
กรณีศึกษา รัฐช่วยออกเงินดาวน์ที่อยู่อาศัย 50,000 บาท
3 ธ.ค. 2019
เราคงได้ยินข่าวใหญ่โครงการ “บ้านดีมีดาวน์”
ที่รัฐบาลจะช่วยออกเงินดาวน์ที่อยู่อาศัย 50,000 บาทต่อราย ซึ่งจะใช้วิธีใครซื้อก่อน ได้สิทธิก่อน
มีกำหนดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 – 31 มีนาคม 2563
ที่รัฐบาลจะช่วยออกเงินดาวน์ที่อยู่อาศัย 50,000 บาทต่อราย ซึ่งจะใช้วิธีใครซื้อก่อน ได้สิทธิก่อน
มีกำหนดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 – 31 มีนาคม 2563
โดยมีโควต้ามอบสิทธิพิเศษนี้ให้ 1 แสนคน ซึ่งคนที่จะได้รับสิทธิก็คือ ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 1.2 ล้านบาท/ปี
หรือคิดคร่าวๆ ก็คือคนที่มีเงินเดือนต่ำกว่า 1 แสนบาท/ เดือนนั่นเอง
หรือคิดคร่าวๆ ก็คือคนที่มีเงินเดือนต่ำกว่า 1 แสนบาท/ เดือนนั่นเอง
เหตุผลเพราะรัฐบาลมองว่ากลุ่มคนที่มีรายได้มากกว่านี้ มีกำลังซื้อที่อยู่อาศัยล้นเหลือ ไม่จำเป็นที่รัฐจะต้องไปโอบอุ้ม
ผิดกับกลุ่มคนรายได้ปานกลางถึงรายได้น้อยที่อยากมีที่อยู่อาศัยแต่ยังไม่กล้าตัดสินใจ
การช่วยเงินดาวน์ 50,000 บาทก็เหมือนข้อเสนอที่มาช่วยกระตุ้นให้เขาตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น
การช่วยเงินดาวน์ 50,000 บาทก็เหมือนข้อเสนอที่มาช่วยกระตุ้นให้เขาตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น
ที่สำคัญเวลานี้บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายรายกำลังเจอวิกฤติครั้งใหญ่
ด้วยตัวเลขที่อยู่อาศัยทุกประเภทค้างสต็อกร่วมกันมากกว่า 3 แสนกว่ายูนิตเลยทีเดียว
ส่งผลให้หลายบริษัทเลื่อนการเปิดตัวโครงการใหญ่ๆ บางรายเลื่อนไปเป็นปีหน้า (2563)
หรือซ้ำร้ายหนักไปกว่านั้นก็คือบางโครงการถูกเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนด
ด้วยตัวเลขที่อยู่อาศัยทุกประเภทค้างสต็อกร่วมกันมากกว่า 3 แสนกว่ายูนิตเลยทีเดียว
ส่งผลให้หลายบริษัทเลื่อนการเปิดตัวโครงการใหญ่ๆ บางรายเลื่อนไปเป็นปีหน้า (2563)
หรือซ้ำร้ายหนักไปกว่านั้นก็คือบางโครงการถูกเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนด
เหตุผลมาจากคนไทยไม่ค่อยเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยที่เวลานี้ดูอ่อนแอ จนถึงมาตราการ LTV
ที่มีกฎเหล็กคือหากใครคิดที่จะซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 จะต้องใช้เงินดาวน์ 20%
ถือเป็นกลยุทธ์สกัดกั้น นักลงทุนที่ซื้อเก็งกำไร จนถึงการซื้อเพื่อปล่อยเช่า
ผลที่ตามมาก็คือ หลายบริษัทมียอดขายลดลงอย่างน่าใจหาย
โดยมาตรการนี้มีเหตุผลว่าเพื่อไม่ให้เกิด ฟองสบู่แตก ซ้ำรอยประวัติศาสตร์เหมือนอย่างปี 2540
ที่มีกฎเหล็กคือหากใครคิดที่จะซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 จะต้องใช้เงินดาวน์ 20%
ถือเป็นกลยุทธ์สกัดกั้น นักลงทุนที่ซื้อเก็งกำไร จนถึงการซื้อเพื่อปล่อยเช่า
ผลที่ตามมาก็คือ หลายบริษัทมียอดขายลดลงอย่างน่าใจหาย
โดยมาตรการนี้มีเหตุผลว่าเพื่อไม่ให้เกิด ฟองสบู่แตก ซ้ำรอยประวัติศาสตร์เหมือนอย่างปี 2540
เมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้ มาตราการมอบเงินดาวน์ที่อยู่อาศัย ที่รัฐบาลต้องใช้เงินราวๆ 5,000 ล้านบาท
ก็เพื่อกระตุ้นสร้างยอดขายให้เหล่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์ได้เดินหน้าต่อไป เปิดตัวโครงการใหม่ๆ ขายกันในอนาคต
เพราะหากสินค้ายังคงค้างสต็อกมหาศาลขนาดนี้
บริษัทอสังหาริมทรัพย์ก็ย่อมจะไม่ผลิตสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาด
ก็เพื่อกระตุ้นสร้างยอดขายให้เหล่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์ได้เดินหน้าต่อไป เปิดตัวโครงการใหม่ๆ ขายกันในอนาคต
เพราะหากสินค้ายังคงค้างสต็อกมหาศาลขนาดนี้
