
สรุปไฮไลต์ SangSom MOONLAB 2025 พื้นที่เสพงานอาร์ต ใต้เงาจันทร์ 4 ฤดู พร้อมปาร์ตี้และดนตรี ครบจบในที่เดียว
21 มี.ค. 2025
กลับมาอีกครั้งกับ SangSom MOONLAB 2025
งานอาร์ตกึ่งปาร์ตี้สุดยิ่งใหญ่ใจกลางกรุง ที่กลับมาคราวนี้จะยิ่งใหญ่กว่าเดิม เพราะขนทัพศิลปิน
สายอาร์ต และสายปาร์ตี้ กว่า 100 ชีวิต มารวมตัวกันในงานเดียว
งานอาร์ตกึ่งปาร์ตี้สุดยิ่งใหญ่ใจกลางกรุง ที่กลับมาคราวนี้จะยิ่งใหญ่กว่าเดิม เพราะขนทัพศิลปิน
สายอาร์ต และสายปาร์ตี้ กว่า 100 ชีวิต มารวมตัวกันในงานเดียว
ที่น่าสนใจคือ ปีนี้แสงโสมยังแอบหยิบ Pain Point ของคนไทย ที่ได้สัมผัสแต่ฤดูร้อน มาออกแบบเป็นคอนเซปต์
“ปรากฏการณ์พระจันทร์ 4 ฤดู 4 ฟีลลิ่ง” ให้ทุกคนได้ชมงานอาร์ตใต้แสงจันทร์ ท่ามกลางฤดูที่แตกต่างอย่าง ฤดูหนาวแบบฟิน ๆ
ซึ่งงานนี้ยังจัดเต็มตลอด 9 วัน 9 คืน ตั้งแต่วันนี้ - 23 มีนาคม ที่ ONE BANGKOK FORUM
แล้วไฮไลต์ในแต่ละฤดู มีอะไรน่าสนใจ ?
แล้วทำไมแสงโสมต้องจัดงานอาร์ตที่เล่นใหญ่ขึ้นทุก ๆ ปี ?
แล้วทำไมแสงโสมต้องจัดงานอาร์ตที่เล่นใหญ่ขึ้นทุก ๆ ปี ?
หากใครเคยไปสัมผัสงาน SangSom MOONLAB ในปีที่ผ่าน ๆ มา จะพบว่า ไฮไลต์ที่เป็น iconic เด่นที่สุดเลยก็คือ “พระจันทร์”
ซึ่งมีความหมายเดียวกับชื่อแบรนด์อย่าง “แสงโสม”
เช่นเดียวกับในปีนี้ที่ SangSom MOONLAB 2025 ยังได้เนรมิต “ประสบการณ์” ดวงจันทร์ใจกลางกรุง
แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือ ในงานนี้ไม่ได้มีดวงจันทร์เพียงดวงเดียว แต่จัดมาหลากหลายรูปแบบให้เข้ากับปรากฏการณ์ 4 ฤดู
เริ่มกันที่ ฤดูใบไม้ผลิกับ “Spring Moon”
ขึ้นชื่อว่าฤดูใบไม้ผลิ ห้องนี้ก็เต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้ที่กำลังผลิบาน จัดเต็มด้วยสีสันสดใส ที่ถ่ายรูปออกมาไม่ว่าจะมุมไหน ก็สวยสะกด
แต่ขึ้นชื่อว่าแสงโสมทั้งที จะมีแค่ดอกไม้บานธรรมดา ๆ ก็ไม่ได้ ห้องนี้แสงโสมจึงจัดเป็นทุ่งดอกไม้แบบ Interactive สุดล้ำ ที่แค่เราถือพระจันทร์ไปไว้ใกล้ ๆ ก็จะเปลี่ยนให้กลายเป็นดอกไม้ที่กำลังบานสะพรั่งยามกระทบแสงจันทร์
- ฤดูฝนกับ “Rainy Moon” ฤดูฝนคงเป็นหนึ่งในฤดูที่หลาย ๆ คนไม่ชื่นชอบ แต่ไม่ใช่กับฤดูฝนของแสงโสม ที่ตีความใหม่จากพายุฝนฟ้าคะนอง ให้กลายเป็นพายุฝนดาวตก แต่พายุฝนดาวตกก็ยังแตกต่างจากทั่ว ๆ ไป เพราะฝนดาวตกนี้จะตกห่างจากเราแค่เพียงเอื้อมมือ
