ทำไม “อิซากายะ” วัฒนธรรมการกินดื่มของญี่ปุ่น ถึงได้เริ่มเป็นที่นิยมในไทย ?
6 ธ.ค. 2020
เย็นวันศุกร์ หรือวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ไปกิน ดื่มที่ไหนกันดี ?
คำถามยอดฮิตที่เรามักจะเห็นเพื่อนๆ ถามกันตามประสากลุ่มคนทำงาน เป็นปกติ
คำถามยอดฮิตที่เรามักจะเห็นเพื่อนๆ ถามกันตามประสากลุ่มคนทำงาน เป็นปกติ
แล้วถ้าให้ลองนึกว่า ร้านอาหารไหนบ้างที่สะดวกต่อการนั่งกิน ดื่ม คุยสังสรรค์กับเพื่อนร่วมงานมากที่สุด ?
คำตอบที่ได้อาจจะเป็น การเน้นอาหารที่หลากหลาย
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ราคาไม่แพง สามารถสั่งดื่มได้จำนวนเยอะๆ
หรือสามารถส่งเสียงดังๆ ได้ แบบไม่รบกวนคนอื่น..
คำตอบที่ได้อาจจะเป็น การเน้นอาหารที่หลากหลาย
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ราคาไม่แพง สามารถสั่งดื่มได้จำนวนเยอะๆ
หรือสามารถส่งเสียงดังๆ ได้ แบบไม่รบกวนคนอื่น..
ซึ่งคำตอบเหล่านี้ เราสามารถพบทุกอย่างได้ในร้านอาหารนั่งดื่มสไตล์ญี่ปุ่น ในรูปแบบของ “อิซากายะ”
ก่อนอื่น มาดูตัวเลขร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทย ว่ามีอัตราการเติบโตแค่ไหน
หากอ้างอิงข้อมูลจากสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และ เจโทร
ในปี 2019 ประเทศไทยมีจำนวนร้านอาหารญี่ปุ่น อยู่ 3,637 สาขา เติบโตขึ้น 21% จากปีก่อน
ในปี 2019 ประเทศไทยมีจำนวนร้านอาหารญี่ปุ่น อยู่ 3,637 สาขา เติบโตขึ้น 21% จากปีก่อน
โดยประเภทร้านอาหารญี่ปุ่นที่ครองส่วนแบ่งอันดับ 1 คือ ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น จำนวน 829 ร้าน ซึ่งมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 19% จากปีก่อน
ในส่วนของร้านอิซากายะ ครองส่วนแบ่งในอันดับที่ 5 โดยมีจำนวน 283 ร้าน เติบโต 15% จากปีก่อน
คงไม่น่าแปลกใจที่ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นนั้นมีอัตราการเติบโตที่ดี
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ทำไมธุรกิจร้านอาหารที่มีความเฉพาะตัวอย่าง “อิซากายะ” ขยายตัวได้ดีในประเทศไทย ?
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ทำไมธุรกิจร้านอาหารที่มีความเฉพาะตัวอย่าง “อิซากายะ” ขยายตัวได้ดีในประเทศไทย ?
