ใครคือเจ้าของ OfficeMate, B2S และ MEB
5 ส.ค. 2020
รู้ไหมว่า ร้านจำหน่ายอุปกรณ์สำนักงาน “OfficeMate”
ร้านจำหน่ายหนังสือและเครื่องเขียน “B2S” และแพลตฟอร์มจำหน่ายอีบุ๊ก “MEB”
มีเจ้าของเดียวกัน คือ บริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน) หรือ COL
ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมีมูลค่าบริษัทกว่า 10,400 ล้านบาท
ร้านจำหน่ายหนังสือและเครื่องเขียน “B2S” และแพลตฟอร์มจำหน่ายอีบุ๊ก “MEB”
มีเจ้าของเดียวกัน คือ บริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน) หรือ COL
ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมีมูลค่าบริษัทกว่า 10,400 ล้านบาท
โดยอาณาจักร COL นี้ คนที่มีส่วนสำคัญในการสร้างรากฐาน คือ คุณวรวุฒิ อุ่นใจ
เดิมทีครอบครัวของคุณวรวุฒิ ทำธุรกิจร้านขายเครื่องเขียน “กิจวิทยา สเตชั่นเนอรี่”
ซึ่งขณะที่เขาเรียนอยู่ชั้นปี 1 สาขาการตลาด ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คุณวรวุฒิได้ทราบว่า กิจการที่บ้านกำลังขาดสภาพคล่องอย่างหนัก ถึงขั้นใกล้ล้มละลาย
และเป็นหนี้อยู่กว่า 17 ล้านบาท..
คุณวรวุฒิได้ทราบว่า กิจการที่บ้านกำลังขาดสภาพคล่องอย่างหนัก ถึงขั้นใกล้ล้มละลาย
และเป็นหนี้อยู่กว่า 17 ล้านบาท..
ด้วยความอยากช่วยทางบ้าน เขาจึงนำความรู้ที่เรียนมา ใช้ประเมินและวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ของธุรกิจ
แล้วเห็นว่า กลยุทธ์การขายสินค้าแบบ Catalog Sales ที่เจาะกลุ่มลูกค้าองค์กร สามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจที่บ้านได้
แล้วเห็นว่า กลยุทธ์การขายสินค้าแบบ Catalog Sales ที่เจาะกลุ่มลูกค้าองค์กร สามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจที่บ้านได้
แต่ด้วยข้อจำกัดด้านเงินทุน จึงทำได้เพียง Price list ซึ่งเป็นใบรายการที่จัดหมวดหมู่ และแสดงราคาของสินค้าเท่านั้น
โดยคุณวรวุฒิและครอบครัว ได้ช่วยกันจัดทำและนำใบ Price list ตระเวนไปส่งตามออฟฟิศต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อหาลูกค้าจากบริษัทต่างๆ ซึ่งวิธีการนี้ก็ช่วยให้ธุรกิจของครอบครัวสามารถรอดพ้นวิกฤติมาได้
หลังจากช่วยธุรกิจครอบครัวอยู่ราว 4-5 ปี คุณวรวุฒิก็เริ่มมีความคิดอยากเปิดบริษัทของตัวเอง จึงตัดสินใจไปเรียนต่อด้าน MBA ภาคค่ำที่นิด้า เพื่อหาความรู้เพิ่มเติม
ตอนเรียนเขาได้ศึกษาโมเดลธุรกิจ Catalog Sales จากต่างประเทศทั้งในอเมริกา, ยุโรป และญี่ปุ่นอย่างจริงจัง
รวมถึงเลือกทำวิทยานิพนธ์ด้านนี้โดยเฉพาะ โดยมีชื่อโครงการว่า “OfficeMate”
รวมถึงเลือกทำวิทยานิพนธ์ด้านนี้โดยเฉพาะ โดยมีชื่อโครงการว่า “OfficeMate”
ซึ่งสุดท้าย เขาก็นำผลงานชิ้นนี้ไปเสนอกับทางธนาคาร เพื่อขอกู้เงินมาเริ่มต้นธุรกิจ และก่อตั้งบริษัท OfficeMate ขึ้นในปี พ.ศ. 2537
