LEO สร้างจุดต่างจัด Live Concert ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ หลังปลดล็อคเฟส 5

ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานั้น มีคอนเสิร์ตออนไลน์เกิดขึ้นจำนวนมาก จนนับได้ว่าเป็นหนึ่งใน New Normal ที่เปิดโอกาสให้ศิลปินหารายได้ รวมถึงเป็นช่องทางให้แบรนด์ต่างๆ ทำการตลาดในยุคที่คน Work From Home และต้องรักษาระยะห่างระหว่างกัน (Social Distancing) ซึ่งก็เรียกได้ว่า ในเวลานี้การจัดคอนเสิร์ตออนไลน์นั้นแทบจะมีให้เราเห็นกัน ทุกสุดสัปดาห์เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม คอนเสิร์ตต่างๆ ที่เราเห็น ไม่ว่าจะเป็นของศิลปินเอง ของค่ายเพลง หรือของแบรนด์ต่างๆ ก็ตาม มักจะจัดอยู่ในสถานที่เล็กๆ หรือสตูดิโอ ที่เน้นการสร้างความตื่นตาตื่นใจในรูปแบบของ Special Effects หรือ Computer Graphic มากกว่า

แต่ในวันที่ปลดล็อคเฟส 5 ก็มีแบรนด์หนึ่งที่ปรับตัวอย่างรวดเร็ว ชวนคนที่ไม่ได้ออกไปไหนมาหลายเดือน คิดถึงบรรยากาศของการเที่ยว และรักในเสียงดนตรี มาสนุกไปกับคอนเสิร์ตที่จัดท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ กับแคมเปญ LEO Music Traveller คอนเสิร์ตที่มาสร้างความแตกต่าง ทั้งสถานที่จัดงานและรูปแบบของโชว์ซึ่งก็ถือว่าได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาดเลยทีเดียว

สำหรับใครที่ไม่ได้ไปดูคอนเสิร์ตในครั้งนี้ อาจยังนึกไม่ออกว่า จะออกมาในรูปแบบไหน

คอนเสิร์ต LEO Music Traveller แบ่งเป็นสอง Episode ครั้งแรกจัดขึ้นในบรรยากาศริมทะเลช่วงปลายเดือนมิถุนายน และกลางเดือนกรกฎาคมก็จัดขึ้นในบรรยากาศดีๆ ของสไตล์ภูเขา ช่วงเวลา 5 โมงเย็น ถึง 4 ทุ่ม

สําหรับศิลปินที่ลีโอเลือกมาขึ้นเวทีในแต่ละครั้ง ก็ทำให้เกิดสีสันแปลกใหม่แบบที่ไม่เคยเห็น โดยลีโอเลือกที่จะออกนอก Comfort Zone จับศิลปินต่างแนว ทั้งนักร้องชื่อดังที่ทุกคนต้องรู้จัก และนักร้องหน้าใหม่ที่กําลังอยู่ในกระแส ที่ยังไม่เคยโคจรมาเจอกัน ได้มาเจอกันและทำโชว์พิเศษร่วมกันตอกย้ำความ “รวมกันมันส์กว่า” ของแบรนด์ โดยครั้งแรกลีโอเลือก Tilly Birds, อิ้งค์ วรันธร, Three Man Down และ Klear ส่วนครั้งที่สอง ก็ได้พา ส้ม มารี, Indigo, Zeal และ Clash มาอยู่บนเวทีร่วมกัน โดยลีโอเลือกที่จะถ่ายทอดความสนุกครั้งนี้ผ่าน Live สดในเฟซบุ๊ก LEO Thailand จัดได้ว่าสร้างความประทับใจให้แฟนๆ ไปไม่น้อย

แล้ว LEO Music Traveller พิเศษอย่างไร

อย่าง EP แรกที่ผ่านมาจัดขึ้นที่ริมทะเล สิ่งที่น่าสนใจอย่างแรกเลยคือบรรยากาศ ที่ออกไปทางสบายๆ โล่งกว้าง มีวิวทะเลอยู่ด้านหลัง ไม่เหมือนอยู่ในสตูดิโอ ซึ่งก็ถือเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ ได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะคนที่ต้องดูอยู่ที่บ้าน ทําให้เหมือนอิ่มเอมกับบรรยากาศไปด้วย ซึ่งเรียกได้ว่าคอนเสิร์ตในบรรยากาศแบบนี้ สนุก และมันส์ กว่าคอนเสิร์ตในสตูดิโอที่เจ้าอื่นจัดกัน

