AFTER YUM ร้านดัง ที่เกิดจาก วิกฤติความรัก ของสาวประเภทสอง

หากพูดถึงร้านอาหาร ที่กำลังเป็นกระแสมากที่สุดในตอนนี้ หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อร้าน After Yum ซึ่งอยู่ในปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ เมืองพัทยา

แล้วทำไมร้านนี้ถึงกำลังโด่งดัง
เพราะการจะได้ทานยำรสแซ่บแต่ละจานไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะใช่ว่าคุณไปถึงร้านและจะได้ทานทันที
แม้ร้านนี้จะเปิดเป็นเวลานานถึง 6 ชั่วโมง คือตั้งแต่ 18.00 - 24.00 น.

แต่เชื่อหรือไม่ว่าการจะได้เข้าไปนั่งในร้านนี้ บางทีคุณต้องไปต่อแถวรอคิวตั้งแต่ 9 โมงเช้า
เพราะทีนี้ไม่มีระบบโทรจองโต๊ะ มีแต่ระบบบัตรคิวที่จะแจกตอน 16.30 น.
อีกทั้งบางวันแถวคิวยังยาวเหยียดจนเลยไปนอกปั๊มน้ำมัน

ปรากฎการณ์นี้ได้ทำให้เกิดอาชีพ รับจ้างต่อคิวเพื่อจองโต๊ะสนนราคาอยู่ที่ 500 - 1,000 บาท
และรับหิ้วเมนูสารพัดยำส่งตรงถึงบ้านคิดค่าบริการกล่องละ 50 บาท

โดยร้านนี้เกิดจากสาวประเภทสอง 2 คนที่เป็นเพื่อนรักกัน
คือ คุณ แต๋ง-กฤษฎ์กูล ชุมแก้ว ที่ทำงานในวงการแฟชั่น
และคุณ ดุจดิว-ธีรวิวัฒน์ บุตรตะยา สาวสวยประจำคาบาเร่โชว์ที่พัทยา
ที่ผันตัวเองมาเป็นนักรีวิวสินค้าความงาม

โดยเรื่องราวเริ่มต้นเมื่อช่วงปลายปี 2561 คุณ แต๋ง อกหักจากผู้ชายรุ่นน้อง ก็เลยขอมาอาศัยอยู่กับ คุณดุจดิว
เพื่อฟื้นฟูหัวใจตัวเองให้กลับมาเหมือนเดิม ซึ่ง ณ เวลานั้นตรงกับช่วงเวลากินเจพอดี

แต่ทั้ง 2 คนเกิดอยากทานอาหารแซ่บๆ แต่ย่านแถวที่พักอาศัยในช่วงนั้นมีแต่อาหารเจขาย

ด้วยอาการเปรี้ยวปากของทั้ง 2 คน บวกกับมีฝีมือในการทำอาหารอยู่แล้ว โดยเฉพาะอาหารประเภทยำ
ก็เลยซื้อปูม้า มายำทานกันเอง ยำไปยำมาทานเองติดต่อกันหลายวัน เลยเกิดติดใจรสชาติฝีมือตัวเอง

“ก็เลยปิ๊งไอเดียเปิดร้านขายยำกันเล่นๆ มั้ย แล้วบังเอิญไปเติมน้ำมัน
ที่ปั๊มคาลเท็กซ์ พัทยากลาง เห็นมีที่ว่างอยู่เลยติดต่อเช่าที่ วางเงินมัดจำค่าเช่า อีกวันถัดมาเปิดขาย”

แต่ก่อนหน้านั้นก็มีการคิดชื่อร้านว่าจะชื่ออะไรดีแรกๆ ทั้ง 2 คนคิดว่าจะใช้ชื่อว่า “ร้าน ยำกระเทย”
แต่ด้วยทั้งสองคนเคยทานขนมหวานร้าน After You แล้วติดใจในรสชาติ
ก็เลยเปลี่ยนมาเป็นชื่อร้าน After Yum แทน..

