Facebook ล่ม เสียหายจน มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ถูกลดอันดับความร่ำรวย และสูญเสียความมั่งคั่ง 2 แสนล้าน

จากเหตุการณ์ Facebook และแพลตฟอร์มในเครืออย่าง Instagram และ WhatsApp ล่มทั่วโลก
ทำให้บริษัทนิตยสารชื่อดังอย่าง Fortune และเว็บตรวจสอบข้อมูลอย่าง Snopes ออกมาคาดการณ์ว่า
เหตุการณ์นี้ได้ทำให้ Facebook สูญเสียรายได้ค่าโฆษณาอย่างน้อย 2,020 ล้านบาท

ซึ่งตัวเลขนี้ทั้ง 2 บริษัทประเมินจากข้อมูลรายได้ที่ Facebook ได้รายงานไว้เมื่อไตรมาสที่ 2 ของปีนี้
ว่าภายในระยะเวลา 3 เดือน ทางบริษัท Facebook มีรายได้ค่าโฆษณา 966,133 ล้านบาท
นั้นก็หมายความว่า Facebook ทำเงินได้วันละ 10,735 ล้านบาท, ชั่วโมงละ 447 ล้านบาท, นาทีละ 7.5 ล้านบาท และวินาทีละ 124,000 บาท

การที่ Facebook, Instagram และ WhatsApp ล่มในช่วงเวลาดังกล่าว จึงทำให้บริษัทสูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้จากค่าโฆษณาเป็นอย่างน้อย 2,020 ล้านบาท นั่นเอง

อย่างไรก็ดี รายได้ค่าโฆษณาที่หายไป ไม่ใช่ความเสียหายเดียวที่ Facebook ต้องประสบ
เพราะยังมีราคาหุ้นของบริษัทที่ร่วงลงทันทีกว่า 5.6% หลังเหตุการณ์ระบบล่ม
หรือคิดเป็นมูลค่าบริษัทที่หายไปกว่า 1.6 ล้านล้านบาท
(ช่วงตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิด ราคาหุ้นของ Facebook เด้งขึ้นมาปิดที่ -4.9%)

และเหตุการณ์นี้ ได้สร้างผลกระทบต่อความมั่งคั่งของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก
โดย มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก มีความมั่นคั่งลดลงเกือบ 200,000 ล้านบาท ภายในวันเดียว
(ทำให้ปัจจุบัน มีทรัพย์สินอยู่ราว 3.9 ล้านล้านบาท)

จึงถูกลดอันดับความมั่งคั่งจนหลุด Top 5 ของโลก
ลงมาเป็นบุคคลที่ร่ำรวยอันดับ 6 ของโลก ซึ่งต่อจากลาร์รีย์ เอลลิสัน ผู้ก่อตั้งบริษัท Oracle

นอกจากผลกระทบต่อทางบริษัทแล้ว เหตุการณ์นี้ยังสร้างผลกระทบอย่างหนักต่อร้านค้าออนไลน์บน Marketplace ของ Facebook รวมถึงเพจต่าง ๆ บน Facebook, Instagram อีกด้วย

โดยในประเทศไทย Facecook และ Instagram เริ่มล่มตั้งแต่เวลา 22.00 ของเมื่อวานนี้ และกลับมาใช้ได้ในตอนเช้าตรู่ของวันนี้เอง

นับว่ายังเป็นโชคดีของคนไทย ที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนกลางคืน จึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
ลองคิดดูว่า ประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการใช้ Facebook มากติดอันดับต้น ๆ ของโลก

แล้วถ้าเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นตอนกลางวัน เท่ากับว่า ร้านค้าและพ่อค้าแม่ค้าบางคน อาจจะสูญรายได้ไปเลย..

ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าตอนนี้ Facebook จะกลับมาใช้ได้ปกติแล้ว และทาง Facebook เองก็ได้ออกมาขอโทษ แต่ไม่ได้ระบุถึงสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าว

แต่เรื่องนี้ก็พอจะเป็นข้อคิดเตือนใจให้เราไว้ว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ในอนาคต ทำให้เราต้องคอยวางแผนสำรอง ไม่หวังพึ่งหม้อข้าวใบเดียว และพยายามหาทางกระจายความเสี่ยงในการติดต่อสื่อสาร, ทำธุรกิจ, ทำการการตลาด ไว้ให้หลากหลายช่องทางมากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้..

อ้างอิง :
-https://www.cnet.com/tech/mobile/facebooks-massive-outage-costs-the-company-an-estimated-60-million-in-revenue/
-https://www.forbes.com/profile/mark-zuckerberg/?list=rtb/&sh=46200233e06d