บริษัทอสังหาริมทรัพย์ก็ย่อมจะไม่ผลิตสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาด
ยิ่งธุรกิจนี้ เป็นธุรกิจที่จะส่งผลให้หลายๆ ธุรกิจจะดีจะร้ายตามไปด้วย
กล่าวคือหากบริษัทเปิดตัวสร้างโครงการใหม่ๆ ก็จะต้องใช้ เหล็ก, ปูน, ทราย, เฟอร์นิเจอร์,
และสินค้าอื่นๆ อีกสารพัดมากมายจนไปถึงการจ้างแรงงานที่เพิ่มขึ้น
แต่หาก...บริษัทเหล่านี้ไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ ธุรกิจเหล่านี้ก็จะได้ผลกระทบยอดขายลดน้อยลง
และการจ้างงานก็ลดลง เช่นกัน
กล่าวคือหากบริษัทเปิดตัวสร้างโครงการใหม่ๆ ก็จะต้องใช้ เหล็ก, ปูน, ทราย, เฟอร์นิเจอร์,
และสินค้าอื่นๆ อีกสารพัดมากมายจนไปถึงการจ้างแรงงานที่เพิ่มขึ้น
แต่หาก...บริษัทเหล่านี้ไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ ธุรกิจเหล่านี้ก็จะได้ผลกระทบยอดขายลดน้อยลง
และการจ้างงานก็ลดลง เช่นกัน
จึงเป็นเหตุผลที่รัฐบาลเลือกที่จะกระตุ้นธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ อย่างเข้มข้น
เพราะคิดว่าหากกระตุ้นสำเร็จระบบเศรษฐกิจไทยน่าจะหมุนเวียนได้ดีขึ้น ไม่มากก็น้อย
เพราะคิดว่าหากกระตุ้นสำเร็จระบบเศรษฐกิจไทยน่าจะหมุนเวียนได้ดีขึ้น ไม่มากก็น้อย
แต่...ก็ยังไม่มีใครกล้ารับประกันว่าโควต้า 1 แสนรายที่จะได้รับสิทธิเงินดาวน์ 50,000 บาท
จะมีผลตอบรับมากน้อยแค่ไหน
จะมีผลตอบรับมากน้อยแค่ไหน
รวมไปถึงแต่ละธนาคารเองจะมีการลดดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่อาศัย
เพื่อเป็นแรงบวกกระตุ้นให้คนที่คิดอยากมีที่อยู่อาศัยตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
เพื่อเป็นแรงบวกกระตุ้นให้คนที่คิดอยากมีที่อยู่อาศัยตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
ซึ่งหากมีคนใช้สิทธิเต็มโควต้า 1 แสนคนก็จะระบายสต็อกที่อยู่อาศัยในมือของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไปได้มาก
ที่สำคัญยังช่วยให้เกิดสภาพคล่องทางการเงินของเหล่าบรรดาบริษัทอสังหาริมทรัพย์
ที่จะต้องนำเงินไปจ่ายคืนธนาคารที่กู้มา จนถึงมีความพร้อมที่จะเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ๆ
ที่สำคัญยังช่วยให้เกิดสภาพคล่องทางการเงินของเหล่าบรรดาบริษัทอสังหาริมทรัพย์
ที่จะต้องนำเงินไปจ่ายคืนธนาคารที่กู้มา จนถึงมีความพร้อมที่จะเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ๆ
ขณะเดียวกันก็มีเสียงสะท้อนมาว่ารัฐบาลกำลังกระตุ้นผิดจุดหรือไม่ แทนที่จะไปยกเลิกมาตราการ LTV
เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่อยากซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 สามารถซื้อได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการลงทุนหรือซื้ออยู่เอง
เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่อยากซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 สามารถซื้อได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการลงทุนหรือซื้ออยู่เอง
ในอีกมุมหนึ่ง ก็มีคนบอกว่าการมอบเงินดาวน์ 50,000 บาทครั้งนี้อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะคนระดับกลางและล่าง อาจมองระยะยาวว่าตัวเองยังไม่พร้อมที่จะเป็น “มนุษย์หนี้” ผ่อนที่อยู่อาศัยนาน 20 -25 ปี
ซึ่งสรุปแล้วคำถามนี้ก็คงไม่ต่างจาก ไก่ กับ ไข่ อะไรจะเกิดก่อนกัน ?
เราคงต้องรอดูว่าเมื่อสิ้นสุดนโยบายมอบเงินดาวน์ 50,000 บาทของรัฐบาลในช่วงสิ้นเดือนมีนาคม ปีหน้า
โควต้า 1 แสนรายจะเต็ม หรือจะเหลือเยอะ จนต้องยืดเวลาแจกเงินดาวน์ต่อไปอีก….
เราคงต้องรอดูว่าเมื่อสิ้นสุดนโยบายมอบเงินดาวน์ 50,000 บาทของรัฐบาลในช่วงสิ้นเดือนมีนาคม ปีหน้า
โควต้า 1 แสนรายจะเต็ม หรือจะเหลือเยอะ จนต้องยืดเวลาแจกเงินดาวน์ต่อไปอีก….