แต่เชื่อหรือไม่ว่าจากที่คิดจะเปิดเล่นๆ สัก 2 เดือน คงจะเจ๊งปิดกิจการแยกย้ายกันไป
กลับกลายเป็นว่าร้าน After Yum ขายดีเกินกว่าที่คิด

ยิ่งบวกกับการที่คุณดุจดิว ซึ่งเป็นทั้งเน็ตไอดอลและนักรีวิว
ทำให้เพื่อนๆ ในวงการเองก็มาช่วยรีวิวร้าน After Yum ของเธอ ให้เกิดกระแสในโลกออนไลน์

แต่หากรสชาติอาหารของเธอไม่อร่อยจริงก็ยากที่จะชนะใจลูกค้าได้..
เป็นเรื่องที่ 2 เจ้าของร้านรู้ดีทำให้นอกจากการสร้างรสชาติน้ำยำ
ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ยากจะหาใครเลียนแบบได้แล้วนั้น
วัตถุดิบส่วนใหญ่ซึ่งจะเป็นของทะเลจะเน้นความสด
ทั้ง กุ้งที่จะขึ้นจากบ่อเลี้ยงช่วงเช้า, ปูและหอยจะมาจากเรือทะเลช่วงบ่าย

พูดง่ายๆ วัตถุดิบจะเน้นความสดใหม่และตัวต้องใหญ่
จึงเป็นเหตุผลให้เกือบทุกเมนูยำของร้านจะมีราคาจานละ 100 บาทขึ้นไป

“เราเน้นของสด คัดสรรของดีที่สุดลงในจานลูกค้า
แต่ไม่รับประกันว่าทุกคนทานจะอร่อย เพราะจริตแต่ละคนไม่เหมือนกัน”

และด้วยการขายดีจนเกิดการบอกปากต่อปากโด่งดังไปต่างประเทศ
ทำให้เวลานี้มีนักลงทุนต่างชาติชักชวน After Yum ขยายสาขาไปยังสิงคโปร์, อเมริกา

เพียงแต่สิ่งที่เจ้าของร้านทั้ง 2 คนคิดเวลานี้
คือการขยายสาขามายังกรุงเทพฯ เป็นอันดับแรกก่อนที่จะคิดไปต่างประเทศ

ทำให้เวลานี้ได้ปรึกษา Food Science หรือนักวิทยาศาสตร์อาหาร
ในการคิดค้นน้ำยำและผงทอดสำเร็จรูป เพื่อที่จะเก็บได้นานรสชาติไม่เปลี่ยนจากเดิม
ซึ่งจะทำให้รักษามาตราฐานรสชาติสารพัดยำของตัวเองได้
และแน่นอนอนาคตอันใกล้ คนกรุงเทพฯ คงได้สัมผัสความแซ่บของเมนูยำร้านนี้

หากธุรกิจร้านนี้ยังร้อนแรงต่อเนื่อง
ใครจะไปรู้ว่าในอนาคตร้าน After Yum อาจจะเดินตามรอยร้าน After You
กลายเป็นบริษัทธุรกิจร้านอาหารในตลาดหลักทรัพย์ ก็เป็นได้

แต่สิ่งที่ต่างกันของ 2 ร้านคือนอกจากจะขายสินค้าคนละประเภทกันแล้ว
แรงบันดาลใจการเริ่มต้นธุรกิจยังต่างกัน

After You เกิดจากที่คุณ เมย์ กุลพัชร์
ไล่ล่าความฝันในวัยเด็กที่อยากมีร้านขายขนมหวาน เป็นของตัวเอง

ผิดกับ After Yum เกิดจากสาวประเภทสองอกหัก
แล้วเกิดอาการเปรี้ยวปากอยากทานยำรสแซ่บ
ซึ่งเป็นการพลิกวิกฤติจากความรักที่ไม่สมหวัง มาสู่ธุรกิจใหม่ที่ประสบความเร็จอย่างคาดไม่ถึง

Reference : รายการ “แฉ”, คลิปสัมภาษณ์ Youtube