อิซากายะ กำเนิดขึ้นมาในยุคก่อนสมัยเมจิในช่วงปี ค.ศ. 1868 ซึ่งในช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่ประเทศญี่ปุ่นยกเลิกระบบโชกุน และถ้าเทียบช่วงเวลากับประเทศไทย ก็คือปีที่ รัชกาลที่ 4 สวรรคต และรัชกาลที่ 5 ได้ขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ
ต่อมารูปแบบของร้านอิซากายะ ได้ถูกพัฒนาอย่างเต็มที่ก็ในช่วงปี 1980 หรือจะเรียกว่า เริ่มเข้าสู่ยุคสมัยใหม่แล้วก็ว่าได้
ในปัจจุบันนี้ อิซากายะ คือสถานที่รับประทานอาหารที่ให้รสชาติแห่งความเพลิดเพลิน โดยมีกลุ่มลูกค้าหลักคือพนักงานบริษัท
โดยอาหารแต่ละจานจะไม่เน้นที่ปริมาณ แต่จะเน้นให้ลูกค้ามีการสั่งอาหารที่หลากหลาย และกินคู่กับเบียร์
โดยอาหารแต่ละจานจะไม่เน้นที่ปริมาณ แต่จะเน้นให้ลูกค้ามีการสั่งอาหารที่หลากหลาย และกินคู่กับเบียร์
หนึ่งในวัฒนธรรมที่น่าสนใจมากของร้านอิซากายะในประเทศญี่ปุ่น
คือ จะมีอาหารที่ไม่ได้สั่ง แต่ดันถูกนำมาเสิร์ฟที่โต๊ะของลูกค้า ซึ่งเรียกว่า “โอโตชิ”
พูดง่ายๆ ก็คือ การเสิร์ฟถั่วแระญี่ปุ่น หรือ เต้าหู้เย็น ที่ดูเหมือนจะให้ฟรี แต่กลับกัน ลูกค้าจะต้องชำระเงินค่าโอโตชิ ในตอนท้ายอย่างเลี่ยงไม่ได้..
คือ จะมีอาหารที่ไม่ได้สั่ง แต่ดันถูกนำมาเสิร์ฟที่โต๊ะของลูกค้า ซึ่งเรียกว่า “โอโตชิ”
พูดง่ายๆ ก็คือ การเสิร์ฟถั่วแระญี่ปุ่น หรือ เต้าหู้เย็น ที่ดูเหมือนจะให้ฟรี แต่กลับกัน ลูกค้าจะต้องชำระเงินค่าโอโตชิ ในตอนท้ายอย่างเลี่ยงไม่ได้..
ซึ่งวัฒนธรรมนี้ เรายังไม่ค่อยพบเห็นกับร้านอิซากายะภายในประเทศไทยเท่าไร
ส่วนวัฒนธรรมการดื่มของชาวญี่ปุ่นนั้นไม่ซับซ้อน โดยที่เบียร์สด จะต้องเป็นสิ่งเริ่มต้นสำหรับการดื่ม เพราะฉะนั้น จึงไม่แปลกที่ทุกๆ ครั้งที่เราเข้าไปในร้านอาหารประเภท อิซากายะ จะพบแบรนด์เบียร์สดจากญี่ปุ่น
รวมถึงการสูบบุหรี่ภายในร้าน ก็ยังเป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมที่เป็นเรื่องปกติมากๆ ของชาวญี่ปุ่น
รวมถึงการสูบบุหรี่ภายในร้าน ก็ยังเป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมที่เป็นเรื่องปกติมากๆ ของชาวญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ตัวรูปแบบของร้านอิซากายะ ยังสะท้อนถึงหลักและวิธีการผ่อนคลายความเครียด จากปัจจัยสภาพแวดล้อมเบื้องต้น ได้อีกด้วย
อ้างอิงจากโรงพยาบาลมนารมย์
-การผ่อนคลายด้วยรูปร่าง โดยของใช้และการออกแบบจะมีลักษณะโค้งมน
ส่วนเรื่องของโทนสี และแสง ที่มีการใช้โทนสีอ่อน ไม่สว่างมากเกินไป เปรียบเสมือนกับการดีไซน์ที่เป็นโทนอบอุ่น หรือ ลักษณะแสงไฟสีเหลืองขุ่นจากโคมไฟกระดาษ
-การผ่อนคลายด้วยรูปร่าง โดยของใช้และการออกแบบจะมีลักษณะโค้งมน
ส่วนเรื่องของโทนสี และแสง ที่มีการใช้โทนสีอ่อน ไม่สว่างมากเกินไป เปรียบเสมือนกับการดีไซน์ที่เป็นโทนอบอุ่น หรือ ลักษณะแสงไฟสีเหลืองขุ่นจากโคมไฟกระดาษ
