กรณีศึกษา เข้าร่วมแคมเปญ “คนละครึ่ง” กับ GrabFood” ก็เหมือนยิงปืนนัดเดียว แต่ได้นกทั้งฝูง

กรณีศึกษา เข้าร่วมแคมเปญ “คนละครึ่ง” กับ GrabFood” ก็เหมือนยิงปืนนัดเดียว แต่ได้นกทั้งฝูง

24 ก.ย. 2021
MarketThink x GrabFood
ใครจะไปคิดว่า โมเดลธุรกิจของฟู้ดเดลิเวอรี ที่เคยถูกมองว่าเป็นแค่ “ตัวกลาง” ให้ลูกค้า​ ร้านอาหาร และคนขับมาเจอกัน​ มาถึงวันนี้ จะกลายเป็นอีกหนึ่งตัวช่วย ที่ทำให้เจ้าของร้านอาหารยิ้มได้และหายใจได้สะดวกขึ้น แม้ในช่วงที่เกิดวิกฤติโควิด 19
โดยเฉพาะร้านอาหารที่ตัดสินใจสมัครเข้าร่วมโครงการแห่งปี
อย่าง โครงการ “คนละครึ่ง” กับ GrabFood” ที่เปิดตัวออกมา หลังจากกระทรวงการคลังไฟเขียว ให้ใช้สิทธิ์คนละครึ่ง เฟส 3 จ่ายค่าอาหารผ่านแอปฯ ฟู้ดเดลิเวอรี ได้ตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค. นี้เป็นต้นไป
ที่น่าสนใจคือ GrabFood ที่ครองส่วนแบ่งการตลาด Food Delivery ในประเทศไทย มากกว่า 50% ซึ่งมากกว่าคู่แข่งอันดับสองกว่าเท่าตัว และยังเป็นผู้นำแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ยอดนิยมอันดับ 1 จากรางวัล
“สุดยอดแบรนด์ครองใจมหาชน” (2021 Thailand’s Most Admired Brand) โดยนิตยสาร BrandAge และรางวัล “แบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ของประเทศไทย” (No.1 Brand Thailand 2020-2021) โดยนิตยสาร Marketeer ในกลุ่มธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ และยังเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรีเพียง 1 ใน 2 รายตอนนี้ที่ได้รับการอนุมัติ จึงไม่แปลกที่ GrabFood จะจัดแคมเปญเอาใจทั้งลูกค้าและเจ้าของร้านอาหาร
เริ่มจาก “ฝั่งลูกค้า” ที่ต้องบอกว่าได้ประโยชน์ไปเต็ม ๆ
จากเดิม ถ้าจะใช้สิทธิ์คนละครึ่ง อาจจะต้องยอมออกจากบ้าน ไปซื้ออาหารหรือสินค้าจากร้านค้าที่ร่วมโครงการ แล้วสแกนจ่ายผ่านแอปฯ เป๋าตัง
แต่ตอนนี้ แค่อยู่บ้านเฉย ๆ เข้า GrabFood ก็สามารถกดสั่งอาหารจากร้านโปรดที่ร่วมโครงการ “คนละครึ่ง”
โดยจ่ายค่าอาหารและเครื่องดื่มแค่ครึ่งเดียว ส่วนค่าส่งก็จ่ายตามจริงเหมือนเดิม พร้อมมีส่วนลดค่าส่งและค่าอาหารตลอดทั้งโครงการ ตั้งแต่เดือนกันยายนปีนี้ จนไปถึงสิ้นเดือนมกราคมปี 65 กันเลยทีเดียว
มาถึง “ฝั่งเจ้าของร้านอาหาร” ที่ดูผิวเผินน่าจะได้ประโยชน์จากจำนวนออร์เดอร์ที่เพิ่มขึ้น จากลูกค้าที่มาใช้บริการมากขึ้น​ แต่ถ้ามาร่วมโครงการกับ GrabFood บอกเลยว่า เจ้าของร้านอาหารจะได้ประโยชน์กลับไปแบบจุก ๆ ถึง 7 ต่อ
แล้วประโยชน์ 7 ต่อที่ว่านี้ มีอะไรบ้าง ?
ต่อที่ 1 เซฟต้นทุน โดยไม่ต้องลดปริมาณหรือคุณภาพอาหาร
เพราะรู้ดีว่าหนึ่งในต้นทุนที่ร้านอาหารต้อง “แบก” คือ ค่าจีพี
ดังนั้น GrabFood เลยหั่นค่าจีพีให้ร้านอาหารที่ร่วมโครงการ เหลือไม่เกิน 20% สำหรับออร์เดอร์ที่ใช้สิทธิ์ “คนละครึ่ง”
ต่อที่ 2 ไม่ต้องควักเงินมาทำการตลาดเอง ก็ได้โปรโมตร้านอาหาร เพื่อกระตุ้นยอดขายแบบฟรี ๆ
เพราะ GrabFood ยินดีช่วยโปรโมตร้านที่ร่วมแคมเปญแบบจัดเต็ม
ตั้งแต่เริ่มไปจนจบแคมเปญ (วันที่ 4 ต.ค. - 31 ธ.ค. 64) ปูพรมการทำสื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ในแอปฯ
เพื่อช่วยเพิ่มการมองเห็นบนหน้าแอปฯ ไปจนถึงการแจกโค้ดส่วนลดทั้งค่าอาหารและค่าส่ง
กระตุ้นให้ลูกค้าพร้อมกดสั่งอาหารได้แบบไม่ลังเล เพราะบวกลบคูณหารอย่างไรก็คุ้ม
ส่วนร้านอาหารเองก็ฟิน เพราะนอกจากจะเพิ่มโอกาสให้ร้านถูกมองเห็นมากขึ้น ยังได้ฐานลูกค้าใหม่ ๆ ที่หากลองแล้วติดใจ ก็อาจจะเปลี่ยนจากขาจรมาเป็นขาประจำ

