ทำไม การตลาดสายมู ถึงไม่เคยเสื่อมมนต์ขลัง ในเมืองไทย

ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ยังไม่จางหาย
แถมยังกลับมาแผลงฤทธิ์อีกระลอก ทำเอาหลายคนใจคอไม่ดี
เพราะไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าต้องเจอกับอะไร

หลากหลายความเชื่อ ที่มาช่วยเสริมเกราะทางใจ จึงกลายเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่โหยหา..

เทรนด์การตลาดสายมู (ย่อมาจาก มูเตลู) หรือ การตลาดที่เล่นกับความเชื่อของคน ยังคงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดยอดฮิต ที่หลายแบรนด์มักหยิบมาสร้างสีสันให้กับผลิตภัณฑ์และบริการของตัวเองอยู่บ่อยๆ

และพอโควิด 19 มาเยือน เลยยิ่งจุดประกายให้กลยุทธ์นี้ถูกหยิบมาใช้ถี่ขึ้น

แต่ถ้าถามว่า การตลาดสายมู เหมาะจะนำมาใช้ในช่วงไหน
จริงๆ ก็ไม่ได้มีข้อกำหนดตายตัว แต่ส่วนใหญ่จะเป็นช่วงต้นปีแบบนี้ เพราะต่อให้ไม่ใช่สายมู หลายคนก็มักถือโอกาสช่วงปีใหม่เติมพลังใจ ด้วยการหาของมงคลมาไว้ข้างกาย

หรือ ถ้าใครเป็นสายเชื่อเรื่องโชคลางหน่อย อาจจะมองหาของมาแก้ปีชง หรือเสริมดวงให้ชีวิตราบรื่นตลอดทั้งปี
จึงไม่แปลก ที่ช่วงต้นปีแบบนี้ มักจะเห็นหลายๆ แบรนด์งัดกลยุทธ์นี้มาใช้

ลองมาดูซิว่า เปิดศักราชใหม่มานี้ มีแบรนด์ไหนบ้าง ที่ลุกขึ้นมาจับตลาดสายมู

ใครจะคิดว่าวันหนึ่ง กล่องกระดาษทิชชูในบ้าน จะกลายเป็นของแก้ชง แถมเสริมมงคลได้..

แต่วันนี้เป็นจริงแล้ว เมื่อกระดาษทิชชู Zilk (ซิลค์) แท็กทีมกับ หมอช้าง-ทศพร ศรีตุลา หมอดูชื่อดังที่มีแฟนเพจมากถึง 1.4 ล้านคน มาเพิ่ม Value กระดาษทิชชู ไอเทมสามัญประจำบ้าน ให้เป็นมากกว่าทิชชูธรรมดา

ด้วยการแปลงโฉมลวดลายบนกล่องทิชชู ให้กลายเป็น 4 ลายพิเศษ
ใช้แก้ชง และ เสริมมงคลภายในบ้าน แบบ 2 in 1 ซะเลย

ถือว่าเป็นการเดินเกมในช่วงเวลาที่เหมาะเจาะ แถมยังเข้ากับภาวะเศรษฐกิจยุคนี้ ที่คนมองหาความคุ้มค่า
ถ้าไม่คิดอะไรมาก แทนที่จะไปตามหาของมงคลที่อาจจะมีราคาแพงหรือหาซื้อยาก
ก็หันมาซื้อกล่องกระดาษทิชชูแก้ชง ที่ราคาไม่แพง หาซื้อได้ง่าย แถมยังใช้ประโยชน์ได้ด้วย

มาต่ออีก หนึ่งไอเทมที่ทุกคนมองหาปีละครั้ง อย่าง ปฏิทิน
เพื่อไม่ให้เสียชื่อแบรนด์ ที่มีภาพลักษณ์เล่นกับความเชื่อของคนมาอย่างต่อเนื่อง
dtac ซึ่งทำการตลาดเบอร์มงคลจริงจัง มานานกว่า 15 ปี เลยส่งปฏิทินเสริมดวงเฮง ออกมาเอาใจสายมู

ด้วยการเติมเคล็ดลับเสริมดวงไว้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย การเลือกสีชุด วิธีเปลี่ยนมือถือ ให้เป็นนางกวักเรียกทรัพย์ รับเงินล้าน หรือ การเสริมฮวงจุ้ยบ้านตามบ้านเลขที่ เป็นต้น

แถมยังใจป้ำเปิดให้ดาวน์โหลดปฏิทินทางออนไลน์ ไปใช้กันแบบฟรีๆ ทั้ง 12 เดือน ต่อให้ไม่ใช่ลูกค้าก็โหลดได้

