ทำไม คนอินเดีย นิยมซื้อ “ทีวี” เป็นหนึ่งในของฝาก จากประเทศไทย

ถ้าใครได้มีโอกาสเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ คงเคยเห็นภาพ “คนอินเดีย” เข็นรถเข็นที่ไม่ได้มีแค่กระเป๋าเดินทาง และสัมภาระอื่น ๆ เพียงอย่างเดียว

แต่รถเข็นของคนอินเดีย มักมีกล่องทีวี LED ขนาดใหญ่ วางอยู่ในนั้นด้วย..

คำถามคือ ทำไมคนอินเดีย ต้องเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล ระยะทางหลายพันกิโลเมตร เพื่อเข้ามาซื้อทีวีจากประเทศไทย

จนอาจเรียกได้แบบขำ ๆ ว่า “ทีวี” เป็นหนึ่งในของฝากจากประเทศไทย ในมุมมองของคนอินเดีย ไปเสียแล้ว..

แต่หากว่ากันตามความจริง อินเดีย เป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีที่สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก แถมยังมีแบรนด์สมาร์ตโฟนและไอที ชื่อดังหลายเจ้า เข้าไปตั้งฐานการผลิตด้วย

จึงแทบไม่มีความจำเป็นที่คนอินเดีย จะต้องซื้อทีวี จากประเทศไทย เลยแม้แต่น้อย

แล้วทำไม ทีวี ที่วางขายในไทย จึงกลายเป็นสินค้ายอดนิยมของคนอินเดีย ?

เรื่องนี้ MarketThink จะพาไปหาคำตอบกัน..

ก่อนอื่นต้องพาไปดูกันก่อนว่า ทีวีที่วางขายในประเทศอินเดีย มีราคาเท่าไรกันบ้าง

หากลองเปิดเว็บไซต์ mysmartprice.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์เปรียบเทียบราคาสินค้าจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของอินเดีย

จะพบว่า ทีวี Samsung UHD ขนาด 65 นิ้ว มีราคาอยู่ที่ 81,990-84,490 รูปี (ราว 33,900-35,000 บาท)

หรืออย่าง ทีวี Sony ขนาด 55 นิ้ว จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 62,690-67,990 รูปี (ราว 26,000-28,000 บาท)

และอย่าลืมว่าราคาทีวี ที่อยู่บนเว็บไซต์ mysmartprice.com เป็นราคาทีวี ที่วางขายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเท่านั้น

ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ราคาทีวีในห้างค้าปลีกของอินเดีย อาจมีราคาที่สูงกว่านี้อีกไม่น้อยเลยทีเดียว..

เมื่อเทียบกับราคาทีวีที่วางขายในประเทศไทย ในขนาดหน้าจอเท่ากัน และมีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน อาจมีราคาที่ถูกกว่า “หลายพันบาท”

และยิ่งเป็นช่วงที่มีการจัดโปรโมชัน ราคาทีวีที่วางขายในประเทศไทย ก็จะมีราคาที่ถูกลงไปอีก

ซึ่งสิ่งที่ทำให้ทีวีในประเทศอินเดีย มีราคาที่สูงกว่าในประเทศไทย รวมถึงประเทศอื่น ๆ ก็เป็นเพราะปัจจัยทางด้าน “ภาษี” นั่นเอง

โดยอินเดีย มีการเก็บภาษีที่เรียกว่า Goods & Service Tax (GST) จากทีวี ในสัดส่วน 18-28% ตามขนาดของทีวี

- ทีวีที่มีขนาด 32 นิ้ว หรือเล็กกว่า จะมีการเก็บภาษี 18%

- ทีวีที่มีขนาดใหญ่กว่านั้น จะมีการเก็บภาษี 28%

เมื่อทีวีที่วางขายในประเทศ มีราคาแพงกว่าทีวีที่วางขายในประเทศอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด จึงทำให้คนอินเดีย หันมา “หิ้ว” ทีวี กลับไปเป็นของฝาก เมื่อได้เดินทางออกนอกประเทศ

และประเทศไทย ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศ ที่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม ของคนอินเดีย

ซึ่งนอกจากประเทศไทย จะขายทีวีที่มีราคาถูกกว่าแล้ว หากคนอินเดียซื้อทีวีจากประเทศไทย ก็สามารถใช้สิทธิ์ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (VAT Refund) ได้อีก

และนั่นก็จะยิ่งทำให้ราคาทีวี ระหว่างไทยกับอินเดีย มี “ส่วนต่าง” ที่มากกว่าเดิม..

