ไปรษณีย์ไทย ชูนวัตกรรมกล่องพัสดุช่วยโลก “ลดโลกร้อนได้ 40%” พร้อมเปิดจุดรับคืนผลิตภัณฑ์กระดาษหลากชนิด ในโครงการ reBOX #4 สู่ “กล่องรักที่สัมผัสได้” เพื่อผู้พิการ
18 พ.ค. 2023
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ตอกย้ำนโยบายกรีนโลจิสติกส์พร้อมผู้นำการใช้ประโยชน์จากกล่องพัสดุ ซอง และกระดาษ โชว์นวัตกรรมกล่องพัสดุที่ลดการปล่อยคาร์บอนที่มีความแข็งแรงทนทานและลดโลกร้อนได้ถึง40%เทียบเท่าลดการตัดต้นไม้ไปกว่า6,735ต้น ซึ่งไปรษณีย์ไทยเริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่ปี 2563 นอกจากนี้ ยังเดินหน้าเชิญชวนสายรักษ์โลกเข้าร่วมโครงการ reBOX #4 ร่วมส่งคืนกล่อง/ ซองที่ผ่านการใช้งานแล้วและผลิตภัณฑ์กระดาษอื่น ๆ
อาทิ แกนกระดาษชำระแบบม้วน แผงไข่กระดาษ หรือล็อตเตอรี่เก่า เพื่อรีไซเคิลเป็นของที่มีประโยชน์ต่อคนพิการ ภายใต้แนวคิด “กล่องรักที่สัมผัสได้” และยังสามารถสะสมแต้มผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ทั้ง Post family ECOLIFE Application Green2Get Application เพื่อรับสิทธิพิเศษมากมายตลอดโครงการ ผู้ที่สนใจสามารถรวบรวมกล่อง/ ซองที่ไม่ใช้แล้ว ส่งที่ไปรษณีย์ไทยใกล้บ้านทั่วประเทศ รวมทั้งจุดรับรวบรวมอื่นๆ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ตุลาคม 2566
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนตามพันธกิจขององค์การสหประชาชาติ ในนโยบายด้านความยั่งยืนสู่การพิชิตเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 ไปรษณีย์ไทยจึงตอกย้ำกลยุทธ์การจัดการสิ่งแวดล้อมให้เกิดประสิทธิผลทั่วทั้งองค์กร โดยเฉพาะกล่องบรรจุภัณฑ์
ซึ่งถือเป็นทรัพยากรหลักในธุรกิจขนส่ง ซึ่งปัจจุบันไปรษณีย์ไทยใช้บรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษรักษ์โลกที่มีส่วนผสมของเยื่อรีไซเคิล สามารถช่วยลดโลกร้อนได้ถึง40% ถือเป็นหนึ่งในการดำเนินงานด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ไปรษณีย์ไทยได้ริเริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2563 อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน คิดเป็นจำนวนที่ลดการตัดต้นไม้กว่า 6,735 ต้น
สำหรับบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษเพื่อการขนส่งของไปรษณีย์ไทยผ่านกระบวนการผลิตในขั้นตอนพิเศษที่มีส่วนผสมของเยื่อรีไซเคิล เพื่อลดปริมาณการใช้เยื่อกระดาษที่ผลิตจากต้นไม้โดยตรงและใช้หมึกพิมพ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ 100% ไม่ทำลายระบบนิเวศ
ซึ่งผ่านการทดสอบมาตรฐานคุณภาพการใช้งานเทียบเท่ากับกล่องพัสดุเกรดดั้งเดิมที่คงไว้ ด้วยประสิทธิภาพความแข็งแรง ทนทาน และสามารถใช้ซ้ำได้ถึง 3 – 4 ครั้ง (หากสภาพกล่องยังคงแข็งแรง) มีวางจำหน่าย ณ ไปรษณีย์ไทยทุกสาขาทั่วประเทศ ในราคาเริ่มต้นเพียง 9 บาท
ดร.ดนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่านอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังมีนโยบายในการดำเนินธุรกิจเคียงคู่ไปกับการดูแลสังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นให้ทุกกระบวนการ – ตลอดเส้นทางการขนส่งเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ด้วยโครงการ reBOX ต่อเนื่องปีที่ 4 เปิดรับรวบรวมกล่องพัสดุ ซองกระดาษที่ไม่ใช้แล้ว และกระดาษอื่นๆ จากทั่วประเทศ
ส่งคืนเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลโดย SCGP ส่งมอบให้หน่วยงานเพื่อคนพิการ อาทิ สภากาชาดไทย มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย สมาคมคนสายตาเลือนราง (แห่งประเทศไทย) สมาคมประชาคมคนตาบอดไทย
“ไปรษณีย์ไทยยังมุ่งมั่นเดินหน้าโครงการ reBOX #4 โดยเปิดรับกล่องพัสดุที่ชำรุดแล้วหรือไม่ประสงค์ใช้งานต่อ รวมถึงผลิตภัณฑ์กระดาษอื่น ๆ อาทิ แกนกระดาษชำระแบบม้วน แผงไข่กระดาษ ล็อตเตอรี่เก่า การ์ดเชิญชวนงานต่างๆ ณ จุด Drop Box ที่ไปรษณีย์กว่า 1,200 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงพันธมิตรที่ร่วมโครงการ โดยในช่วงสิ้นสุดโครงการไปรษณีย์ไทยจะร่วมกับ SCGP นำผลิตภัณฑ์กระดาษที่ไม่ใช้แล้วไปเข้ากระบวนการรีไซเคิล และสร้างประโยชน์ใหม่เพื่อส่งมอบ “กล่องรักที่สัมผัสได้” พิเศษ!!
ผู้ที่ร่วมโครงการสามารถรับสิทธิประโยชน์จากการสะสมแต้มผ่าน Post family สูงสุด 10,000 แต้ม เป็นส่วนลดการส่งพัสดุกับไปรษณีย์มูลค่าสูงสุด 1,000 บาท และยังสามารถสะสมแต้มผ่านECOLIFE Application Green2Get Application เพื่อสะสมพอยต์แลกของรางวัลพิเศษได้อีกด้วย” ดร.ดนันท์ กล่าวทิ้งท้าย
ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ reBOX สามารถรวบรวมกล่อง/ ซองที่ไม่ใช้แล้ว นำมาส่งที่ไปรษณีย์ทั่วประเทศ และจุดรับกล่อง/ ซอง ณ หน่วยงานพันธมิตร สำหรับลูกค้า ประชาชน หน่วยงานพันธมิตรที่มีกล่อง/ ซองจำนวนมาก สามารถขอรับบริการรับฝากนอกสถานที่ (Pick – Up service) ได้ที่ไปรษณีย์ทุกแห่ง ตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม 2566
Tag:ไปรษณีย์ไทย