ราคาหุ้น Facebook, Twitter และ Snap ร่วงหนัก หลัง iOS ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโฆษณาเกินคาด

ล่าสุด บริษัท Snap ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ยอดฮิตของวัยรุ่นในสหรัฐฯ อย่าง “Snapchat”
ได้ประกาศผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ของปี 2021 (ก.ค. - ก.ย. 2021)

โดยบริษัทมีรายได้ 35,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57% เมื่อเทียบกับปีก่อน
และมีจำนวนผู้ใช้งานรายวัน (Daily Active Users) ทั้งหมด 306 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับปีก่อน

อย่างไรก็ดี ในส่วนของรายได้นั้น แม้จะเติบโต แต่บริษัทก็ทำได้น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งคาดไว้ที่ 36,700 ล้านบาท

ทางบริษัทเผยว่า สาเหตุที่ทำให้รายได้ของบริษัทพลาดเป้าหมายไป
มาจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวของระบบปฏิบัติการ iOS ครั้งใหญ่ ที่ทำให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ ถูกจำกัดการติดตามพฤติกรรมและเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว ของผู้ใช้งานอุปกรณ์ Apple
จึงทำให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ กำหนดและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทางโฆษณาได้ยากขึ้น

ซึ่งเรื่องนี้ก็ถูกคาดการณ์กันไปสักระยะแล้ว ว่าจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจโฆษณาของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ แต่อย่างไรก็ดี ทาง Snap บอกว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้น มันมากกว่าที่พวกเขาคาดไว้เสียอีก..

“ในขณะที่เราคาดว่า จะเกิดการหยุดชะงักของธุรกิจ (โฆษณา) ในระดับหนึ่ง
แต่นโยบายความเป็นส่วนตัวใหม่ของ iOS ก็ส่งผลกระทบเกินกว่าที่เราคาดไว้
ซึ่งทำให้พันธมิตรทางโฆษณาของเรา วัดและจัดการแคมเปญโฆษณาได้ยากขึ้น”

“ขณะนี้เรากำลังดำเนินการในเรื่องที่จำเป็น เพื่อรับมือกับอุปสรรคสำคัญ ซึ่งรวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวบน iOS ที่ส่งผลกระทบต่อวิธีการกำหนดเป้าหมาย, วัด และเพิ่มประสิทธิภาพการโฆษณา” อีวาน สปีเกล CEO ของ Snap กล่าว

นอกจากนโยบายความเป็นส่วนตัวใหม่ของ iOS แล้ว
ทาง Snap ยังเผยว่า บริษัทยังได้รับผลกระทบจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกที่หยุดชะงัก และการขาดแคลนแรงงานด้วย เนื่องจากทำให้แบรนด์ต่าง ๆ ต้องถอนงบโฆษณาออกไปก่อนในช่วงนี้

ทั้งนี้ Snap คาดการณ์ว่า ทั้งเรื่องนโยบายความเป็นส่วนตัวบน iOS, การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน และการขาดแคลนแรงงาน จะทำให้ผลประกอบการของบริษัทได้รับผลกระทบลากยาวไปจนถึงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้

โดยบริษัทคาดว่า จะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 38,700 ล้านบาท - 40,000 ล้านบาท
ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้จากเดิมที่ 45,400 ล้านบาท

และหลังจากที่ Snap ได้ประกาศผลประกอบการในไตรมาส 3 ออกไป
ก็ทำให้นักลงทุนต่างผิดหวัง ทั้งผลประกอบการในไตรมาสนี้ และคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาสที่ 4
จนทำให้ราคาหุ้นของ Snap ดิ่งลงทันที 25% ในช่วงซื้อขายนอกเวลาทำการ (ตอนนี้เหลือ -22%)

ซึ่งก็ไม่ใช่แค่ราคาหุ้นของ Snap เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ
ทางด้านแพลตฟอร์มโซเซียลมีเดียอื่น ๆ เช่น Facebook และ Twitter ก็ร่วงลงด้วยเช่นกัน

โดยราคาหุ้นของ Facebook ร่วงลงทันที 6% ในช่วงซื้อขายนอกเวลาทำการ (ตอนนี้เหลือ -4%)
ราคาหุ้นของ Twitter ร่วงลงทันที 7% ในช่วงซื้อขายนอกเวลาทำการ (ตอนนี้เหลือ -5%)

เนื่องจากทางนักลงทุนเกิดความกังวลว่า ผลประกอบการของ Facebook และ Twitter ในไตรมาส 3 ที่กำลังจะประกาศออกมาในอีกไม่กี่วันนี้ และในไตรมาสที่ 4
ก็จะได้รับผลกระทบเกินคาด เช่นเดียวกับกรณีของ Snap ที่นโยบายความเป็นส่วนตัวบน iOS และอื่น ๆ จะทำให้รายได้จากธุรกิจโฆษณา ไม่เป็นไปตามเป้าที่หวังไว้..

อ้างอิง :
-https://s25.q4cdn.com/442043304/files/doc_financials/2021/q3/Q3-2021-Press-Release.pdf
-https://www.cnbc.com/2021/10/21/snap-earnings-q3-2021.html
-https://www.reuters.com/technology/snap-revenue-falls-short-apple-privacy-changes-hurt-ads-business-2021-10-21/