ทำไม เราต้องเสียเงินให้กับเกม ทั้งที่รู้ว่า วันหนึ่งจะเลิกเล่น

ทำไม เราต้องเสียเงินให้กับเกม ทั้งที่รู้ว่า วันหนึ่งจะเลิกเล่น

22 ส.ค. 2021
การเติมเงินในเกม มักจะให้ความรู้สึกที่พิเศษกับผู้เล่นเกม อย่างเช่น ได้ของที่ไม่เหมือนผู้เล่นคนอื่น
ทำทุกอย่างได้ง่ายขึ้น หรือข้ามขั้นตอนอันแสนยากเย็นไปได้ง่ายดาย
การที่เราสามารถเลือกชุดสวยหล่อเท่ หรือไอเทม (ที่ภาษาเกมเรียกว่า Skin) จะทำให้ตัวละครเราแตกต่างจากผู้เล่นอื่น
ทำให้ผู้เล่นนั้นรู้สึกแตกต่างและโดดเด่น
ผู้เล่นสามารถแต่งตัวได้ตามอัธยาศัย และเป็นตัวของตัวเอง ได้มากที่สุดตามความต้องการ
การเสียเงินเติมเกมด้วยเงินจริงนั้น จะทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่ากำลังลงทุนในเกมนั้นอยู่
ผู้เล่นจะรู้สึกว่ามีความสัมพันธ์ มีความผูกพันกับเกม เพราะเราได้ลงทุนไปแล้ว เราจะต้องทำให้มันสำเร็จ
เมื่อความรู้สึกผูกพันถูกสร้างขึ้น ผู้เล่นก็จะยิ่งมีความเต็มใจจ่าย เพื่อแลกกับความต้องการ หรือสิทธิประโยชน์บางอย่างภายในเกมได้ง่ายขึ้น
เช่น พอในเกมมีไอเทมหรือสินค้าออกมาใหม่ ผู้เล่นที่ผูกพันกับเกม ก็มีโอกาสจะอยากได้ และต้องเติมเงินเพื่อแลกกับการได้มาซึ่งของชิ้นนั้น
โดยการเติมเงินลงในเกม จะมีอยู่ 2 แบบหลัก ๆ คือ
- การเติมเงินแบบ Currency Exchange หรือแลกสกุลเงิน
เป็นการที่เราเติมเงิน ด้วยการเอาเงินจริงไปแลกเป็นสกุลเงินของเกมนั้น เพื่อซื้อของในเกมอีกที
- การเติมแบบ Subscription หรือการจ่ายเป็นสมาชิกรายเดือนของโปรแกรมที่เกมจัดขึ้นมา โดยผู้เล่นที่เติมเงินแบบนี้ ก็อาจได้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ในแต่ละเดือนภายในเกม
แต่เราเคยสงสัยไหมว่า คนที่เติมเงินในเกมเป็นจำนวนมหาศาล
ซึ่งบางคนก็เติมจนมูลค่าเทียบกับการซื้อรถได้เลย 1 คัน
ทำไมเขาถึงเลือกที่จะเติม ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าวันหนึ่ง อาจจะต้องเลิกเล่นเกมนี้กัน ?
จากบทวิเคราะห์ เหตุผลที่ผู้เล่นเติมเงินให้กับเกม สามารถอธิบายด้วย ทฤษฎีจิตวิทยาของ Richard Ryan และ Edward Deci ในเรื่อง Self-Determination Theory หรือ ทฤษฎีความมุ่งมั่นในตนเอง
ตามทฤษฎีแล้ว มนุษย์เรานั้น จะมีความสุขหรือรู้สึกสนุก กับสิ่งที่เราชอบต่อเมื่อเรามีความเก่ง, ความเป็นตัวของตัวเอง และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสิ่งนั้น
ส่วนมากทุกคนจะเริ่มต้นจากการเป็นผู้เล่นใหม่ และความท้าทายในเกมมักจะยากเสมอ
แต่ผู้เล่นมักจะหาวิธีที่ทำให้มันผ่านไปง่ายกว่าเดิม
ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ทำให้เอาชนะความท้าทายต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ก็คือการเติมเงิน เพื่อแลกกับสิทธิประโยชน์บางอย่าง หรืออำนวยความสะดวก ในการซื้อของหายากภายในเกม นั่นเอง
อีกปัจจัยหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ก็คือ
หลาย ๆ เกมมักใช้ “การแข่งขัน” มาเป็นปัจจัยทางจิตวิทยาให้เราอยากเอาชนะคู่แข่ง หรือเพื่อน ๆ ที่เล่นด้วยกันให้ได้
บางเกมมักจะแสดงอันดับของเรา เปรียบเทียบกับเพื่อนที่เล่นด้วยกัน หรือเทียบกับคนอื่น ๆ ในประเทศ ว่าเราอยู่จุดไหน เพื่อนอยู่ในอันดับที่เท่าไรแล้ว
ซึ่งกลยุทธ์นี้ ก็ทำให้หลายคนรู้สึกว่า “แพ้ไม่ได้” จึงต้องหาตัวช่วย คือการเติมเงินเข้าไป แลกกับได้ของบางอย่าง หรือสิทธิประโยชน์บางอย่าง ที่ทำให้เราเก่งขึ้น หรือเท่ขึ้น
ด้วยทฤษฎีความมุ่งมั่นในตนเอง ทำให้สรุปได้ว่า ยิ่งผู้เล่นเติมเงินในเกม ก็จะทำให้ผู้เล่นรู้สึกสนุกและมีความสุข รวมถึงผูกพันกับเกมนั้น ๆ มากยิ่งขึ้น
แม้จะรู้ว่าสักวันหนึ่ง อาจต้องเลิกเล่นเกมนี้ไป
แต่ก็ขอแค่มีความสุขกับทุก ๆ โมเมนต์กับเกมที่รัก ในปัจจุบัน ก็พอแล้ว..
อ้างอิง :
-https://www.theguardian.com/business/2021/aug/03/chinas-tencent-tightens-controls-for-children-amid-games-addiction-fears
-https://www.sekg.net/gamer-psychology-people-play-games/
-https://www.youtube.com/watch?v=m6fm1gt5YAM&ab_channel=TheBrainwavesVideoAnthology
© 2025 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.