ทฤษฎีให้เบ็ดตกปลาของ “เซ็นทรัล ทำ” กำลังสร้าง Social Impact อย่างยั่งยืน

ทฤษฎีให้เบ็ดตกปลาของ “เซ็นทรัล ทำ” กำลังสร้าง Social Impact อย่างยั่งยืน

1 เม.ย. 2022
“เราไม่ได้ให้ปลาเขาสักตัว แต่เราให้เบ็ดตกปลา เพื่อให้เขาอยู่ได้ด้วยตัวเอง”
พิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล และผู้ดูแลโครงการ “เซ็นทรัล ทำ” บอกถึงวิธีคิดของโครงการ
แม้จะเป็นประโยคสั้น ๆ แต่กลับเป็นแนวคิดอันทรงพลังในการสร้างสังคมที่ยั่งยืน ผ่านโครงการที่จัดตั้งขึ้นมาอย่าง “เซ็นทรัล ทำ”
เพราะด้วยแนวคิดนี้ได้ทำให้ “เซ็นทรัล ทำ” สามารถสร้าง Social Impact ในหลายมิติเลยทีเดียว
ยกตัวอย่างเช่น ในปี 2564 ที่ผ่านมา ทางทีมงานมีการลงพื้นที่ช่วยเหลือครอบครัว กว่า 100,000 ครัวเรือนใน 44 จังหวัด เพื่อให้เพาะปลูกผักผลไม้, เลี้ยงสัตว์, ผลิตสินค้าชุมชน ที่มีมาตรฐานสูง จนถึงการให้ความรู้ในกระบวนการผลิตต่าง ๆ
จากนั้นผลผลิตและสินค้าที่ได้ ก็จะนำมาขายผ่านร้านค้าในเครือของเซ็นทรัล
โดยสร้างรายได้ในปีที่แล้ว มากกว่า 1,500 ล้านบาท ส่งผลให้ครอบครัวที่เข้าร่วมโครงการ มีรายได้เพิ่มขึ้นราว ๆ 3 เท่า
เหตุผลเพราะ “เซ็นทรัล ทำ” ตัดวงจรต้นทุนให้แก่กลุ่มเกษตรกรเหล่านี้
เมื่อไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ไม่ต้องเสียค่าขนส่งสินค้า เพราะทางกลุ่มเซ็นทรัลมีรถขนส่งมารับถึงที่
เพื่อนำมาขายผ่านร้านค้าในเครือเซ็นทรัล เช่น ท็อปส์ ที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศได้ทันที
ขณะเดียวกัน ก็มีการสร้างโมเดล ตลาดจริงใจ ที่เป็นการแบ่งพื้นที่ศูนย์การค้าให้แก่เกษตรกร สามารถนำสินค้ามาขายได้เอง ทำให้คนเมืองได้ซื้อสินค้าราคาถูกมีคุณภาพ
แน่นอนว่าโมเดลธุรกิจนี้ช่วยลดต้นทุนให้แก่เกษตรกร และย่อมทำให้ผลผลิต 1 ชิ้นสร้างกำไรได้มากกว่าเดิม
จะเห็นว่า “เซ็นทรัล ทำ” ใช้แนวคิด CSV หรือ Creating Shared Value ให้สามารถเพิ่มมูลค่าของสินค้าและสร้างผลประโยชน์ให้ครบทุกฝ่ายทั้งเกษตรกร, ลูกค้าที่เดินในศูนย์การค้า และธุรกิจของตัวเอง
ความน่าสนใจมันอยู่ที่ว่า แนวคิดนี้ไม่ได้จำกัดแค่สร้างอาชีพเพื่อให้เศรษฐกิจชุมชนแข็งแกร่ง
แต่ยังมีอีก 6 แนวทางที่ “เซ็นทรัล ทำ” ให้ความสำคัญเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
1. ส่งเสริมเศรษฐกิจ ชุมชน สร้างอาชีพ
สนับสนุน 1 แสนครัวเรือน กว่า 44 จังหวัด เพื่อพัฒนา ผลิตผลทางการเกษตร เลี้ยงสัตว์ ผลิตสินค้าชุมชน พร้อมนำสินค้า มาขายผ่านในพื้นที่ของกลุ่มเซ็นทรัล
2. ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเสมอภาคอย่างเท่าเทียม โดยเรื่องนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเด็นหลัก ๆ
รู้หรือไม่ว่า ธุรกิจในเครือเซ็นทรัล สร้างงานให้คนพิการมากกว่า 600 คน
ซึ่งนอกจากสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มคนพิการแล้วนั้น ก็ยังสร้างกำไรในหัวใจ ที่จะทำให้คนพิการที่อยู่ในโครงการนี้รู้สึกว่าพวกเขาก็มีความสามารถ ไม่ได้แตกต่างหรือด้อยกว่าคนธรรมดาทั่วไป
ส่วนอีกประเด็น คือ เรื่องการศึกษา ที่โครงการนี้ได้เข้าไปร่วมมือกับโรงเรียนต่าง ๆ ในชนบท
เพื่อร่วมวางแผนพัฒนาทั้งคุณครูและนักเรียน ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล ไปจนถึงระดับอุดมศึกษา เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกที่เปลี่ยนไป