คำถามคือ คนอินเดียที่ตัดสินใจซื้อทีวีจากประเทศไทย จะได้ทีวีในราคาถูกกว่าการซื้อทีวีในประเทศของตัวเอง จริงหรือไม่..?

เรื่องนี้ ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญ นั่นคือการประเมินภาษีที่คนอินเดียต้องจ่าย เมื่อนำทีวีที่ซื้อจากไทย กลับเข้าประเทศของตัวเอง

ซึ่งในกรณีของทีวีนั้น ทีวีทุกขนาด และทุกราคา เป็นสินค้าที่ต้องเสียภาษีในการนำเข้าสูงสุด 38.5% ของราคาประเมิน

แต่คำว่า “ราคาประเมิน” นี้เอง เป็น “ช่องว่าง” ที่ทำให้คนอินเดีย ซื้อทีวีจากไทย ได้ในราคาถูกกว่า

เพราะในบางครั้ง เจ้าหน้าที่ศุลกากรของอินเดีย อาจมีฐานข้อมูลราคาประเมินทีวี ซึ่งมีราคาต่ำกว่าราคาที่คนอินเดียต้องจ่ายจริง ๆ เมื่อซื้อทีวีจากประเทศไทย ก็เป็นไปได้

เช่น นักท่องเที่ยวชาวอินเดียคนหนึ่ง หิ้วทีวีจากไทย ซึ่งซื้อในราคา 20,000 บาท เข้าอินเดีย

แต่เจ้าหน้าที่ศุลกากรของอินเดีย กลับประเมินราคาทีวีนี้ในราคา 15,000 บาท

ทำให้ในบางครั้ง คนอินเดีย ที่ขนทีวีกลับจากต่างประเทศ ไม่ได้มีการเสียภาษีที่ “ครบถ้วน” อย่างที่ควรจะเป็น

ซึ่งก็จะทำให้การซื้อทีวีจากประเทศไทย กลายเป็นสิ่งที่มีความคุ้มค่า มากกว่าการซื้อทีวีในประเทศของตัวเอง

แม้จะต้องจ่ายทั้งภาษี และค่าขนส่งทีวีเครื่องนั้นกลับประเทศก็ตาม..

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน เราอาจเห็นภาพคนอินเดีย ที่เข็นรถเข็นในสนามบินพร้อมกับทีวีเครื่องใหญ่ได้น้อยลงกว่าในอดีตแล้ว

เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้น ว่าแม้ทีวีในประเทศไทยจะมีราคาขายที่ถูกกว่าหลายพันบาท

แต่เมื่อขนทีวีกลับเข้าไปในประเทศอินเดีย ก็มีโอกาสเช่นเดียวกัน ที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรของอินเดีย อาจมีการประเมินราคาทีวีที่สูง ซึ่งก็จะทำให้ต้องมีการเสียภาษีที่สูงขึ้นตามไปด้วย

จนทำให้การเสียเวลา “หิ้ว” ทีวีจากประเทศไทย กลับไปยังอินเดีย เป็นสิ่งที่ไม่คุ้มค่า ในบางกรณี

และหากยิ่งเทียบกับในอดีต จะพบว่า ในช่วงก่อนปี 2013 คนอินเดีย สามารถขนทีวีเข้าประเทศได้อย่างเสรี โดยไม่จำเป็นต้องเสียภาษีเพิ่มเติมแต่อย่างใด

จนทำให้มีคนอินเดีย ขนทีวีเข้าประเทศ มากกว่า 3,000 เครื่องต่อวัน เลยทีเดียว..

อ้างอิง: 

-https://www.nriguides.com/customs-duty-on-lcd-led-tv/ 

-https://cleartax.in/s/gst-on-tv 

-https://economictimes.indiatimes.com/news/economy/finance/going-abroad-cut-out-tvs-from-shopping-list-as-govt-slaps-10-import-duty-12-5-cvd/articleshow/21924637.cms?from=mdr 

-https://www.hifivision.com/threads/buying-a-tv-from-bangkok-step-by-step-guide.44506/