Laughing Man Coffee ร้านกาแฟกำไร 0% ที่ก่อตั้งโดย Hugh Jackman

ณ เวลานี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก “Hugh Jackman” นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง
ผู้ที่ฝากการแสดงอันยอดเยี่ยมไว้ในภาพยนตร์มากมาย
ตั้งแต่ The Prestige, The Greatest Showman ไปจนถึงแฟรนไชส์ซูเปอร์ฮีโรอย่าง X-Men

แต่รู้หรือไม่ว่า ชายคนนี้เองมีชีวิตอีกด้านหนึ่งนอกจากเรื่องการแสดง
นั่นคือ การทำธุรกิจร้านกาแฟ ที่มีชื่อแบรนด์ว่า “Laughing Man Coffee”

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจที่เขาทำนั้นแตกต่างจากเจ้าของธุรกิจร้านกาแฟรายอื่น ๆ
เพราะว่ากำไร 100% ที่ได้รับ กลับนำไปบริจาคแก่มูลนิธิทั้งหมด

อะไรคือสาเหตุที่ส่งผลให้ Jackman ตัดสินใจเลือกทำแบบนี้
เราคงต้องย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2552

เมื่อนักแสดงชื่อดังเดินทางไปเยี่ยมชมโครงการพัฒนาชุมชนที่ประเทศเอธิโอเปีย
ที่นั่นทำให้เขาได้รู้จักกับครอบครัวของ Dukale เพื่อนชาวเอธิโอเปียที่เป็นคนร่าเริง และเป็นชาวไร่กาแฟในชุมชนแห่งนั้น

ด้วยการคลุกคลีกับชาวไร่กาแฟ และมีส่วนร่วมในการเพาะปลูกกาแฟ
Jackman จึงเห็นถึงต้นตอว่า ที่เกษตรกรยังคงยากจน และมีคุณภาพชีวิตที่แย่
แม้ว่าจะขยันขันแข็งมากเพียงใดก็ตาม หรืออุตสาหกรรมกาแฟจะเติบโตมาโดยตลอด
ก็เพราะคนกลุ่มนี้โดนเอาเปรียบ และถูกกดราคาจากภาครัฐและพ่อค้าคนกลางอยู่เสมอ

เมื่อเกิดปัญหาอย่างที่เล่ามา Jackman และ David Steingard เพื่อนสนิทของเขา เลยตัดสินใจร่วมก่อตั้ง ร้านขายกาแฟเพื่อเกษตรกร ที่มีชื่อว่า Laughing Man Coffee ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก Dukale
โดยสถานที่ตั้งอยู่ในแมนแฮตตัน, นิวยอร์ก

แล้ว Laughing Man Coffee แตกต่างจากร้านกาแฟรายอื่นในอุตสาหกรรมอย่างไร ?

หากมองรูปแบบธุรกิจก็เหมือนร้านขายกาแฟทั่วไป
ตรงที่ร้านจะไปซื้อเมล็ดกาแฟมาวางขาย หรือมาทำเป็นเครื่องดื่มขายแก่ลูกค้า
แต่สิ่งที่พิเศษคือ ร้านกาแฟ Laughing Man Coffee สนับสนุนการค้าในรูปแบบ Fair Trade หรือการซื้อขายอย่างเป็นธรรม

ดังนั้นเกษตรกรจะได้รับการคุ้มครองอย่างแน่นอน ทั้งด้านราคาและกฎเกณฑ์
รวมถึงจะไม่มีการใช้แรงงานเด็กด้วย

ซึ่งทางบริษัทจะซื้อเมล็ดกาแฟจากเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟโดยตรง ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางหรือโรงงานใด ๆ เลย เพื่อให้เม็ดเงินไหลเข้าสู่ผู้คนที่เพาะปลูกกาแฟอย่างเต็มที่

โดย Laughing Man Coffee จะจัดซื้อกาแฟจากประเทศที่ยากจน เช่น เอธิโอเปีย, เปรู และโคลอมเบีย เท่านั้น
และกำไรที่เหลือหลังจากหักค่าใช้จ่าย ก็โอนเข้ามาสู่มูลนิธิ The Laughing Man Foundation
เพื่อสนับสนุนชุมชนเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ ทั้งด้านการศึกษา, โครงสร้างพื้นฐาน และที่อยู่อาศัย รวมถึงผู้ประกอบการเพื่อสังคมทั่วโลกด้วย

แม้ว่าการคืนกำไรแก่ชุมชนไร่กาแฟ จะกลายเป็นจุดขายของ Laughing Man Coffee ไปแล้ว
แต่ร้านกาแฟแห่งนี้ ก็ไม่ลืมที่จะพัฒนารสชาติให้เป็นที่ถูกปากคอกาแฟ

โดยกาแฟตัวที่ขายดีที่สุดอย่าง Dukale’s Blend ได้รับการการันตีจากนักชิมกาแฟทั่วโลกว่า เป็นกาแฟ Full Body ที่มีคุณภาพ เพราะเมล็ดกาแฟหนาแน่นดีมากที่สุดแบรนด์หนึ่งเลยทีเดียว

ช่วงแรก Laughing Man Coffee มีเพียง 2 ช่องทางสำหรับการวางขาย คือ
ขายผ่านทางออนไลน์ และร้านกาแฟสองสามแห่งของตัวเองในนิวยอร์ก เท่านั้น

แต่ภายหลังปี 2559 กาแฟแบรนด์นี้ก็ได้ถูกวางขายอยู่ทั่วร้านค้าในสหรัฐอเมริกา
โดยได้รับการสนับสนุนจาก Kroger ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ของประเทศ
ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกเมล็ดกาแฟและองค์กรการกุศล มีเงินเข้ามามากกว่าที่เคยเป็นมา

ปัจจุบัน Laughing Man Coffee ช่วยให้ชุมชนเหล่าเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟที่เข้าร่วมโครงการ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งการเพิ่มรายได้, ปรับปรุงที่อยู่อาศัย และมอบทุนการศึกษาแก่เด็กแต่ละครอบครัว

ถือเป็นอีกกรณีศึกษาหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะเห็นได้ว่าเราสามารถทำสิ่งที่ตัวเองรักและตอบแทนสังคมไปพร้อม ๆ กันได้
อย่างเช่น Jackman ผู้ที่หลงรักกาแฟ ได้สร้าง Laughing Man Coffee ช่วยเหลือเกษตรกรไว้นั่นเอง..

อ้างอิง:
-https://www.insider.com/hugh-jackman-fair-trade-coffee-laughing-man-new-york-visit-2019-10#
-https://www.borgenmagazine.com/hugh-jackmans-coffee-helps-poor-farmers/
-https://www.thedrum.com/news/2018/03/12/hugh-jackman-refreshes-his-laughing-man-coffee-brand-gives-back-the-coffee-farmers
-https://www.forbes.com/sites/natalierobehmed/2015/08/04/how-hugh-jackman-wants-to-change-the-world-one-cup-at-a-time/?sh=26e4bb9957fe
-https://danielsethics.mgt.unm.edu/pdf/laughing-man.pdf