BUZZEBEES แพลตฟอร์ม CRM อันดับ 1 ของไทย กำลังจะ IPO ในปีหน้า
22 มิ.ย. 2023
ล่าสุด BUZZEBEES แฟลตฟอร์ม CRM อันดับ 1 ของไทย ผู้อยู่เบื้องหลังแอปพลิเคชันแทบจะทุกแอปที่คนไทยใช้
ประกาศแผนธุรกิจใหม่ในการสร้าง Ecosystem ด้าน CRM & Digital Engagement ที่ใหญ่ที่สุดใน Southeast Asia
และมีแผนจะ IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์ ในปี 2024 ที่จะถึงนี้
โดยที่ผ่านมา BUZZEBEES หรือ บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของ รายได้และกำไร เป็นระยะเวลา 11 ปีติดต่อกัน
จนในปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถสร้างรายได้มากถึง 1,751 ล้านบาท ได้สำเร็จ
เมื่อบริษัทกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
แล้วแผนการขยายธุรกิจของ BUZZEBEES มีอะไรบ้าง ?
แล้วแผนการขยายธุรกิจของ BUZZEBEES มีอะไรบ้าง ?
เรื่องนี้ มร. ไมเคิล เชน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง BUZZEBEES ได้พูดถึงวิสัยทัศน์ของ BUZZEBEES ไว้ได้อย่างน่าสนใจ
BUZZEBEES มีวิสัยทัศน์ตั้งแต่ตั้งบริษัทเมื่อ 11 ปีที่แล้วคือ “CONNECTING THE WORLD”
เราต้องการเชื่อมธุรกิจทุกขนาดให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
เราต้องการเชื่อมธุรกิจทุกขนาดให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
โดยบริษัท มีเป้าหมายที่จะสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ (Business Ecosystem) ให้ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทำให้ในวันนี้ BUZZEBEES ไม่ใช่แค่บริษัทที่เป็นผู้นำด้าน Loyalty Platform แค่อย่างเดียวอีกต่อไป
แต่เป็นธุรกิจที่สร้างโครงสร้างพื้นฐานในโลกดิจิทัล (Digital Infrastructure) ผ่าน 4 ธุรกิจหลัก ได้แก่
แต่เป็นธุรกิจที่สร้างโครงสร้างพื้นฐานในโลกดิจิทัล (Digital Infrastructure) ผ่าน 4 ธุรกิจหลัก ได้แก่
1,ธุรกิจพัฒนาแพลตฟอร์มบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM & Loyalty Platform)
2 .ธุรกิจจัดหาของรางวัลและสิทธิพิเศษ (Rewards & Privileges Management)
3.ธุรกิจบริการอีคอมเมิร์ซอย่างครบวงจร (E-Commerce Service)
4.ธุรกิจบริการระบบจัดการร้านค้าและการรับชำระเงิน (Retail Solution & E-Payment)
โดยทุกบริการของ BUZZEBEES จะครอบคลุมใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และฮ่องกง
ซึ่ง BUZZEBEES คอยทำหน้าที่ดูแลแพลตฟอร์มพันธมิตรกว่า 1,200 แพลตฟอร์ม
และมีผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มรวมกันแล้วกว่า 145 ล้านบัญชี
และมีผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มรวมกันแล้วกว่า 145 ล้านบัญชี
นอกจากนี้ BUZZEBEES ยังรับหน้าที่เป็นตัวกลาง ที่คอยเชื่อมต่อแบรนด์ต่าง ๆ ให้สามารถเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกัน (Partnership Network) เช่น
เปิดตัว ShopDD (ช้อปดีดี) แพลตฟอร์ม B2B Marketplace ขนาดใหญ่ ที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับร้านค้าและแฟรนไชส์ทั่วประเทศ ได้ชอปสินค้าราคาพิเศษเปิดตัว mePoint (มีพ้อยต์) นวัตกรรม PAY-WITH-POINT (จ่ายเงินด้วยแต้ม) โดยจะเปลี่ยนคะแนนสะสมจากบัตรเครดิต และ Loyalty Program ให้เป็นส่วนลดในการใช้จ่ายให้กับร้านค้าพันธมิตรที่ร่วมรายการ
เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับคะแนนสะสม ให้มีความหลากหลาย ซึ่งจะเป็นอีกธุรกิจที่ช่วยลูกค้าให้เติบโตในโลกดิจิทัลได้อย่างครบวงจร เสริมแกร่ง Ecosystem-Driven MarTech ได้อย่างเป็นอย่างดี..
ทางด้านของ คุณพิ้งค์ ณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการ และผู้ร่วมก่อตั้ง BUZZEBEES ยังได้เผยอีกว่า
ในปี 2023 นี้ BUZZEBEES มีเป้าการเติบโตขึ้น กว่าเท่าตัวอยู่ที่ 3,400 ล้านบาท..