เริ่มแรกกิจการของเขากำลังไปได้ดี สร้างรายได้ตั้งแต่ 2-10 ล้านบาทต่อเดือน แต่พอเจอพิษเศรษฐกิจตอนปี พ.ศ. 2540 ที่ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องปิดกิจการลง ซึ่งกระทบต่อยอดขายของ OfficeMate ในที่สุด
แต่แทนที่จะชะลอการลงทุน และรอให้ธุรกิจค่อยๆ แย่ลง เหมือนบริษัทอื่น
คุณวรวุฒิกลับคิดว่าไหนๆ ธุรกิจก็มีโอกาสล้มละลายแล้ว สู้เลือกเสี่ยงทุ่มทุนทำตามความฝัน
ที่อยากทำหนังสือขายแบบ Catalog ออกมาให้ดีที่สุดดีกว่า
คุณวรวุฒิกลับคิดว่าไหนๆ ธุรกิจก็มีโอกาสล้มละลายแล้ว สู้เลือกเสี่ยงทุ่มทุนทำตามความฝัน
ที่อยากทำหนังสือขายแบบ Catalog ออกมาให้ดีที่สุดดีกว่า
โดยเขาไปขอเจรจากับเหล่าซัพพลายเออร์ของ OfficeMate ให้มาร่วมลงทุนทำหนังสือ Catalog สินค้า
และได้จัดพิมพ์ทั้งหมดประมาณ 30,000 เล่ม รวมเป็นเงินกว่า 7 ล้านบาท
และได้จัดพิมพ์ทั้งหมดประมาณ 30,000 เล่ม รวมเป็นเงินกว่า 7 ล้านบาท
ซึ่งปรากฏว่าหนังสือขายแบบ Catalog ทำให้ยอดขายของ OfficeMate
เติบโตอย่างรวดเร็ว แตะหลักสิบล้านบาทได้อีกครั้งภายใน 6 เดือน
เติบโตอย่างรวดเร็ว แตะหลักสิบล้านบาทได้อีกครั้งภายใน 6 เดือน
หลังจากนั้น OfficeMate ก็เติบโตเรื่อยมา
จนสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ได้ในปี พ.ศ. 2553
จนสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ได้ในปี พ.ศ. 2553
และพอปี พ.ศ. 2555 OfficeMate ก็ได้ควบรวมกิจการกับ บริษัทเครื่องใช้สำนักงาน ออฟฟิซ คลับ (ไทย) และร้านหนังสือ B2S ของเครือเซ็นทรัล แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น COL
ที่น่าสนใจคือ พอเทรนด์หนังสือในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีบุ๊กกำลังมา
และร้านหนังสือรูปแบบเดิมๆ กำลังถูกดิสรัป
COL ก็ได้เข้าซื้อกิจการแพลตฟอร์มจำหน่ายอีบุ๊กอย่าง MEB
เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตและอุดความเสี่ยงของธุรกิจไปพร้อมๆ กัน โดยเข้าซื้อหุ้นไปกว่า 75% ผ่านบริษัท B2S
และร้านหนังสือรูปแบบเดิมๆ กำลังถูกดิสรัป
COL ก็ได้เข้าซื้อกิจการแพลตฟอร์มจำหน่ายอีบุ๊กอย่าง MEB
เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตและอุดความเสี่ยงของธุรกิจไปพร้อมๆ กัน โดยเข้าซื้อหุ้นไปกว่า 75% ผ่านบริษัท B2S
ณ สิ้นปี 2562
OfficeMate มีจำนวนสาขาทั้งหมด 84 สาขา
และ B2S มีทั้งหมด 122 สาขาทั่วประเทศ
OfficeMate มีจำนวนสาขาทั้งหมด 84 สาขา
และ B2S มีทั้งหมด 122 สาขาทั่วประเทศ
ผลประกอบการของ บริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน)
ปี 2561 มีรายได้ 12,511 ล้านบาท กำไร 733 ล้านบาท
ปี 2562 มีรายได้ 11,320 ล้านบาท กำไร 762 ล้านบาท
ปี 2561 มีรายได้ 12,511 ล้านบาท กำไร 733 ล้านบาท
