เปิดๆ ปิดๆ.. Apple ปิดหน้าร้าน Apple Store เพิ่มอีก จนคิดเป็น 28% ในสหรัฐฯ
2 ก.ค. 2020
วันนี้ Apple ประกาศปิดหน้าร้าน Apple Store ในสหรัฐฯ ชั่วคราวเพิ่มอีก 30 สาขา
จากเดิมก่อนหน้านี้ เพิ่งประกาศปิดไปแล้วกว่า 47 สาขา
ทำให้ตอนนี้ร้าน Apple Store ในสหรัฐฯ ต้องถูกปิดให้บริการไปทั้งหมด 77 สาขา
จากเดิมก่อนหน้านี้ เพิ่งประกาศปิดไปแล้วกว่า 47 สาขา
ทำให้ตอนนี้ร้าน Apple Store ในสหรัฐฯ ต้องถูกปิดให้บริการไปทั้งหมด 77 สาขา
ซึ่ง Apple Store มีสาขาทั้งหมดในสหรัฐฯ อยู่ 271 สาขา
ดังนั้น การปิดร้าน 77 สาขา ก็คิดเป็นประมาณ 28% ของสาขาทั้งหมดในสหรัฐฯ
ดังนั้น การปิดร้าน 77 สาขา ก็คิดเป็นประมาณ 28% ของสาขาทั้งหมดในสหรัฐฯ
สาเหตุของการปิดให้บริการหน้าร้านชั่วคราวอีกครั้ง
มาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ในสหรัฐฯ
มาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ในสหรัฐฯ
“เนื่องจากข้อจำกัดของสถานการณ์โควิด-19 ในบางพื้นที่ ที่เราให้บริการอยู่
เราจึงต้องปิดร้านค้าชั่วคราวในพื้นที่เหล่านี้ และเราจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
และหวังว่าจะสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้โดยเร็วที่สุด" โฆษกของ Apple กล่าว
เราจึงต้องปิดร้านค้าชั่วคราวในพื้นที่เหล่านี้ และเราจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
และหวังว่าจะสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้โดยเร็วที่สุด" โฆษกของ Apple กล่าว
โดย Apple Store ที่ถูกประกาศปิด จะกระจายตัวอยู่ในหลายรัฐ ได้แก่ รัฐอลาบามา, แคลิฟอร์เนีย, จอร์เจีย, ไอดาโฮ, ลุยเซียนา, เนวาดา, โอคลาโฮ, ฟลอริดา, มิสซิสซิปปี, เท็กซัส และยูทาห์
ทั้งนี้ Apple เป็นหนึ่งในบริษัทแรกๆ ที่ประกาศปิดหน้าร้านสาขา
เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
และเมื่อเดือนก่อน Apple ก็เพิ่งเริ่มกลับมาเปิดให้บริการ Apple Store ที่สหรัฐฯ ในบางรัฐ
เนื่องจากรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
เนื่องจากรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
อย่างไรก็ตาม การชุมนุมประท้วงใหญ่ที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ
และการที่ประชาชนไม่ค่อยให้ความร่วมมือเรื่องการสวมหน้ากาก
และการที่ประชาชนไม่ค่อยให้ความร่วมมือเรื่องการสวมหน้ากาก
ทำให้สหรัฐฯ กำลังเจอการแพร่ระบาดรอบใหม่ ที่อาจรุนแรงกว่ารอบก่อน
จน Apple ต้องตัดสินใจกลับไปปิดให้บริการหน้าร้านอีกครั้ง..
จน Apple ต้องตัดสินใจกลับไปปิดให้บริการหน้าร้านอีกครั้ง..