หลังที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ปี 2020 มีรายได้ 921 ล้านบาท
ปี 2021 มีรายได้ 1,142 ล้านบาท
ปี 2022 มีรายได้ 1,751 ล้านบาท
ปี 2021 มีรายได้ 1,142 ล้านบาท
ปี 2022 มีรายได้ 1,751 ล้านบาท
โดยกุญแจสำคัญที่จะทำให้ BUZZEBEES เติบโตได้อีกนั่นก็คือการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ และการพัฒนาโซลูชันด้าน B2E (Business to Employee)
โดยเฉพาะด้าน Employee Benefits & Wellness Platform ให้กลุ่มพนักงานทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ
อย่างล่าสุด BUZZEBEES ได้ทำการเข้าซื้อกิจการ BenePanda ที่เป็นบริษัท Employee Benefits
ในฮ่องกงอีกด้วย
ในฮ่องกงอีกด้วย
คุณพิงค์ อธิบายเพิ่มเติมว่า ที่บริษัทมีความสนใจเรื่องของ B2E นั้น ก็เพราะต้องการแก้ไข Pain Point ขององค์กรจำนวนมาก ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่เกิดโรคระบาด
โดยเมื่อแต่ละองค์กรต้องให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน ทำให้ความสัมพันธ์อันดีต่อกันค่อนข้างน้อย และข่าวสารในองค์กรจากฝ่าย HR ก็อาจไปไม่ถึงพนักงานเท่าที่ควร
BUZZEBEES จึงวางแผนแก้ปัญหาเรื่องนี้ ด้วยการจัดการสิทธิประโยชน์ให้พนักงาน เพื่อเสริมความสุขในการทำงาน เสริมความสัมพันธ์อันดีในองค์กรให้มากขึ้น
ด้วยการใช้ประโยชน์จากการสะสมแต้มในกิจกรรม Employee Engagement ต่าง ๆ ขององค์กร
โดยสามารถเอาคะแนนที่สะสมได้มาแลกเป็นของจำนวนมาก และทุกแต้มยังเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเลื่อนขั้นในองค์กรอีกด้วย..
นอกจากนี้ ในเรื่องของแผนธุรกิจใหม่ปีนี้
BUZZEBEES ได้พัฒนาโมเดลทางพันธมิตรธุรกิจรูปแบบใหม่
BUZZEBEES ได้พัฒนาโมเดลทางพันธมิตรธุรกิจรูปแบบใหม่
โดยเน้นการทำ Productization มากยิ่งขึ้น
เพื่อเจาะตลาดกลุ่ม B2B Technology Implementor & Digital Agency
เพื่อเจาะตลาดกลุ่ม B2B Technology Implementor & Digital Agency
ผ่านการเปิดให้พันธมิตรเหล่านี้ เข้าถึงโซลูชันของ BUZZEBEES เพื่อนำไปให้บริการกับกลุ่มลูกค้าของตัวเอง โดยเร่งเปิดรับพันธมิตรรายใหม่ ๆ เพื่อร่วมกันผลักดันให้ธุรกิจเติบโตไปพร้อม ๆ กัน
ยกตัวอย่างเช่น แคมเปญน้ำดื่มแบรนด์น้องใหม่ C2 ที่มี “แจ็คสัน หวัง” เป็นพรีเซนเตอร์
โดย BUZZEBEES ได้จับมือกับ “Rabbit’s Tale” เอเจนซีผู้ให้บริการด้านงานสร้างสรรค์ดิจิทัลแบบครบวงจร มาร่วมสร้าง Loyalty Platform
โดยกลุ่มผู้บริโภคสามารถสะสมคะแนน และลุ้นรับ Lucky Draw เป็นกิจกรรม Meet & Greet กับแจ็คสัน หวัง
การจับมือกันระหว่าง BUZZEBEES และ Rabbit’s Tale ช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างครบวงจรทั้งในด้าน Technology และในด้าน Creative
ซึ่งแคมเปญนี้ ก็สามารถสร้างการรับรู้ และช่วยสร้าง Engagement ให้กับแบรนด์ C2 ได้เป็นอย่างดี
สุดท้ายนี้ คุณพิ้งค์ ยังได้กล่าวปิดท้ายว่า
“ทุกวันนี้ BUZZEBEES ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาผลิตภัณฑ์
โดยในปี 2022 ที่ผ่านมา เราสามารถรักษาฐานลูกค้าเดิม (Retention) ที่ใช้บริการ BUZZEBEES ได้มากกว่า 90%
พาร์ตเนอร์ร้านค้าด้าน Rewards & Privileges มีจำนวนมากกว่า 30,000 ร้านค้า
และบริการ Online Marketing โตกว่า 700%”
และบริการ Online Marketing โตกว่า 700%”
พร้อมกับมั่นใจว่า หลังจากที่ BUZZEBEES ได้เข้า IPO ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยตั้งเป้าไว้ว่า ภายในปี 2027 จะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท
และฝันว่าจะพาบริษัทเข้าไปจดทะเบียนที่ตลาด Nasdaq ในสักวันหนึ่ง..