ต่อที่ 3 เข้าถึงเงินกู้และสินเชื่อได้ง่าย และรวดเร็วทันใจ
แค่เข้าร่วมแคมเปญนี้ ร้านอาหารไหนที่กำลังต้องการเงินหมุน หรือมีแผนจะใช้เงินก้อนสำหรับต่อยอดธุรกิจ
ก็เหมือนมีทางลัดในการเข้าถึงเงินกู้และขอสินเชื่อของ Grab Finance
ด้วยการลดเงื่อนไข จากเดิมที่ต้องส่งข้อมูลธุรกรรม 3 เดือนก็เหลือแค่ 1 เดือน แถมยังลดรายได้ธุรกรรมจาก 5,000 บาท/เดือน เหลือ 1,000 บาท/เดือน เท่านั้น
ต่อที่ 4 เปิดร้านอาหารอยู่ดี ๆ ก็มีสิทธิ์ได้โชค คว้ารางวัลใหญ่
เพราะ GrabFood ยกทัพของรางวัลมากมาย มูลค่ารวมกว่า 1.9 ล้านบาท มีทั้งสร้อยคอทองคำ รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า รุ่น YAMAHA Fin และโทรศัพท์มือถือซัมซุง A12 จำนวนรวมถึง 350 รางวัล
มาให้ร้านอาหารในครอบครัว GrabFood ที่สมัครเข้าโครงการ “คนละครึ่ง” ได้ลุ้นโชคกันโดยเฉพาะ โดยจะทำการจับรางวัลถึง 3 ครั้งในวันที่ 4, 11 ต.ค และ 22 พ.ย. 64

ต่อที่ 5 มีสิทธิ์ได้ออกรายการทีวียอดนิยมอย่าง ครัวคุณต๋อย โหนกระแส ตลาดสดพระราม 4
ซึ่งเป็นรายการยอดฮิต ขวัญใจคนชอบกินและเจ้าของร้านอาหาร
ใครจะรู้ว่า จากเป็นผู้ชมทางบ้าน วันหนึ่งร้านอาหารของคุณอาจจะได้มาเปิดพื้นที่ขายตรง และโชว์ลีลาการขายผ่านหน้าจอโทรทัศน์แบบไม่ต้องเสียเงินสักบาท
ต่อที่ 6 ไม่ต้องกลัวว่า อุตส่าห์มาร่วมแคมเปญทั้งที แต่ออร์เดอร์ดันไม่มีเข้ามา
เพราะ GrabFood ขนทัพดาราเบอร์ใหญ่ นำทีมโดยพรีเซนเตอร์คนดัง เบลล่า-ราณี แคมเปน รวมถึงเหล่ายูทูบเบอร์สายกิน เพจรีวิวอาหาร เพจโปรโมชัน ดาวติ๊กต็อก ที่มีผู้ติดตามรวมกันแล้วมากกว่า 60 ล้านคน
มาร่วมจุดพลุเปิดตัวแคมเปญ พร้อมเชิญชวนให้ลูกค้าใช้สิทธิ์คนละครึ่งที่ “GrabFood” กันเยอะ ๆ
เพราะยิ่งคนใช้เยอะ ก็เท่ากับยิ่งมีโอกาสเพิ่มยอดขายได้มากยิ่งขึ้น
ต่อที่ 7 ใช้งานง่าย สมัครง่าย ไม่ต้องสแกน ไม่จำกัดระยะทาง
เพราะรู้ว่า เวลาของเจ้าของร้านอาหารเป็นเงินเป็นทอง
ดังนั้น ใครที่สนใจร่วม แค่หยิบมือถือมากดสมัครได้ง่าย ๆ ผ่านแอปฯ ถุงเงิน แล้วเลือกเข้าร่วมกับแฟลตฟอร์ม “Grab”
จัดมาครบเครื่องขนาดนี้ คงหายข้องใจแล้วว่า ทำไมการตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” กับ GrabFood ก็เหมือนยิงปืนนัดเดียว แต่ได้นกมาทั้งฝูง คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม
เอาเป็นว่า ใครที่ไม่อยากตกขบวน พลาดโครงการที่มีแต่ได้กับได้แบบนี้ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปกดสมัคร ผ่านแอปฯ ถุงเงิน และเลือกเข้าร่วมกับแฟลตฟอร์ม “Grab” พร้อมกันทั่วประเทศ วันที่ 24 ก.ย. - 14 พ.ย. นี้
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.grabmerchantth.com/prep5050campaign21
หรือเฟซบุ๊กกรุ๊ป Facebook ครอบครัวร้านค้า GrabFood
หรือโทรสอบถามได้ที่ Grab Call Center : 02-021-2512
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.