อีกหนึ่ง กรณีศึกษาที่นำกลยุทธ์การตลาดสายมูมาใช้อย่างน่าสนใจ คือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
อย่างที่รู้ว่าการมาเยือนของโควิด 19 ทำให้ภาคการท่องเที่ยวตกที่นั่งลำบาก

ไม่เว้นแม้แต่จุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักเดินท่องเที่ยว อย่างเช่น เกาะสมุย
ซึ่งเป็นผลพวงจากการปิดประเทศมาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้ชาวต่างชาติไม่สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยได้ตามปกติ

การขาดหายไปของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้อัตราการเข้าพักโดยเฉลี่ยของโรงแรมบนเกาะสมุย ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ เหลือเพียง 20% เท่านั้น

ดังนั้น ททท.จึงเปลี่ยนกลยุทธ์แทนที่จะโปรโมตทะเลสวย น้ำใส หันมาจับกลุ่มนักท่องเที่ยวไทย ที่เป็นสายเดินทางเชิงความเชื่อและศรัทธา
ซึ่งระยะหลังนิยมเดินทางมานครศรีธรรมราชมากขึ้น เพื่อกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะไอ้ไข่ วัดเจดีย์ ที่โด่งดังเรื่องให้โชคลาภวาสนา

ว่ากันว่ามีผู้คนจากทั่วทุกสารทิศแห่มาขอพร ขอโชคลาภ ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 300,000 คน

ดังนั้น แทนที่จะปล่อยให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มาแล้วกลับ ไม่สู้โปรโมตให้นั่งเรือต่อมาสมุยซะเลย
เพราะจากเดิมที่คนไทยคุ้นเคยว่า ถ้าจะไปสมุยไม่บินตรง ก็ต้องมาต่อเฟอร์รีจากฝั่ง จ.สุราษฎร์ฯ
ทั้งที่จริงๆ แล้ว ถ้าแวะมาสุราษฎร์ฯ สามารถนั่งเรือจากฝั่ง อ.ขนอม และ อ.สิชล มายังสมุยได้เลย แถมยังใช้เวลาน้อยกว่าด้วย

นี่ยังไม่รวมอีกหลายแบรนด์ดังที่จับเทรนด์การตลาดสายมูมาเล่นอย่างต่อเนื่อง
อาทิ เนสกาแฟ เมื่อปีที่แล้ว ก็ต้อนรับปีหนูด้วยการเปิดตัวคอลเลกชันแก้วมงคล พร้อมคำมงคลจีน

เมืองไทยประกันชีวิต ออกประกันปีชง เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความเชื่อส่วนบุคคลเกี่ยวกับเรื่องดวงโดยเฉพาะ

ขณะที่ เจียไต๋ โฮมการ์เด้น ออกชุด สนุกปลูก Lucky Flower
ให้เลือกปลูกตามวันเกิด หรือจะเลือกตามความชอบก็ได้ เพื่อเสริมดวงชะตาในด้านต่างๆ เป็นต้น

เพราะฉะนั้นถ้าถามว่า ในโลกการตลาดที่ทุกอย่างมาไวไปไว
เทรนด์การตลาดสายมู จะยังคงหอมหวานและสามารถสร้างสีสันให้กับตลาดบ้านเราอย่างต่อเนื่องได้หรือไม่

คำตอบ คือ เป็นไปได้สูง เพราะ คนไทยกับความเชื่อเรื่องโชคลาง เป็นของคู่กัน

ยิ่งในช่วงที่ต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน
ทุกคนล้วนต้องการที่พึ่งทางใจ แม้จะไม่มีผลลัพธ์ทางวิทยาศาสตร์ออกมายืนยัน

แต่อย่างน้อยถ้าเชื่อตามหลักใจเป็นนายกายเป็นบ่าว
การที่ใจสู้ ต่อให้จะเจออุปสรรคอะไรก็ไม่ใช่ปัญหา

โดยเฉพาะช่วงที่เทศกาลตรุษจีนใกล้เข้ามาแบบนี้ เชื่อว่า จะมีแคมเปญการตลาดสายมู มาสร้างสีสันให้ได้เห็นอีกแน่นอน…

อ้างอิง :
-https://www.dtac.co.th/camp/calendar-2021.html
-https://www.prachachat.net/marketing/news-466223
-https://www.thairath.co.th/news/business/2005497
-https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/896983
-https://siamrath.co.th/n/125692