เรื่องนี้ถือว่าสำคัญ เมื่อเวลานี้สิ่งที่จำเป็นและขาดหายไปในระบบการศึกษาไทย ก็คือเด็กต้องรู้จักปรับตัวต่อโลกที่เปลี่ยนไป พร้อมกับคิดวิเคราะห์เพื่อนำมาต่อยอดและใช้ได้จริง
3. พัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์
กลุ่มเซ็นทรัลมีการพัฒนาทักษะในการใช้ชีวิตและการทำงานให้แก่พนักงานทุกฝ่าย
เป้าหมายก็เพื่อให้พนักงานมีการเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ในโลกการทำงานและธุรกิจ ซึ่งจะทำให้ได้เปรียบในเชิงการแข่งขันนั่นเอง
4. เศรษฐกิจหมุนเวียน บริหารจัดการขยะมูลฝอย
โครงการ Journey to Zero เพื่อลดการสร้างขยะมูลฝอยให้เป็นศูนย์ (Zero Waste) และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)
โดยสามารถลดการใช้พลาสติกไปได้มากกว่า 5,000 ตัน
5. ลดการสูญเสียอาหารในกระบวนการผลิตและลดปริมาณขยะอาหาร
ไม่ใช่แค่ขยะพลาสติกที่กำลังเป็นปัญหาของโลก แต่ขยะจากเศษอาหารก็กำลังเป็นปัญหาเช่นกัน
ทั้ง ๆ ที่เศษอาหารเหล่านี้สามารถนำไปทำประโยชน์ในเชิงการเกษตรได้
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า “เซ็นทรัล ทำ” มีการนำเศษอาหารที่อยู่ในวงจรธุรกิจของตัวเอง
ทั้งในกลุ่มโรงแรมและศูนย์การค้า มาแปรสภาพเป็นปุ๋ยอินทรีย์และก๊าซชีวภาพ
ตัวอย่างเช่นในศูนย์การค้า เซ็นทรัล เฟสติวัล สมุย และในโรงแรมเซ็นทารา ก็มีการคัดแยกขยะ ติดตั้งเครื่องผลิตปุ๋ยหมักและก๊าซชีวภาพ
6. ฟื้นฟูสภาพอากาศ ลดมลภาวะ และผลักดันให้ใช้พลังงานหมุนเวียน
ในกลุ่มธุรกิจเซ็นทรัล ได้มีการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์บนหลังคา
ที่นอกจากจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าแล้วนั้น ยังถือเป็นการใช้พลังงานสะอาด ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
หรือแม้แต่ธุรกิจในเครือเช่น ท็อปส์ เดลี่, แฟมิลี่มาร์ท ทั่วประเทศไทย ก็มีการติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์
จนถึงโครงการ “เซ็นทรัล ทำ” ที่ได้ร่วมมือกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
มีการปลูกป่า เพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมืองไทยไปแล้ว กว่า 2,000 ไร่ เพื่อสร้างอากาศบริสุทธิ์และธรรมชาติที่สวยงามให้แก่คนรุ่นหลังได้สัมผัส
จะเห็นว่าโครงการ “เซ็นทรัล ทำ” ไม่ได้ลงมือทำแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่พยายามลงมือทำให้ทุก ๆ ภาคส่วนดีขึ้นกว่าเดิม
ไม่ว่าจะเป็น ความเป็นอยู่ของผู้คน, สิ่งแวดล้อม, และธุรกิจทั้งหมดในเครือของตัวเอง
วิธีคิดนี้ก็คือ “โมเดลธุรกิจความยั่งยืน” ที่เราได้ยินบ่อย ๆ ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา
เพียงแต่ความไม่ธรรมดาของเรื่องนี้ก็คือ ใครจะคิดว่ากลุ่มเซ็นทรัลคิดเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อ 75 ปีที่แล้ว
นับตั้งแต่วันที่เริ่มต้นทำธุรกิจ เมื่อผู้ก่อตั้งบริษัทอย่างคุณ เตียง จิราธิวัฒน์ มีความเชื่อที่ว่า
“ในการดำรงอยู่นั้น เราต้องมีแนวทางใช้ชีวิตร่วมกัน เพื่อให้การอยู่ร่วมกันมีความสุขตลอดไป”
เป็นการสะท้อนสิ่งหนึ่งที่เป็นความจริงที่ว่า ไม่ว่าโลกใบนี้จะเปลี่ยนไปแค่ไหน
“ไม่มีใครที่จะเติบโตได้เพียงคนเดียว หากสิ่งรอบข้างอยู่ในภาวะวิกฤติ”
สามารถรับชมภาพยนตร์โฆษณาได้ที่
อ้างอิง: งานแถลงข่าวโครงการ เซ็นทรัล ทำ
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.