รูปแบบของการใช้โต๊ะไม้สีเข้ม และเสื่อทาทามิ ที่ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ แต่เสมือนว่านั่งดื่มอยู่ที่บ้านกับเพื่อนฝูง
-การผ่อนคลายจากการได้ยินเสียงดนตรีที่ไม่มีเนื้อร้อง
เพราะร้านอิซากายะเหล่านี้ ไม่มีการนำดนตรีสดมาเล่น และจะเปิดเพียงแค่เพลงภาษาญี่ปุ่นเบาๆ เน้นการพูดคุยซะมากกว่า
เพราะร้านอิซากายะเหล่านี้ ไม่มีการนำดนตรีสดมาเล่น และจะเปิดเพียงแค่เพลงภาษาญี่ปุ่นเบาๆ เน้นการพูดคุยซะมากกว่า
ต่อมาคือจุดเด่นในเรื่องของ วัฒนธรรมของความไม่รีบร้อน ในเวลาพักผ่อนของคนญี่ปุ่นกับร้านอาหารนั่งดื่มอิซากายะ
การเสิร์ฟอาหารแต่ละจาน จะไม่ได้เป็นการเสิร์ฟอย่างรวดเร็ว มีช่วงเวลาที่ลูกค้าอาจต้องรอในแต่ละจาน
แต่กลับกัน ถ้าเป็นเรื่องของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะเน้นความรวดเร็วในการเสิร์ฟ
แต่กลับกัน ถ้าเป็นเรื่องของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะเน้นความรวดเร็วในการเสิร์ฟ
ส่วนพนักงานรับออเดอร์เอง ก็จะไม่มีการเร่งรีบกับลูกค้า
ทำให้ลูกค้าสามารถนั่งดื่มได้ยาวๆ ตามมาตรฐานการบริการในสไตล์ญี่ปุ่น
ทำให้ลูกค้าสามารถนั่งดื่มได้ยาวๆ ตามมาตรฐานการบริการในสไตล์ญี่ปุ่น
สุดท้ายนี้ ร้านอิซากายะ ยังคงถูกพูดถึงในแง่ของการเป็น “ตัวเลือกสุดท้าย”
ตัวเลือกสุดท้ายในที่นี้ก็มาจาก ความง่าย สะดวกสบาย ราคาเป็นมิตร และคอนเซปต์ของร้านที่ ไม่ว่าเราจะไปนั่งกิน ดื่ม ที่ร้านอิซากายะที่ไหน ก็จะมีสไตล์ที่เหมือนกันแทบจะทั้งหมด
ตัวเลือกสุดท้ายในที่นี้ก็มาจาก ความง่าย สะดวกสบาย ราคาเป็นมิตร และคอนเซปต์ของร้านที่ ไม่ว่าเราจะไปนั่งกิน ดื่ม ที่ร้านอิซากายะที่ไหน ก็จะมีสไตล์ที่เหมือนกันแทบจะทั้งหมด
สิ่งเหล่านี้ดึงดูดให้กลุ่มคนที่ต้องการสังสรรค์แต่เลือกสถานที่ไม่ถูก นึกถึงร้านสไตล์อิซากายะ
และตัดสินใจมาใช้บริการกันนั่นเอง
และตัดสินใจมาใช้บริการกันนั่นเอง
ก็น่าจับตามองกันว่า ต่อไปธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นอิซากายะ ในเมืองไทย
จะมีแนวโน้มเติบโต และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน ในอนาคต..
จะมีแนวโน้มเติบโต และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน ในอนาคต..
อ้างอิง :
-https://japanology.org/…/beyond-pub-closer-look-japans-iza…/
-https://matcha-jp.com/th/3541
-สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (https://ismed.or.th/SPR291062.php)
-http://ithesis-ir.su.ac.th/…/…/123456789/1890/1/59156318.pdf
-https://japanology.org/…/beyond-pub-closer-look-japans-iza…/
-https://matcha-jp.com/th/3541
-สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (https://ismed.or.th/SPR291062.php)
-http://ithesis-ir.su.ac.th/…/…/123456789/1890/1/59156318.pdf