริการหลังการขายที่ดี
ประกอบกับมีกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบในแบรนด์ของทั้งคู่อยู่แล้ว
เห็นได้จากจุดแข็งของทั้งคู่ ที่โครงการจะมีการออกแบบ และการตกแต่งให้สามารถใช้งานได้ตรงกับความต้องการ และบรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางในโครงการที่ร่มรื่น และมีขนาดใหญ่
ซึ่งจุดนี้จะเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างความสามารถในการแข่งขัน และขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ รวมถึงสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีต่อไปในอนาคต
คุณกรมเชษฐ์ กล่าวปิดท้ายว่า สำหรับแผนงานหลังจากนี้ TITLE
มีโครงการที่เตรียมพัฒนาไปจนถึงปี 2569 ทั้งหมด 9 โครงการ รวมมูลค่า 14,000 ล้านบาท
โดยเป็นโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 80 ไร่ ใน 3 ทำเลศักยภาพของภูเก็ต ได้แก่
-หาดในยาง ทั้งหมด 5 โครงการ
-หาดบางเทา 3 โครงการ
-หาดราไวย์ 1 โครงการ
ทำให้แอสเซทไวส์ คาดการณ์ว่าในอีก 3 ปี ต่อจากนี้ (2567 - 2569) บริษัทจะสามารถสร้างรายได้ตามเป้าหมายระดับ “10,000 ล้านบาท” ได้
สำหรับการร่วมมือกับ TITLE ในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำว่า แอสเซทไวส์ มั่นใจในศักยภาพการเติบโตของตลาดอสังหาฯ ภูเก็ต และยังเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการขยายการลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ ของ แอสเซทไวส์ ไปสู่จังหวัดอื่น ๆ นอกจากกรุงเทพ
หลังจากก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ได้ผนึกกำลังกับบริษัท โบทานิก้า ลักซูรี่ ภูเก็ต จำกัด ผู้นำด้านการพัฒนาโครงการพูลวิลลาระดับลักชัวรีในภูเก็ต ไปก่อน และก็ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี..
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.