ตะขาบ 5 ตัว ยาอมบ้านๆ ยอดขาย 500 ล้าน
5 ก.ค. 2020
แบรนด์ยาอมแก้ไอ ที่มาพร้อมกับโลโก้รูปผู้ชาย ถูกล้อมรอบไปด้วยตะขาบสีแดง
“ตะขาบ 5 ตัว” เป็นหนึ่งในแบรนด์เก่าแก่ ที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 80 ปี
“ตะขาบ 5 ตัว” เป็นหนึ่งในแบรนด์เก่าแก่ ที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 80 ปี
แต่ถึงจะมีประวัติอันยาวนานในเมืองไทย
แต่วันนี้ ตะขาบ 5 ตัว กลับมีฐานลูกค้าเป็นชาวต่างชาติเป็นหลัก โดยเฉพาะชาวจีน
แต่วันนี้ ตะขาบ 5 ตัว กลับมีฐานลูกค้าเป็นชาวต่างชาติเป็นหลัก โดยเฉพาะชาวจีน
บริษัท ห้าตะขาบ (ซิมเทียนฮ้อ) จำกัด ผู้ผลิตยาภายใต้แบรนด์ “ตะขาบ 5 ตัว”
ปี 2560 มีรายได้ 473 ล้านบาท กำไร 105 ล้านบาท
ปี 2561 มีรายได้ 505 ล้านบาท กำไร 156 ล้านบาท
ปี 2560 มีรายได้ 473 ล้านบาท กำไร 105 ล้านบาท
ปี 2561 มีรายได้ 505 ล้านบาท กำไร 156 ล้านบาท
โดยสัดส่วนรายได้มาจาก
ส่งออกไปต่างประเทศ 30%
ขายในประเทศให้นักท่องเที่ยว 40% (ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจีน)
ขายในประเทศให้คนในประเทศ 30%
ส่งออกไปต่างประเทศ 30%
ขายในประเทศให้นักท่องเที่ยว 40% (ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจีน)
ขายในประเทศให้คนในประเทศ 30%
สรุปแล้วบริษัทมีแหล่งรายได้ 70% มาจากชาวต่างชาติ
ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าภายใต้แบรนด์ “ตะขาบ 5 ตัว” อยู่ 5 ประเภท ได้แก่
ยาอมแก้ไอ, ยาขมเม็ด, ยาเม็ดเบอร์เจ็ด (ยาแก้บิด), ยากวาดมหาจักร์ และสเปรย์แก้ไอ
ยาอมแก้ไอ, ยาขมเม็ด, ยาเม็ดเบอร์เจ็ด (ยาแก้บิด), ยากวาดมหาจักร์ และสเปรย์แก้ไอ
แต่รายได้หลักของบริษัทจะมาจาก ยาอมแก้ไอ ซึ่งคิดเป็นกว่า 90% ของรายได้ทั้งหมด
ซึ่งยาอมแก้ไอ มีให้เลือกถึง 4 รสชาติ คือ รสสมุนไพร, รสบ๊วย, รสมิ้นท์ และรสตะไคร้ ทั้งแบบตลับ และแบบซอง
ซึ่งยาอมแก้ไอ มีให้เลือกถึง 4 รสชาติ คือ รสสมุนไพร, รสบ๊วย, รสมิ้นท์ และรสตะไคร้ ทั้งแบบตลับ และแบบซอง
แล้วทำไมแบรนด์ต้องใช้ ตะขาบ เป็นชื่อและโลโก้ ? เรื่องนี้ มีที่มาที่ไป
เรื่องราวของแบรนด์ ตะขาบ 5 ตัว จะแบ่งได้ 3 ยุค คือ
ยุคบุกเบิกกิจการ โดยรุ่นที่ 1 หรือ คุณจุ้ยไซ แซ่ซิ้ม
ยุคขยายกิจการไปทั่วประเทศ โดยทายาทรุ่นที่ 2
และยุคปรับตัว รีแบรนด์ให้ทันสมัย โดยทายาทรุ่นที่ 3
ยุคบุกเบิกกิจการ โดยรุ่นที่ 1 หรือ คุณจุ้ยไซ แซ่ซิ้ม
ยุคขยายกิจการไปทั่วประเทศ โดยทายาทรุ่นที่ 2
และยุคปรับตัว รีแบรนด์ให้ทันสมัย โดยทายาทรุ่นที่ 3
คุณจุ้ยไซ แซ่ซิ้ม เป็นผู้อพยพชาวจีน อาศัยอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา
ซึ่งตอนสมัยอยู่ที่จีน เขาเคยเป็นผู้ช่วยปรุงยาในร้านหมอจีน
จึงมีความรู้และประสบการณ์ด้านสมุนไพรเป็นอย่างดี
ซึ่งตอนสมัยอยู่ที่จีน เขาเคยเป็นผู้ช่วยปรุงยาในร้านหมอจีน
จึงมีความรู้และประสบการณ์ด้านสมุนไพรเป็นอย่างดี
พอย้ายมาเมืองไทย ก็ทำงานรับจ้างทำสวน
ก่อนจะย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ โดยทำงานรับจ้างแบกหาม
ก่อนจะย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ โดยทำงานรับจ้างแบกหาม
โดยปกติเขามักเอาความรู้ที่มีอยู่ มาคิดค้นสูตร และทำยาสมุนไพรใช้ในครอบครัว
เพื่อรักษาอาการป่วย เช่น ปวดท้อง, ท้องเสีย, ไอ รวมทั้งแจกให้ญาติ และเพื่อนฝูง
ซึ่งต่อมาก็ได้นำเอายาสมุนไพรของตน ตระเวนไปฝากขายตามร้านขายยาต่างๆ หลังเวลาเลิกงาน เพื่อหารายได้เสริม
เพื่อรักษาอาการป่วย เช่น ปวดท้อง, ท้องเสีย, ไอ รวมทั้งแจกให้ญาติ และเพื่อนฝูง
ซึ่งต่อมาก็ได้นำเอายาสมุนไพรของตน ตระเวนไปฝากขายตามร้านขายยาต่างๆ หลังเวลาเลิกงาน เพื่อหารายได้เสริม
อย่างไรก็ตาม พอถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
คุณจุ้ยไซ ก็ต้องพาครอบครัวอพยพไปอยู่ที่พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
คุณจุ้ยไซ ก็ต้องพาครอบครัวอพยพไปอยู่ที่พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
ซึ่งช่วงนั้น เขาทำยาหลายชนิดขาย ทั้งยาหม่อง, ยาแก้ปวดท้อง, ยาแก้หอบหืด, ยาหอม, ยาอมแก้ไอ
แต่ติดตรงยังไม่มีโลโก้และชื่อแบรนด์เป็นชิ้นเป็นอัน ที่ช่วยให้คนจดจำได้ง่ายขึ้น และน่าเชื่อถือ
แต่ติดตรงยังไม่มีโลโก้และชื่อแบรนด์เป็นชิ้นเป็นอัน ที่ช่วยให้คนจดจำได้ง่ายขึ้น และน่าเชื่อถือ
พอเกิดน้ำท่วมใหญ่ในปี 2485 คุณจุ้ยไซ เผอิญเห็นตะขาบไต่หนีน้ำขึ้นมาที่บ้านของเขา
จึงคิดว่า “ตะขาบ” น่าจะเหมาะเอามาเป็นโลโก้ของแบรนด์
เนื่องจากตะขาบมีพิษ และคนจีนเชื่อว่าการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต้องใช้ “พิษล้างพิษ” คล้ายหลักการของเซรุ่ม
จึงคิดว่า “ตะขาบ” น่าจะเหมาะเอามาเป็นโลโก้ของแบรนด์
เนื่องจากตะขาบมีพิษ และคนจีนเชื่อว่าการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต้องใช้ “พิษล้างพิษ” คล้ายหลักการของเซรุ่ม
เขาเลยตัดสินใจ นำรูปของเขาเอง ซึ่งมีตะขาบ 2 ตัวประกบข้าง เป็นโลโก้แบรนด์สินค้า
แต่ต่อมาก็พบว่า มีผู้ผลิตยารายหนึ่งใช้ตะขาบเป็นลัญลักษณ์เหมือนกัน แต่เป็นตะขาบ 1 ตัว
แต่ต่อมาก็พบว่า มีผู้ผลิตยารายหนึ่งใช้ตะขาบเป็นลัญลักษณ์เหมือนกัน แต่เป็นตะขาบ 1 ตัว
เขาจึงต้องเปลี่ยนโลโก้ใหม่ เป็นตะขาบ 5 ตัว เพราะไม่อยากให้คนสับสนกัน
