เผยแนวคิดของ OR ทำไม.. ถึงตั้งกองทุน ORZON Ventures เพื่อลงทุนในธุรกิจสตาร์ตอัป
7 ต.ค. 2021
วันนี้ทาง OR ได้จัดงานเสวนาหัวข้อ “Beyond Partnership Beyond Unicorns Beyond Horizons”
เพื่อเปิดเผยถึงเบื้องหลัง, วิสัยทัศน์ และเป้าหมาย ของการจัดตั้งกองทุน “ORZON Ventures (ออร์ซอน เวนเจอร์ส)” ร่วมกับทาง 500 Startups หรือ 500 TukTuks ซึ่งเป็นกองทุนชื่อดัง ที่สตาร์ตอัปไทยต้องรู้จักกันดี
เพื่อเปิดเผยถึงเบื้องหลัง, วิสัยทัศน์ และเป้าหมาย ของการจัดตั้งกองทุน “ORZON Ventures (ออร์ซอน เวนเจอร์ส)” ร่วมกับทาง 500 Startups หรือ 500 TukTuks ซึ่งเป็นกองทุนชื่อดัง ที่สตาร์ตอัปไทยต้องรู้จักกันดี
โดย ORZON Ventures เป็นกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) ของ OR และ 500 TukTuk
ที่เน้นลงทุนในสตาร์ตอัปที่มีศักยภาพ ในไทยและแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ซึ่งกองทุนจะมีมูลค่าการลงทุนเริ่มแรก 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (845 ล้านบาท)
และสามารถเพิ่มมูลค่าการลงทุนเป็นไม่เกิน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1,690 ล้านบาท) ได้ในภายหลัง
ที่เน้นลงทุนในสตาร์ตอัปที่มีศักยภาพ ในไทยและแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ซึ่งกองทุนจะมีมูลค่าการลงทุนเริ่มแรก 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (845 ล้านบาท)
และสามารถเพิ่มมูลค่าการลงทุนเป็นไม่เกิน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1,690 ล้านบาท) ได้ในภายหลัง
นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ และนายศิระ ศรีสุกใส ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและนวัตกรรม ของ OR เปิดเผยว่า
ถึงแม้ชื่อแบรนด์ของ OR จะเพิ่งมาเป็นที่รู้จักกันเมื่อไม่นานมานี้ แต่จริง ๆ ธุรกิจของ OR เดินทางและเติบโตมากว่า 40 ปีแล้ว
ซึ่งวิถีในการดำเนินธุรกิจที่ OR ยึดมาโดยตลอด คือการร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับทุกภาคส่วน รวมถึงคนไทยและชุมชน ไม่ใช่เติบโตตามลำพัง
ซึ่งวิถีในการดำเนินธุรกิจที่ OR ยึดมาโดยตลอด คือการร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับทุกภาคส่วน รวมถึงคนไทยและชุมชน ไม่ใช่เติบโตตามลำพัง
ดังนั้นแนวทางการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจของ OR จึงเป็นการเสาะหาธุรกิจใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ร่วมกับพาร์ตเนอร์, SMEs และสตาร์ตอัป เพื่อต่อยอดธุรกิจให้ก้าวไปไกลกว่าธุรกิจน้ำมัน
ซึ่ง OR ก็ไม่ได้มองหาการพาร์ตเนอร์กับธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น แต่มุ่งให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความร่วมมือกับ “คนตัวเล็ก” เพื่อให้เติบโตไปด้วยกัน
ทั้งนี้ OR มองว่าบริษัทสตาร์ตอัป มีจุดแข็งในด้านศักยภาพการใช้เทคโนโลยี, มีจิตวิญญาณของความเป็นผู้ประกอบการ และมีความสามารถในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว
แต่บริษัทสตาร์ตอัป ก็มีข้อจำกัดด้านเงินทุน, การขาดแคลนกำลังคน, ขาดการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และขาด Ecosystem ที่เกื้อหนุน
พอเรื่องเป็นแบบนี้ OR ที่มีความพร้อมในเรื่องดังกล่าว จึงสามารถสนับสนุนสตาร์ตอัป ทั้งในด้านเงินทุน, การเข้าถึงฐานลูกค้า, โครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ และ Ecosystem ขนาดใหญ่ของกลุ่มบริษัท
ดังนั้น OR กับ สตาร์ตอัป ที่แต่ละฝ่ายมีจุดแข็งต่างกัน
จึงสามารถเติมเต็มสิ่งที่ขาด ซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี เป็นการยกระดับธุรกิจที่ Win-Win ทุกฝ่าย
จึงสามารถเติมเต็มสิ่งที่ขาด ซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี เป็นการยกระดับธุรกิจที่ Win-Win ทุกฝ่าย
นอกจากนี้ การที่สตาร์ตอัปได้ OR เป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ ยังได้ประโยชน์จากการได้ Sandbox ขนาดใหญ่ ในการทดลองไอเดียธุรกิจ หรือขยายธุรกิจ อีกด้วย
เพราะ OR มีสถานีบริการน้ำมัน PTT Station มากกว่า 2,000 สถานี
