Tesla เปิดโอกาสให้คนไทย ได้เป็นเจ้าของสถานี “Tesla Supercharger” รุกกลยุทธ์ Silence Marketing ในไทย

หลังจาก Tesla ประเทศไทย ได้เปิดตัวแบรนด์และรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 และ Model Y ไปในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้ผลตอบรับจากชาวไทยเป็นอย่างดี

และล่าสุด มีความเคลื่อนไหวจาก Tesla ประเทศไทย
ที่ไม่ได้ให้คนไทย มีโอกาสเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ได้เป็นเจ้าของสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าความเร็วสูง “Tesla Supercharger” อีกด้วย

รายละเอียด > https://www.tesla.com/th_th/host-a-supercharger?fbclid=IwAR2o6t-1CUG7qsfLs6-d8SjRBHXlt3ikOTqgPS0YBdk6o61MCoyf1OmT54M&mibextid=Zxz2cZ

แล้วการเป็นเจ้าของสถานีชาร์จ จะได้ประโยชน์อะไร ?

ซึ่งการลงทุนตั้งสถานีชาร์จ นอกจากจะเป็นการสร้างแหล่งรายได้ใหม่แล้ว (เช่น เก็บค่าไฟฟ้า, ค่าบริการต่าง ๆ)
ยังช่วยให้ผู้ประกอบการที่มีร้านค้าหรือสถานบริการ เพิ่มแทรฟฟิก ดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาแวะเวียน

อีกทั้งยังต่อยอด เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจได้ด้วย โดยเฉพาะธุรกิจที่ลูกค้าต้องใช้เวลาอยู่ในพื้นที่นั้นเป็นเวลานาน เช่น ร้านอาหาร, โรงแรม

ส่วนในมุมของ Tesla การขยายสถานีชาร์จ “Tesla Supercharger” ก็ทำให้แบรนด์ได้ประโยชน์ในเรื่องการตลาดด้วยเช่นกัน

รู้ไหมว่า Tesla เป็นแบรนด์ที่ทำการตลาด โดยไม่เน้นซื้อโฆษณา (Advertising)
แต่จะใช้กลยุทธ์อื่น ๆ ในการทำการตลาดและโปรโมตแบรนด์แทน

เช่น กลยุทธ์การบอกแบบปากต่อปาก ผ่านการพัฒนาสินค้าและบริการให้ล้ำสมัย เป็นที่จับตาของตลาด สื่อ และอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อให้ช่วยโปรโมต (เช่น ทำคอนเทนต์รีวิว) กันแบบฟรี ๆ

รวมถึงไปถึงใช้กลยุทธ์ “Silence Marketing”
ที่หมายถึง การทำสินค้า ให้สามารถขายได้ด้วยตัวของมันเอง
ไม่ว่าจะผ่านทางแพ็กเกจจิง, การจัดแสดงบนชั้นขายสินค้า, สัญลักษณ์ หรือป้ายที่ก่อให้เกิดการจดจำ

อย่างกรณีของ Tesla สถานี “Tesla Supercharger” ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุด ซึ่งสถานีมีตั้งกระจายตัวอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก

โดยสถานีชาร์จเหล่านี้ ก็จะสามารถมองเห็นจากตัวถนน และตามร้านค้าต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย
คล้าย ๆ เวลาที่เราขับรถแล้วมองเห็นปั๊มน้ำมัน นั่นแปลว่า ผู้ที่สัญจรผ่านไปมา ก็จะเกิดการรับรู้และจดจำในแบรนด์ Tesla ไปโดยปริยาย ผ่านสถานี “Tesla Supercharger”
แบบที่ไม่ต้องยิงโฆษณา หรือซื้อป้ายบิลบอร์ดเพื่อบอกว่า Tesla เป็นใคร.. นั่นเอง