นอกจากนี้ เลข 5 ยังถือเป็นเลขมงคลของชาวจีนอีกด้วย
นอกจากนี้ เลข 5 ยังถือเป็นเลขมงคลของชาวจีนอีกด้วย
หลังจากสงครามจบลง เขาก็พาครอบครัวกลับกรุงเทพฯ และตั้งร้านขายยาจีน และยาสำเร็จรูป
ในยุคทายาทรุ่นที่ 2 หรือลูกๆ ของคุณจุ้ยไซ ที่มาสืบทอดกิจการต่อ
ได้ทำการเลิกกิจการร้านขายยาของคุณจุ้ยไซ เพื่อที่จะมุ่งเน้นกับกิจการผลิตยาอย่างเดียว
โดยมีการสร้างโรงงานขึ้น และตั้งเป็นบริษัท ห้าตะขาบ (ซิมเทียนฮ้อ) จำกัด ในปี 2516
ได้ทำการเลิกกิจการร้านขายยาของคุณจุ้ยไซ เพื่อที่จะมุ่งเน้นกับกิจการผลิตยาอย่างเดียว
โดยมีการสร้างโรงงานขึ้น และตั้งเป็นบริษัท ห้าตะขาบ (ซิมเทียนฮ้อ) จำกัด ในปี 2516
ทั้งนี้ เป้าหมายของทายาทรุ่นที่ 2 คือ การทำให้ “ตะขาบ 5 ตัว” เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
จึงเข้าทำการตลาดอย่างจริงจัง ทั้งโฆษณาแบรนด์ผ่านรายการวิทยุ ช่องทางประชาสัมพันธ์ต่างๆ
และทำกิจกรรมการตลาดในต่างจังหวัด
จึงเข้าทำการตลาดอย่างจริงจัง ทั้งโฆษณาแบรนด์ผ่านรายการวิทยุ ช่องทางประชาสัมพันธ์ต่างๆ
และทำกิจกรรมการตลาดในต่างจังหวัด
เพิ่มช่องทางจำหน่ายให้ครอบคลุมมากขึ้น ขยายไปสู่ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าปลีก
จากเดิมที่จำหน่ายเฉพาะในร้านขายยา
จากเดิมที่จำหน่ายเฉพาะในร้านขายยา
และเริ่มส่งออกไปต่างประเทศ โดยส่งสินค้าไปขายที่ฮ่องกงเป็นประเทศแรก
ก่อนจะขยายไปประเทศอื่นๆ เช่น มาเก๊า จีน, สหรัฐอเมริกา และประเทศในแถบอาเซียน รวม 14 ประเทศ
โดยลูกค้าส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มคนจีนที่ไปตั้งรกรากอยู่ในประเทศนั้นๆ
ก่อนจะขยายไปประเทศอื่นๆ เช่น มาเก๊า จีน, สหรัฐอเมริกา และประเทศในแถบอาเซียน รวม 14 ประเทศ
โดยลูกค้าส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มคนจีนที่ไปตั้งรกรากอยู่ในประเทศนั้นๆ
ส่วนในยุคของทายาทรุ่นที่ 3 ถือเป็นช่วงปฏิวัติของแบรนด์
มีการรีแบรนด์ ตะขาบ 5 ตัว ครั้งใหญ่ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือวัยรุ่นมากขึ้น
มีการรีแบรนด์ ตะขาบ 5 ตัว ครั้งใหญ่ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือวัยรุ่นมากขึ้น
มีการเพิ่มยาอมแก้ไอรสชาติใหม่ อย่างรสบ๊วย, มิ้นท์ และตะไคร้
และร่วมกับ สวทช. โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ
พัฒนาและเปิดตัวผลิตใหม่ “ยาแก้ไอแบบสเปรย์พ่น”
เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค
และร่วมกับ สวทช. โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ
