เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ วางหมากธุรกิจ รุกตลาดบ้านหรู Ultra Luxury ราคา 100 ล้านบาท

ในปี 2565 ที่ผ่านมา ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ของไทย มีซัพพลาย “บ้านเดี่ยว” เกิดใหม่ 16,554 หลัง

โดยในจำนวนนี้เป็นบ้านในระดับ Luxury เพียง 1,640 หลัง หรือคิดเป็นสัดส่วนเพียง 10% ของตลาดทั้งหมด

ในขณะที่ความต้องการ ของลูกค้าที่จะซื้อบ้านในระดับ Luxury มีสูงกว่านั้นมาก..

ทำให้ในปีนี้ เราได้เห็น เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ต้องการสร้างสมดุล โดยหันมาเพิ่มการพัฒนาโครงการ “แนวราบ” มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อรองรับกับความต้องการของตลาดบ้านหรู ที่กำลังเติบโต

คุณเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลว่า

ในปีนี้ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ได้วางกลยุทธ์ Diversify Revenue ที่สร้างสมดุลสัดส่วนประเภทของธุรกิจหลัก โดยเพิ่มการพัฒนาโครงการแนวราบ เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน เสริมสร้างความแข็งแกร่งทางศักยภาพ และการดำเนินการในระยะยาว

โดยวางแผนปรับสัดส่วนมูลค่าโครงการรวม จากเดิม ที่เป็นโครงการแนวราบ 10% และโครงการแนวสูง 90%

ให้กลายเป็น โครงการแนวราบ 40% และโครงการแนวสูง 60%

นอกจากนี้ ในปีนี้ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ยังได้วางแผนขยายพอร์ตครั้งใหม่ โดยได้รุกเข้าสู่ตลาดบ้านหรู ระดับ Ultra Luxury ภายใต้แบรนด์ใหม่ ที่ชื่อว่า 10 & Only

ซึ่งโครงการ 10 & Only นี้ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับ Ultra Luxury ที่มีราคาเริ่มต้น 80 - 130 ล้านบาท บนย่านพัฒนาการ

มีจำนวนบ้านภายในโครงการเพียง 10 หลัง ด้วยมูลค่าโครงการรวมกว่า 1,100 ล้านบาท

มาพร้อมกับจุดขายสำคัญ คือ Duplex Supercar Lounge โรงรถหรูสองชั้นที่เชื่อมโยงฟังก์ชั่นระหว่าง “โรงรถ” เข้ากับ “ตัวบ้าน” เป็นมาตรฐานสำหรับบ้านทุกหลังในโครงการ

ซึ่งคุณเพชรลดา ให้ข้อมูลว่า ออกแบบจุดขายนี้จาก “อินไซต์” ความต้องการของลูกค้า ที่มีไลฟ์สไตล์รักรถยนต์เหมือนคนในครอบครัว หรือมองรถยนต์เป็นของเล่นที่ตัวเองรัก

นอกจากนี้ คุณเพชรลดา ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับภาพรวมของตลาดบ้านหรูในระดับ Super Luxury ด้วยว่า เป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง ใน 3 ทำเลหลัก คือ กรุงเทพกรีฑา พัฒนาการ และบรมราชนนี

แต่เราก็อาจเห็นโครงการบ้านหรู ในทำเลอื่น ๆ ที่มีโรงเรียนนานาชาติตั้งอยู่ ด้วยเช่นกัน

ส่วนลูกค้าของตลาดบ้านหรูในระดับ Super Luxury โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นลูกค้า End-User ยินดีที่จะจ่ายเงินให้กับโครงการบ้านจัดสรร เพื่อลดปัญหาในการปลูกสร้างบ้านเอง

รวมถึงไม่ได้มีการพิจารณาซื้อบ้าน จากทำเล หรือราคา เป็นที่ตั้ง แต่จะตัดสินใจซื้อบ้านจากแนวคิดการออกแบบ และฟังก์ชันใช้สอยที่สะดวกสบาย ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของครอบครัวในทุกมิติ

นั่นทำให้ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ จำเป็นต้องมีการพัฒนาบ้านที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้