อย่างที่สอง คือเรื่องของ การพูดคุยกับศิลปิน ผ่านทางคอมเมนต์ในเฟซบุ๊ก ซึ่งถือว่าเป็นการพูดคุยแบบเรียลไทม์และใกล้ชิดอย่างมาก เพราะศิลปินทุกคนอ่านทุกคอมเมนต์ ทำให้คนดูรู้สึกเหมือนได้มาดูคอนเสิร์ต และพูดคุยกับศิลปินจริงๆ และยังสามารถโหวตขอเพลงกันได้อีกด้วย และที่สนุกมากไปกว่านั้นคือ ในระหว่างการแสดงก็มีกิจกรรมให้คนดูรู้สึกใกล้ชิดกับศิลปินยิ่งขึ้น เช่น การกดหัวใจ ให้ครบ 2,000 ครั้ง แล้วมีช่อดอกไม้สีแดงไปให้ อิ้งค์ วรันธร ซึ่งในขณะที่ให้ของรางวัลก็มีการปรับมุมกล้องเสมือนว่าเราเป็นคนถือไปให้อีกด้วย หรือถ้าแชร์ให้ครบยอดที่กําหนด ก็จะมีเพลงพิเศษให้ หรืออย่างในครั้งที่ผ่านมา พอส่งอีโมจิหัวใจร้าวไปในเพลงแค่เราไม่ได้รักกัน ก็มีแชทกระแทกใจคนอกหักหลายๆ คนไปเต็มๆ และอีกหนึ่งข้อสุดท้ายคือ คอนเสิร์ตในครั้งนี้ ทาง LEO ก็จัดขึ้นมาให้ดูกันได้แบบฟรีๆ อีกด้วย

จริงๆ แล้วการจัดคอนเสิร์ตแบบไลฟ์สดไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่สําหรับแคมเปญนี้ทางลีโอก็ทำให้แปลกใจไม่น้อย เพราะเป็นคอนเสิร์ตที่แบรนด์จัดขึ้นเอง ซึ่งปกติแล้วยอดจะไม่ดีเท่าการที่ค่ายหรือศิลปินจัด แต่ครั้งนี้มียอดการรับชมของ 2 EP. รวมกันสูงกว่า 2.5 ล้านครั้ง มียอดแชร์รวมกันกว่า 30,000 ครั้ง และที่สำคัญคือลีโอสามารถดึงให้คนเข้ามา engage กับเพจของแบรนด์ผ่านคอมเมนต์ได้ตลอดการ Live 

จนพอจบคอนเสิร์ตครั้งล่าสุดก็มียอดคอมเมนต์สูงถึง 40,000 ข้อความ ทั้งข้อความที่ผู้ชมทำเสมือนว่ามาด้วยกัน คุยเล่นกันกับโต๊ะข้างๆ หรือมีการขอเครื่องดื่มเสมือนอยู่ที่ร้านจริงๆ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแคมเปญของลีโอที่ประสบความสําเร็จในการทํา Music Marketing

แต่ครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลีโอกล้าที่จะสร้างความแตกต่าง เพราะหากนับตั้งแต่เข้าสู่วิกฤต COVID-19 ลีโอก็เป็นแบรนด์แรกๆ ที่จัดคอนเสิร์ตในรูปแบบของ Live ภายใต้แคมเปญ LEO Live Muzik ที่ให้ศิลปินส่งความสนุกให้คนดูจากที่บ้าน พัฒนาต่อยอดมาเป็น LEO Fest From Home ซึ่งเป็นการ Live มาราธอนยาวถึง 12 ชั่วโมง และก็มาเป็น LEO Music Traveller ที่ออกไป Live นอกสถานที่ตั้งแต่เริ่มปลดล็อคเฟส 5 นับว่าเป็นอีกก้าวที่น่าจับตามองของแบรนด์เลยทีเดียว

และจากผลตอบรับที่ดีตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เราอาจจะมีโอกาสได้รับชม Episode ต่อไป หรือแคมเปญใหม่ๆ ในเร็วๆ นี้ก็เป็นได้ แต่ก็ต้องติดตามต่อไปว่าครั้งหน้า LEO จะพาไปที่ไหน และจะมีศิลปินคนไหนมานำทีมส่งต่อความสนุกในครั้งนี้ สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เพจ LEO Thailand