สิ้นสุดการรอคอย Tonkatsu AOKI ร้านทงคัตสึในตำนานจากญี่ปุ่น ที่ MAGURO Group ชวนมาเปิด สาขาแรกในไทย 20 ธันวาคมนี้ CentralwOrld ชั้น 3 Nippon zOne
11 ธ.ค. 2024
Tonkatsu AOKI คือร้านทงคัตสึระดับพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่น ที่คนญี่ปุ่น รวมถึงนักท่องเที่ยวสาย Foodie จากทั่วโลก ยอมต่อคิวรอมากกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อสัมผัสกับความอร่อยของทงคัตสึร้านนี้
ที่สำคัญคือ MAGURO Group กำลังจะนำร้าน Tonkatsu AOKI มาให้คนไทยได้สัมผัสประสบการณ์ทงคัตสึแบบแท้ ๆ จากญี่ปุ่นในประเทศไทย สาขาแรก ที่ศูนย์การค้า centralwOrld ในวันที่ 20 ธันวาคมนี้
แล้ว Tonkatsu AOKI มีอะไรน่าสนใจ และแตกต่างจากร้านทงคัตสึอื่น ๆ ที่เราเคยกินอย่างไร MarketThink จะพาไปเจาะลึกทุกดีเทล ในบทความนี้..
ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า Tonkatsu AOKI เป็นร้านทงคัตสึที่มีความพิเศษในหลายเรื่อง
เรื่องแรกเลยคือ Tonkatsu AOKI เป็นร้านอาหารประเภท “เซ็นมงเต็น” (専門店) ซึ่งหมายถึงร้านอาหารที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เน้นไปที่อาหารประเภทใดประเภทหนึ่งโดยเฉพาะ ซึ่งในกรณีของ Tonkatsu AOKI ก็คือร้านที่มีความเชี่ยวชาญในการทำ “ทงคัตสึ” โดยเฉพาะ
ทำให้ร้านอาหารประเภทเซ็นมงเต็น มีข้อได้เปรียบเหนือร้านอาหารอื่น ๆ คือ คุณภาพอาหาร และประสบการณ์ที่ดีที่สุด จากความเชี่ยวชาญในการทำอาหารประเภทใดประเภทหนึ่งของเชฟ รวมถึงกรรมวิธีต่าง ๆ ที่มีความเฉพาะตัว ยากที่จะเลียนแบบได้
โดยที่ร้าน Tonkatsu AOKI เปิดสาขาแรกในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 2010 ก่อนที่จะขยายสาขาออกไปในเมืองอื่น ๆ ของประเทศญี่ปุ่น ทั้งโตเกียว โยโกฮามา และฮอกไกโด รวมทั้งสิ้น 16 สาขา
แต่ที่น่าสนใจที่สุดก็คือชื่อเสียงของ Tonkatsu AOKI นั้นไม่ธรรมดา เพราะได้รับการการันตีจาก “นักชิม” ชาวญี่ปุ่น ด้วยคะแนนรีวิวบนเว็บไซต์ Tabelog ซึ่งเป็นเว็บไซต์รีวิวร้านอาหารที่คนญี่ปุ่นให้ความเชื่อถือ ด้วยคะแนนที่สูงถึง 3.8 ดาว แถมยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในร้านทงคัตสึ Top 100 ของ Tabelog
และคะแนนรีวิวบนเว็บไซต์ Tripadvisor ด้วยคะแนนที่สูงถึง 4 ดาว
จนไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมชาวญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวสาย Foodie ยอมรอคิวมากกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อให้ได้กินทงคัตสึของร้าน Tonkatsu AOKI
แล้วทีนี้ ถ้าถามว่าทงคัตสึของ Tonkatsu AOKI มีความแตกต่างจากทงคัตสึของร้านอื่น ๆ อย่างไร ทำไมใคร ๆ ที่ได้ชิมต่างก็ติดใจ เรามาดูไปพร้อม ๆ กัน
เรื่องแรกเลย หากเราจะอธิบายว่าทงคัตสึของร้าน Tonkatsu AOKI นั้นดีอย่างไร ก็ต้องพูดถึงกรรมวิธีในการทอดทงคัตสึกันเล็กน้อย
ร้าน Tonkatsu AOKI มีกรรมวิธีในการทำทงคัตสึที่พิถีพิถัน ตั้งแต่การคัดเลือกเนื้อหมูนำเข้าจากฮอกไกโด ที่ผ่านมาตรฐาน SPF (Specific Pathogen-Free)
ใช้กรรมวิธีการชุบแป้งด้วยเทคนิคที่ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่บางเบา ใช้เกล็ดขนมปังที่ให้ความกรอบเป็นพิเศษ
ส่วนการทอด ก็ใช้น้ำมันคุณภาพสูง ผสมผสานกับเทคนิคการควบคุมไฟที่แม่นยำ ใช้อุณหภูมิการทอดคงที่ ในระยะเวลาเหมาะสม ทำให้ได้ทงคัตสึที่สุกทั่วถึง กรอบนอกนุ่มใน ไม่อมน้ำมัน เป็นการสร้างประสบการณ์ในการกินทงคัตสึที่ดีในทุกเนื้อสัมผัส