พัฒนาและเปิดตัวผลิตใหม่ “ยาแก้ไอแบบสเปรย์พ่น”
เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค
รวมถึงมีผลิตภัณฑ์ที่กำลังพัฒนาอยู่อย่าง “ยาแก้ไอในรูปแบบซอฟต์เจล”
และในอนาคตก็วางแผนจะเปิดผลิตภัณฑ์น้ำดื่มที่ช่วยทำให้ชุ่มคอ สำหรับนักกีฬาหรือคนชอบการออกกำลังกายอีกด้วย
และในอนาคตก็วางแผนจะเปิดผลิตภัณฑ์น้ำดื่มที่ช่วยทำให้ชุ่มคอ สำหรับนักกีฬาหรือคนชอบการออกกำลังกายอีกด้วย
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะลงทุนสร้างโรงงานแห่งใหม่ใน จ.สมุทรสาคร ภายใน 1-2 ปีข้างหน้า
เพื่อขยายกำลังการผลิตและสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยเฉพาะ
เพื่อขยายกำลังการผลิตและสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยเฉพาะ
และตั้งเป้ายอดขายให้แตะระดับ 1,000 ล้านบาท ภายในปี 2568
หรือเพิ่มเป็น 2 เท่าตัวในอีก 5 ปี ข้างหน้า
หรือเพิ่มเป็น 2 เท่าตัวในอีก 5 ปี ข้างหน้า
จากเรื่องราวของ ตะขาบ 5 ตัว จะเห็นว่าแบรนด์มีการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนผ่านอยู่ตลอดเวลาตามยุคสมัย
โดยเฉพาะการขยับตัวของแบรนด์ตะขาบในรุ่นที่ 3 ซึ่งน่าสนใจไม่น้อย
โดยเฉพาะการขยับตัวของแบรนด์ตะขาบในรุ่นที่ 3 ซึ่งน่าสนใจไม่น้อย
ใครจะไปคิดว่า แบรนด์ยาอมเก่าแก่ บ้านๆ จะสามารถอัปเกรดให้ดูทันสมัยขึ้น และคิดค้นนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาตีตลาด
นอกจากนี้ แบรนด์ยังสร้างการเติบโตได้อีก แม้จะไม่ใช่แบรนด์หรือธุรกิจหน้าใหม่มาแรง
ซึ่งเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า แม้จะเก่าแก่แค่ไหน ถ้าตั้งใจจริง
เอาแบรนด์มาปัดฝุ่นใหม่ ห่อปกให้สวยงาม
หนังสือเล่มเก่านี้ ก็น่าอ่านขึ้นมาก..
เอาแบรนด์มาปัดฝุ่นใหม่ ห่อปกให้สวยงาม
หนังสือเล่มเก่านี้ ก็น่าอ่านขึ้นมาก..
อ้างอิง :
http://www.takabb.com/index.php
https://mgronline.com/live/detail/9500000120138
https://www.smethailandclub.com/entrepreneur-5438-id.html
https://techsauce.co/sauc…/family-business-5takabb-president
https://www.mhesi.go.th/home/index.php/…/news/895-sci-update
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/825370
http://www.takabb.com/index.php
https://mgronline.com/live/detail/9500000120138
https://www.smethailandclub.com/entrepreneur-5438-id.html
https://techsauce.co/sauc…/family-business-5takabb-president
https://www.mhesi.go.th/home/index.php/…/news/895-sci-update
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/825370