ปี 2562 มีรายได้ 11,320 ล้านบาท กำไร 762 ล้านบาท
โดยปีล่าสุด มีสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจ
OfficeMate คิดเป็น 61% (ขายผ่านหน้าร้าน 31% และขายผ่านช่องทางอื่น 30%)
B2S คิดเป็น 34%
MEB คิดเป็น 5%
OfficeMate คิดเป็น 61% (ขายผ่านหน้าร้าน 31% และขายผ่านช่องทางอื่น 30%)
B2S คิดเป็น 34%
MEB คิดเป็น 5%
ถ้าเจาะในรายละเอียดประเภทสินค้า รายได้ทุกๆ 100 บาทของ OfficeMate จะมาจาก
เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน 42 บาท
เครื่องใช้ไฟฟ้าสำนักงาน 38 บาท
เฟอร์นิเจอร์และอื่นๆ 20 บาท
เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน 42 บาท
เครื่องใช้ไฟฟ้าสำนักงาน 38 บาท
เฟอร์นิเจอร์และอื่นๆ 20 บาท
รายได้ทุกๆ 100 บาทของ B2S จะมาจาก
เครื่องเขียนและศิลปะ 49 บาท
ไลฟ์สไตล์และสื่อพัฒนาการเรียนรู้ 27 บาท
หนังสือ 24 บาท
เครื่องเขียนและศิลปะ 49 บาท
ไลฟ์สไตล์และสื่อพัฒนาการเรียนรู้ 27 บาท
หนังสือ 24 บาท
ปัจจุบัน กลยุทธ์ทางธุรกิจที่ COL กำลังมุ่งเน้นให้กับธุรกิจของ OfficeMate
ก็คือการพัฒนาระบบค้าปลีกแบบ Omni-Channel
เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงของช่องทางจำหน่าย ทั้งหน้าร้านออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ
ก็คือการพัฒนาระบบค้าปลีกแบบ Omni-Channel
เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงของช่องทางจำหน่าย ทั้งหน้าร้านออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ
ขยายสาขาของ OfficeMate ในรูปแบบแฟรนไชส์ ในชื่อ OfficeMate Plus+
เพื่อให้สาขาครอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น
เพื่อให้สาขาครอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น
รวมถึงขยายหมวดสินค้าใหม่ เพื่อขยายฐานลูกค้า ทั้งสำหรับธุรกิจโรงงาน, ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหารและจัดเลี้ยง, ธุรกิจเวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์
ส่วนด้านธุรกิจ B2S มีการขยายสาขาในรูปแบบใหม่ ที่แตกต่างจากรูปแบบร้านหนังสือดั้งเดิม
ภายใต้ชื่อ “B2S Think Space” ผ่านการปรับปรุงร้านเดิม และการขยายสาขาใหม่
ภายใต้ชื่อ “B2S Think Space” ผ่านการปรับปรุงร้านเดิม และการขยายสาขาใหม่
สรุปแล้ว เส้นทางของ OfficeMate เกิดจากส่วนผสมระหว่าง ความรู้ บวก Passion ของคุณวรวุฒิ
ซึ่งถ้าตอนนั้น คุณวรวุฒิไม่นำความรู้ที่มีอยู่มาต่อยอดพัฒนาธุรกิจ
หรือไม่มี Passion ที่อยากจะทำหนังสือขายแบบ Catalog และตัดสินใจยอมแพ้ไป เมื่อตอนเจอวิกฤติเศรษฐกิจ
หรือไม่มี Passion ที่อยากจะทำหนังสือขายแบบ Catalog และตัดสินใจยอมแพ้ไป เมื่อตอนเจอวิกฤติเศรษฐกิจ
ทุกวันนี้คงไม่มี OfficeMate และอาณาจักร COL มูลค่าหมื่นล้านบาท ให้เราได้เห็นกัน..