และร้านค้าในเครือมากมาย เช่น Café Amazon มากกว่า 3,500 สาขา ทั่วประเทศ รวมถึงมีสาขาในต่างประเทศด้วย
เพราะ OR มีสถานีบริการน้ำมัน PTT Station มากกว่า 2,000 สถานี
และร้านค้าในเครือมากมาย เช่น Café Amazon มากกว่า 3,500 สาขา ทั่วประเทศ รวมถึงมีสาขาในต่างประเทศด้วย
จึงช่วยเพิ่มโอกาสให้สตาร์ตอัปได้ทดสอบตลาด, ทำความเข้าใจลูกค้า และสร้างการเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
อย่างในช่วงที่ผ่านมา OR ก็ได้เข้าลงทุนในธุรกิจ SMEs หรือ สตาร์ตอัปหลายราย อาทิ
ร้านสลัดชื่อดัง “โอ้กะจู๋” ที่ OR ช่วยผลักดันให้โอ้กะจู๋ ขยายสาขาร้านเพิ่มเติมในสถานีบริการน้ำมัน PTT Station รวมถึงการจำหน่ายอาหารแบบ Grab & Go ผ่านร้าน Café Amazon
ร้านสลัดชื่อดัง “โอ้กะจู๋” ที่ OR ช่วยผลักดันให้โอ้กะจู๋ ขยายสาขาร้านเพิ่มเติมในสถานีบริการน้ำมัน PTT Station รวมถึงการจำหน่ายอาหารแบบ Grab & Go ผ่านร้าน Café Amazon
และ Flash Express ซึ่งทาง OR ก็ได้เข้าลงทุน และให้ Flash Express ต่อยอดธุรกิจ ด้วยการให้เปิดบริการจุดรับส่งพัสดุทั่วประเทศไทย “Flash Express Drop Off” ที่ร้าน Café Amazon
อย่างไรก็ดี แม้ OR มีความต้องการที่จะสนับสนุนและลงทุนในธุรกิจสตาร์ตอัป แต่ด้วยความที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ ทำให้การตัดสินใจลงทุนในสักบริษัท ต้องผ่านกระบวนและขั้นตอนที่มากมาย รวมถึงอาจมีมุมมองที่ตัวเองมองข้ามไป
ดังนั้น OR จึงตัดสินใจจับมือกับผู้เชี่ยวชาญในวงการสตาร์ตอัปอย่าง 500 TukTuks จัดตั้งกองทุนลักษณะ Venture Capital ขึ้นมา เพื่อทลายข้อจำกัดบางอย่าง, ความคล่องตัวในการลงทุน และแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ สร้าง New S-Curve ให้กับกลุ่มบริษัท
กองทุน ORZON Ventures จะมุ่งเน้นลงทุนในสตาร์ตอัประดับ Series A-B เป็นหลัก
โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจด้าน Mobility & Lifestyle หรือ ธุรกิจที่ตอบโจทย์คนเดินทางในอนาคต (Mobility) และตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกไลฟ์สไตล์
โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจด้าน Mobility & Lifestyle หรือ ธุรกิจที่ตอบโจทย์คนเดินทางในอนาคต (Mobility) และตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกไลฟ์สไตล์
เช่น ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (F&B), การท่องเที่ยว (Travel), สุขภาพ (Health and Wellness) รวมไปถึง Digital Lifestyle ต่าง ๆ
กองทุน ORZON Ventures จึงช่วยทำให้ OR สามารถเข้าถึงสตาร์ตอัปทั้งในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่อยู่ในช่วง Early Stage ได้มากขึ้น เพื่อเข้าลงทุนและสร้าง Synergy ระหว่างธุรกิจร่วมกัน
ผ่านกระบวนการคัดกรองจากทีมผู้บริหารกองทุน 500 TukTuks ซึ่งมีความชำนาญในการลงทุนในธุรกิจสตาร์ตอัป
ผ่านกระบวนการคัดกรองจากทีมผู้บริหารกองทุน 500 TukTuks ซึ่งมีความชำนาญในการลงทุนในธุรกิจสตาร์ตอัป
ซึ่งทาง OR ย้ำว่า สตาร์ตอัปที่กองทุน ORZON Ventures เข้าไปลงทุน
จะให้ความเป็น “อิสระ” แก่สตาร์ตอัปอย่างเต็มที่ ในการดำเนินธุรกิจและกำหนดทิศทางบริษัท
จึงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกบริษัทใหญ่ควบคุมอย่างเข้มงวด
จะให้ความเป็น “อิสระ” แก่สตาร์ตอัปอย่างเต็มที่ ในการดำเนินธุรกิจและกำหนดทิศทางบริษัท
จึงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกบริษัทใหญ่ควบคุมอย่างเข้มงวด
โดยกองทุน ORZON Ventures จะเริ่มลงทุนในเดือนหน้า
ซึ่งช่วงแรก ๆ จะลงทุนในสตาร์ตอัปประมาณ 10-15 บริษัท ต่อมาจึงขยายสูงสุดที่ 20-30 บริษัท
และเฉลี่ยจะมีการลงทุน 50 ล้านบาท ต่อสตาร์ตอัป
ซึ่งช่วงแรก ๆ จะลงทุนในสตาร์ตอัปประมาณ 10-15 บริษัท ต่อมาจึงขยายสูงสุดที่ 20-30 บริษัท
และเฉลี่ยจะมีการลงทุน 50 ล้านบาท ต่อสตาร์ตอัป
นอกจากนี้ OR ยังกล่าวว่า หากสตาร์ตอัปที่กองทุน ORZON Ventures เข้าไปลงทุน เติบโตได้ดีบน Ecosystem ของ OR
ทาง OR ก็อาจพิจารณาลงทุนตรงในสตาร์ตอัปอีกทาง หรือ พา IPO เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น ไปเลยก็ได้..
