Apple เร่งเครื่องธุรกิจสตรีมมิง ทุ่มเงิน 34,000 ล้านบาท ต่อปี สร้างหนัง เข้าฉายในโรง ก่อนลง Apple TV+
24 มี.ค. 2023
ที่ผ่านมา Apple มีความพยายามอย่างหนัก ในการผลักดัน Apple TV+ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิงของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าในธุรกิจสตรีมมิง คนทั่วโลกกลับไม่ค่อยได้ยินชื่อของ Apple TV+ มากเท่านัก เมื่อเทียบกับยักษ์ใหญ่ในธุรกิจสตรีมมิง อย่าง Netflix และ Disney+
ล่าสุด Apple กำลังเตรียมแผนการ สร้างชื่อชั้นในธุรกิจสตรีมมิงครั้งใหญ่ ด้วยการทุมงบปีละกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 34,000 ล้านบาท) เพื่อสร้างภาพยนตร์ “ฟอร์มยักษ์” เข้าฉายในโรงภาพยนตร์
แล้วจึงนำภาพยนตร์เรื่องนั้น เข้าฉายใน Apple TV+ หลังจากที่ภาพยนตร์ ออกจากโรง
และนั่น ก็จะทำให้คนทั่วโลก เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อ Apple จากที่เคยเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิงที่ไม่ค่อยได้ยินชื่อเสียง สู่บริษัทที่จริงจัง ในธุรกิจสตรีมมิง และภาพยนตร์มากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า แม้ Apple จะเป็นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ แต่การเร่งเครื่องในธุรกิจสตรีมมิง และภาพยนตร์ในครั้งนี้ อาจไม่ใช่งานถนัดของ Apple มากนัก
ทำให้การทุ่มเงินหลายหมื่นล้านบาทต่อปี ของ Apple ต้อง อาศัยการหาสตูดิโออื่น ๆ ที่จะเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ ร่วมสร้างภาพยนตร์กับ Apple
นอกจากนี้ จากการรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศ ยังคาดการณ์ด้วยว่า ในปีนี้ จะมีภาพยนตร์ที่ Apple เป็นพาร์ทเนอร์กับสตูดิโอต่าง ๆ เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ก่อน แล้วจะนำไปลงใน Apple TV+ ในภายหลัง จำนวน 2 เรื่องด้วยกัน ได้แก่
ภาพยนตร์แนวระทึกขวัญ เรื่อง Argylle ที่มี Henry Cavill และ Dua Lipa เป็นนักแสดง รวมถึงภาพยนตร์แนวประวัติศาสตร์ เรื่อง Napoleon อีกด้วย
ส่วนในปีต่อ ๆ ไป คาดการณ์ว่า Apple จะพูดคุยกับสตูดิโอต่าง ๆ ต่อไป เพื่อสร้างภาพยนตร์ โดยที่มี Apple เป็นพาร์ทเนอร์เพิ่มเติม
สิ่งที่น่าสนใจคือ กลยุทธ์ในการลุยธุรกิจสตรีมมิงของ Apple ที่เปลี่ยนไป เพราะหากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ Apple TV+ เป็นแพลตฟอร์มที่ Apple ทุ่มเงินในการสร้างภาพยนตร์ และซีรีส์ ที่มีคุณภาพดี จำนวนไม่น้อย
แต่การที่ภาพยนตร์เหล่านั้น ถูกนำไปฉายเพียงในแพลตฟอร์ม Apple TV+ ซึ่งมีฐานคนดูไม่มาก
จึงทำให้ภาพยนตร์เหล่านั้น ไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แม้หลาย ๆ เรื่อง จะได้รับเสียงตอบรับที่ดี จากผู้ชมก็ตาม
จึงทำให้ภาพยนตร์เหล่านั้น ไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แม้หลาย ๆ เรื่อง จะได้รับเสียงตอบรับที่ดี จากผู้ชมก็ตาม
และการที่ Apple เลือกที่จะเปลี่ยนกลยุทธ์ โดยนำภาพยนตร์เข้าฉายในโรงก่อน แล้วจึงนำไปลงใน Apple TV+ ในภายหลัง ก็อาจเป็นทางเลือกที่ดี และสามารถช่วยให้ Apple TV+ ได้รับความนิยมในวงกว้างมากขึ้นก็เป็นได้
และที่สำคัญคือ Apple ก็อาจได้รับการยอมรับ ในวงการภาพยนตร์ระดับโลก มากยิ่งขึ้นด้วย..