- ฤดูหนาวกับ “Winter Moon”
หนึ่งในฤดูที่คนไทยน่าจะอยากสัมผัสกันมากที่สุด เพราะเป็นฤดูที่ไม่ค่อยพบเห็นได้ในประเทศไทย จึงเรียกได้ว่า น่าจะเป็นฤดูที่มอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับคนที่มาอย่างแน่นอน ว่ากันว่าในช่วงเดือนธันวาคม ที่ประเทศบนซีกโลกเหนือเข้าสู่ฤดูหนาว จะเรียกดวงจันทร์ว่า Cold Moon แต่ตอนนี้ เราไม่ต้องไปไกลถึงซีกโลกเหนือ ก็สามารถสัมผัสปรากฏการณ์ดวงจันทร์ในหน้าหนาวได้ในงานนี้ นอกจากดวงจันทร์แล้ว ยังเต็มไปด้วยหมอกให้เราได้เดินฝ่าท้าลมหนาว เหมือนหลุดเข้าไปในหุบเขาแห่งทะเลหมอกเลยทีเดียว
- ปิดท้ายด้วย ฤดูร้อนกับ “Summer Moon”
ฤดูที่คนไทยคุ้นเคยกันดี แต่งานนี้จะไม่เหมือนฤดูร้อนของไทยที่ร้อนอบอ้าว แต่จะเป็นดวงจันทร์หน้าร้อนที่ให้ความอบอุ่น และโรแมนติกแบบสุด ๆ
ไม่เพียงเท่านี้ ในงานยังมีเซอร์ไพรส์ซ่อนอยู่ ที่บอกเลยว่า ต้องไปสัมผัสด้วยตัวเองอย่าง “Interactive Art ลับ ๆ” ซึ่งเป็นตัว Secret ของงานที่เราต้องไปตามล่าหากัน รวมถึงงานนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่เรายังสามารถเสพงานอาร์ตไป ปาร์ตี้ไปได้แบบพร้อม ๆ กัน ด้วยดิไซน์ที่เป็นช่องลับ หรือ “Hidden Bar” ที่จะซ่อนอยู่ในแต่ละฤดูกาล ให้เราได้สัมผัสประสบการณ์ที่ถูกจับคู่กับฤดูต่าง ๆ
รวมถึงงานนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่เรายังสามารถเสพงานอาร์ตไป ปาร์ตี้ไปได้แบบพร้อม ๆ กัน
ด้วยดิไซน์ที่เป็นช่องลับ หรือ “Hidden Bar” ที่จะซ่อนอยู่ในแต่ละฤดูกาล ให้เราได้สัมผัสประสบการณ์ที่ถูกจับคู่กับฤดูต่าง ๆ
ในปีนี้แสงโสมยังจัดคอนเสิร์ตแบบจัดเต็มอีกเช่นเคย
โดยขนศิลปินที่เรียกว่าเป็น Top Tier หรือตัวท็อปของเมืองไทยมาเสิร์ฟให้กับทุกคนในงานได้สนุกกันกว่า 27 วง และกว่า 100 ชีวิต ตลอด 9 วัน 9 คืน
ไม่ว่าจะเป็น PROXIE // JAMES ALYN // H 3 F // THE PARKINSON // MAIYARAP // NUMCHA // TILLY BIRDS // DEPT // YOURMOOD // FREEHAND // TOFU // MUSKETEERS // PERSES // WIM // AYLA’s // MOVING AND CUT // WAV // SCRUBB // URBOYTJ // SOLITUDE IS BLISS // MAMIO // UNCLE BEN // YEW // WHAL & DOLPH // NO ONE ELSE // YENTED // BLACKBEANS