ทาง OR ก็อาจพิจารณาลงทุนตรงในสตาร์ตอัปอีกทาง หรือ พา IPO เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น ไปเลยก็ได้..
ส่วนนายกระทิง พูนผล และ นายณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ผู้บริหารกองทุน 500 TukTuks ได้เปิดเผยว่า
วิสัยทัศน์และพันธกิจของ ORZON Ventures ในการสร้างกองทุนนี้ขึ้นมา เป็นไปตามความฝันและความตั้งใจดั้งเดิมของผู้ก่อตั้ง 500 TukTuks คือ อยากให้ประเทศไทยมีสตาร์ตอัป ที่พอคนพูดถึงประเทศไทยแล้วนึกถึงบริษัทเหล่านี้
วิสัยทัศน์และพันธกิจของ ORZON Ventures ในการสร้างกองทุนนี้ขึ้นมา เป็นไปตามความฝันและความตั้งใจดั้งเดิมของผู้ก่อตั้ง 500 TukTuks คือ อยากให้ประเทศไทยมีสตาร์ตอัป ที่พอคนพูดถึงประเทศไทยแล้วนึกถึงบริษัทเหล่านี้
500 TukTuks เชื่อว่าการร่วมมือกันครั้งนี้ ทำให้ความฝันนี้ใกล้ความเป็นจริงมากขึ้น
ทั้ง OR และ 500 TukTuks มีเป้าหมายเดียวกันคือการสร้าง Ecosystem ที่พร้อมสนับสนุนและผลักดันสตาร์ตอัปไทย ให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด และสร้างความภาคภูมิใจให้กับประเทศ
ทั้ง OR และ 500 TukTuks มีเป้าหมายเดียวกันคือการสร้าง Ecosystem ที่พร้อมสนับสนุนและผลักดันสตาร์ตอัปไทย ให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด และสร้างความภาคภูมิใจให้กับประเทศ
โดยการร่วมมือกันในครั้งนี้ ถือเป็นการดึงเอาจุดแข็งของทั้งสองฝ่ายมารวมกัน ทั้งประสบการณ์ในการลงทุน สตาร์ตอัปกว่า 6 ปี ของ 500 TukTuks ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักลงทุนชั้นนำที่ได้ลงทุนในสตาร์ตอัปมากที่สุดในไทย
ผนวกกับ OR ที่เป็นผู้นำตลาดค้าปลีกน้ำมันและมี OR Ecosystem ที่แข็งแกร่ง มีความตั้งใจจริงที่จะทำงานร่วมกับสตาร์ตอัป ดังที่เห็นได้จากตัวอย่างความร่วมมือในช่วงที่ผ่านมา
สิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้เกิด Synergy ในรูปแบบใหม่ที่จะช่วยผลักดันสตาร์ตอัปไทย
สิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้เกิด Synergy ในรูปแบบใหม่ที่จะช่วยผลักดันสตาร์ตอัปไทย
ทุกวันนี้ เราอยู่ในยุคของการเปลี่ยนแปลงแบบหักศอก Continuous Disruption
นี่คือความร่วมมือครั้งสำคัญ ที่จะนำมาซึ่งโอกาสใหม่ในยุคทองของ South East Asia นี้ ด้วยการร่วมพลิกโฉมวงการสตาร์ตอัปไทย
นี่คือความร่วมมือครั้งสำคัญ ที่จะนำมาซึ่งโอกาสใหม่ในยุคทองของ South East Asia นี้ ด้วยการร่วมพลิกโฉมวงการสตาร์ตอัปไทย