อุตสาหกรรมบันเทิงและสื่อ กำลังเจอความท้าทาย

อุตสาหกรรมบันเทิงและสื่อ กำลังเจอความท้าทาย

2 ก.ย. 2020
รายงาน Global Entertainment & Media Outlook 2020-2024 ของ PwC เผยให้เห็นว่า โควิด-19 ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ทั้งยังก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมบันเทิงและสื่อ
- การเติบโตของอุตสาหกรรมหดตัวลงอย่างมาก
ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยในปี 2563 คาดว่าอุตสาหกรรมบันเทิงและสื่อ จะมีรายได้ลดลง 5.6% จากปี 2562 หรือกว่า 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (3.7 ล้านล้านบาท)
ซึ่งย่ำแย่กว่าตอนที่เกิดภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยในปี 2552 โดยในปีนั้นการใช้จ่ายในอุตสาหกรรมบันเทิงและสื่อทั่วโลกลดลงเพียง 3.0%
แต่คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมบันเทิงและสื่อ จะกลับมาเติบโตยิ่งกว่าเดิมหลังผ่านพ้นความท้าทายในปี 2563
โดยคาดว่าในปี 2564 การใช้จ่ายในอุตสาหกรรมบันเทิงและสื่อจะเติบโต 6.4%
ส่วนในระยะเวลา 5 ปีระหว่างปี 2562-2567 คาดว่ารายได้รวมของอุตสาหกรรมบันเทิงและสื่อ จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ระดับ 2.8%
- เกิดจุดเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว
โรคระบาดทำให้อุตสาหกรรมบันเทิงและสื่อได้รับผลกระทบไม่เท่ากัน
โดยที่กระทบหนักสุดคือ ธุรกิจที่ต้องปิดตัวเพราะโควิด-19 เช่น การจัดอีเวนต์ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงดนตรีสด การฉายภาพยนตร์ หรือการจัดแสดงสินค้า ซึ่งคาดว่าเม็ดเงินโฆษณาจะลดลงราว 13.4%
ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนผ่านของธุรกิจหนังสือพิมพ์จากสื่อสิ่งพิมพ์ ไปสู่สื่อดิจิทัลก็เกิดเร็วขึ้นกว่าเดิมหลายปี ส่งผลให้รายได้ของสื่อสิ่งพิมพ์ลดลง
ผลที่ตามมาคือ อุตสาหกรรมบันเทิงและสื่อมีการพลิกโฉมเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างมาก
เช่น ธุรกิจโรงภาพยนตร์ เทียบกับ บริการรับชมแบบเรียกเก็บค่าสมาชิก (SVOD)
โดยในปี 2558 ธุรกิจโรงภาพยนตร์มีรายได้สูงกว่า SVOD ถึงสามเท่า
แต่คาดว่า SVOD จะมีรายได้แซงหน้าโรงภาพยนตร์ในปี 2563 และจะมีรายได้มากกว่าโรงภาพยนตร์ถึง 2 เท่าภายในปี 2567
- ก่อเกิดผู้ชนะและผู้แพ้
ธุรกิจให้บริการคอนเทนต์ออนไลน์ (OTT) ทั่วโลกจะมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 26.0% ในปี 2563
และคาดว่าจะโตเกือบ 2 เท่าจาก 46,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.4 ล้านล้านบาท) ในปี 2562
สู่ระดับ 86,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2.7 ล้านล้านบาท) ในปี 2567
ดังนั้น การเปิดตัวบริการสตรีม Disney+ เมื่อปลายปี 2562 จึงถูกเวลาที่สุด จากตอนแรกที่คาดว่าจะมีผู้สมัครสมาชิกราว 60-90 ล้านรายภายในปี 2567 กลายเป็นว่า Disney+ มีผู้สมัครสมาชิกสูงถึง 60.5 ล้านรายตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม 2563
เมื่อมีธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ ก็ต้องมีธุรกิจที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน
โรงภาพยนตร์หลายแห่งต้องปิดตัวลง และการฉายภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์หลายเรื่องต้องเลื่อนออกไป
ซึ่งคาดการณ์ว่ารายได้ของธุรกิจโรงภาพยนตร์ทั่วโลกจะร่วงลงเกือบ 66% ในปีนี้
และอาจยังไม่สามารถฟื้นตัวได้ โดยคาดว่ารายได้ของโรงภาพยนตร์ในปี 2567 จะต่ำกว่ารายได้ในปี 2562
ส่วนอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบหนักคือ ธุรกิจหนังสือพิมพ์และนิตยสาร
ซึ่งทรุดตัวลงอย่างรวดเร็วในปี 2563 ด้วยรายได้รวมที่คาดว่าจะร่วงลงกว่า 14%
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายภาคส่วนที่ต้องดิ้นรนกลับมาเติบโตอีกครั้ง เช่น ธุรกิจโฆษณาทั่วโลกที่คาดว่าจะหดตัวลง 13.4% ในปี 2563 สู่ระดับ 559,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (17.5 ล้านล้านบาท) และไม่น่าจะฟื้นตัวกลับมาสู่ระดับเดียวกับปี 2562 ได้จนกว่าจะถึงปี 2565
อย่างไรก็ตาม มีธุรกิจบางส่วนที่สวนทางตลาด
สื่อ “ดั้งเดิม” บางส่วนสามารถอยู่รอดแม้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และการก้าวสู่ความเป็นดิจิทัลที่เกิดเร็วขึ้น
โดยหนังสือมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงล็อกดาวน์ และคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นราว 1.4% ต่อปีในช่วงปี 2562-2567 สู่ระดับ 64,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2 ล้านล้านบาท)
นอกจากนี้ เทคโนโลยียังมีบทบาทสำคัญ โดยการใช้สมาร์ทโฟนและลำโพงอัจฉริยะที่เพิ่มมากขึ้นได้ช่วยกระตุ้นยอดขายออดิโอบุ๊ก ซึ่งผู้บริโภคสามารถรับฟังได้ในระหว่างเดินทาง
ธุรกิจจัดอีเวนต์สด เป็นอีกหนึ่งภาคส่วนที่ต้องมองหาลู่ทางการปรับตัวในโลกดิจิทัล
เนื่องจากสถานที่จัดคอนเสิร์ต ศูนย์แสดงสินค้า และสนามกีฬาต่างปิดให้บริการเป็นส่วนใหญ่ในปีนี้
อีเวนต์สดบางส่วนจึงหันมาใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลในการเข้าถึงผู้บริโภค ยกตัวอย่างเช่น เทศกาลดนตรี Wireless Festival ในกรุงลอนดอนของอังกฤษ ได้จับมือกับบริษัทเทคโนโลยี MelodyVR ในช่วงกลางปี 2563
เพื่อไลฟ์สดการแสดงออนไลน์ของศิลปินหลายคน เช่น Cardi B, Travis Scott และ Migos โดยมีผู้ชมกว่า 130,000 คน จาก 34 ประเทศ
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.