ที่น่าสนใจที่สุดคือ ดิไซน์ของเวทีคอนเสิร์ต ก็ยังออกแบบมาให้เป็น “4MOON” ที่มีจอยักษ์ทรงกลมอยู่กลางเวที ซึ่งจะคอยเปลี่ยนวิชวลและสี ตามฤดูและตามจังหวะเสียงเพลงที่ศิลปินกำลังแสดงอยู่บนเวที และคนที่ไปยังบอกว่าเวทีใกล้ชิดศิลปินสุด ๆ
ทั้งหมดนี้ บอกได้เลยว่าประสบการณ์ที่ได้รับจากงาน SangSom MOONLAB 2025 ไม่ว่าจะเป็น เสพงานอาร์ต ชมงานศิลป์ ปาร์ตี้ไปพร้อมกับวงดนตรี ก็น่าจะเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนกับครั้งไหน ๆ อย่างแน่นอน
ทีนี้ถ้าถามว่า ทำไมแสงโสมถึงต้องเล่นใหญ่ขนาดนี้ และเล่นใหญ่ขึ้นในทุก ๆ ปี ? เหตุผลหลัก ๆ นอกจากจะตอกย้ำชื่อของแสงโสมให้เป็นที่จดจำของทุก ๆ คนแล้ว งานนี้ก็น่าจะเป็นการตอกย้ำการเป็นแบรนด์ที่ “Stand For ความอาร์ต และปาร์ตี้” พร้อมมุ่งสู่การสร้างประสบการณ์งานอาร์ตเสพง่าย และพื้นที่ฮีลใจของคนรุ่นใหม่
สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นหรือ Direction ของแสงโสมว่า “อยากให้งานอาร์ตเข้าถึงทุกคนแบบง่าย ๆ” เพราะศิลปะไม่ควรถูกจำกัดอยู่แค่ในแกลเลอรี หรือจำกัดการเข้าถึงอยู่แค่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่งานอาร์ตควรเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานอาร์ตที่จัดขึ้นโดยคนไทยด้วยกันเอง เหมือนอย่างที่ฤดูต่าง ๆ ของงานนี้ ที่ได้ศิลปินคนไทยมาร่วมจัดแสดง
SangSom MOONLAB 2025 จึงเปรียบเสมือนเป็นพื้นที่ที่ให้คนไทยได้โชว์ศักยภาพความอาร์ต ที่จริง ๆ แล้วก็มีดีไม่แพ้ชาติใดในโลก
นอกจากนี้ งานอาร์ตของแสงโสม ก็ไม่ใช่เป็นงานอาร์ตที่ทำได้แค่ “ดู” แต่ยัง “สัมผัส”
ได้จริงผ่าน Interactive Art ที่ทำให้ศิลปะกลายเป็นโมเมนต์ที่ทุกคนเข้าถึงได้และอยากมีส่วนร่วม
ในเมื่อแสงโสมอยากให้งานอาร์ตเข้าถึงคนแบบง่าย ๆ
คำถามก็คือ แล้ว SangSom MOONLAB เข้าถึงง่ายแค่ไหน ?
งานนี้ แสงโสมจัดให้ทุก ๆ คนสามารถเข้าชมงานอาร์ต ของ SangSom MOONLAB 2025
ในช่วงเช้า (เวลา 11.00-16.00 น.) แบบ “ฟรี ๆ”
ซึ่งถ้าใครไถฟีด Instagram และ TikTok คงเห็นว่า SangSom MOONLAB 2025 ได้รับความนิยม มีคนเข้าร่วมงานมากแค่ไหน ถึงขนาดบัตรกลางวันมีคนล้นหลาม ต้องเพิ่มจำนวนคนเข้า
#SangSom #MOONLAB