เมื่อจุดเด่นของ Tonkatsu AOKI เป็นแบบนี้ หลายคนน่าจะอยากรู้แล้วว่า Tonkatsu AOKI มีเมนูอะไร ที่น่าสนใจบ้าง เราคัดเมนูที่เป็นไฮไลต์บางส่วนมาให้ดูกัน
เปิดประสบการณ์การรับประทานแบบออริจินอลไซส์กับเซตแนะนำ 'Jo' หมูสันนอกพรีเมียม และ 'Tokuhire' หมูสันในพรีเมียม เสิร์ฟพร้อมข้าว Koshihikari และ ซุปทงจิรุ เสิร์ป 200 กรัม ในราคา 490 บาท
และเอ็กซ์คลูซีฟไซส์ 120 กรัมเฉพาะเมืองไทย กับเมนูเริ่มต้น Rosu Set หมูสันนอก และ Hire Set หมูสันใน ในราคาเริ่มต้นที่ 320 บาท
หรือหากใครต้องการเมนูที่พิเศษมากยิ่งขึ้น ก็จะเหมาะกับเมนูซิกเนเจอร์ ที่มีความพิเศษตรงที่ Tonkatsu AOKI เลือกใช้เนื้อหมูส่วนสันไหล่ Kata Set ที่ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่ม เสิร์ฟด้วยขนาด 300 กรัม ในราคา 890 บาท
แต่เมนูที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลต์ที่สุด ต้องยกให้ Ribu Set เพราะเป็น AOKI Original Size เหมือนยกไซส์แบบญี่ปุ่นมาเสิร์ฟที่ไทย กับขนาด 400 กรัม สำหรับแฟน ๆ ของ Tonkatsu AOKI ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ทงคัตสึแบบต้นตำรับแท้ ๆ จากประเทศญี่ปุ่น ในราคา 990 บาท
นอกจากนี้ Tonkatsu AOKI ยังมีเมนู Tonkatsu Curry Set สำหรับคนรักแกงกะหรี่ มาพร้อมกับหมูทอดทงคัตสึ ที่คงเอกลักษณ์ความกรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยแกงกะหรี่สูตรเฉพาะ ด้วยขนาดเสิร์ฟเริ่มต้น 150 กรัม ในราคา 450 บาท
ส่วนของหวาน Tonkatsu AOKI ได้คอลแลบกับ Guss Damn Good แบรนด์ไอศกรีมชื่อดัง เปิดตัวไอศกรีมรสชาติพิเศษ Japanese Peach and Lemon ที่ให้ความสดชื่นจากลูกพีชญี่ปุ่นและเลมอน เป็นการปิดท้ายมื้ออร่อยได้อย่างลงตัว
แต่ที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นคือ ไม่ใช่แค่ตัวทงคัตสึเท่านั้นที่สำคัญ เพราะ Tonkatsu AOKI ยังมีเอกลักษณ์ ด้วยการเป็นร้านทงคัตสึหมูทอดจิ้มเกลือร้านแรกในประเทศญี่ปุ่น ที่มีเกลือให้เลือกกินกับทงคัตสึมากถึง 3 แบบ ได้แก่
1. Kuro Shio (Aoki Black Himalayan Salt)
เป็นเกลือหิมาลายันสีดำที่หาได้ยากจากภูเขาสูง ให้รสชาติล้ำลึก พร้อมกลิ่นอ่อน ๆ เฉพาะตัว เสริมให้ทงคัตสึเข้มข้นขึ้น สำหรับคนที่ชอบความเข้มแบบกลมกล่อม
2. Pinku Shio (Aoki Pink Himalayan Salt)
เป็นเกลือหิมาลายันสีชมพูจากธรรมชาติ ให้รสชาติเค็มละมุน มีกลิ่นหอมบาง ๆ ช่วยเสริมให้ทงคัตสึมีความกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
3. Shiro Shio (Aoki Sea Salt)
เป็นเกลือทะเลสีขาวบริสุทธิ์ ให้รสชาติเค็มคมชัดแบบดั้งเดิม ช่วยเสริมความกรอบนอกนุ่มในของทงคัตสึให้โดดเด่น
ซึ่งเกลือทั้ง 3 ชนิดที่กินคู่กับทงคัตสึของร้าน Tonkatsu AOKI นั้น ไม่ได้ทำหน้าที่แค่ให้รสชาติความเค็ม แต่ทำหน้าที่สำคัญคือ การขับรสชาติ เพิ่มความมีมิติให้กับเนื้อหมู และแป้งของทงคัตสึ ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ส่วนข้าวที่กินกับทงคัตสึ ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน เพราะ Tonkatsu AOKI เลือกใช้ข้าวสายพันธ์ุ Koshihikari ราชาแห่งข้าวญี่ปุ่น จากนีงาตะ
โดยจุดเด่นของข้าวสายพันธ์ุนี้ คือเป็นข้าวที่ให้รสชาติหอมละมุน นุ่ม หนึบ มีเมล็ดข้าวที่เงางามทุกเมล็ด
โดยที่ร้าน Tonkatsu AOKI จะดึงจุดเด่นของข้าวสายพันธ์ุ Koshihikari ด้วยการนำมาหุงด้วยหม้อแรงดัน เพื่อคงความหอมละมุน นุ่ม หนึบ และรักษาความหอมหวาน สร้างความลงตัวเมื่อกินร่วมกับทงคัตสึ
ทั้งหมดนี้ ก็คือจุดเด่นทั้งหมดของ Tonkatsu AOKI ร้านทงคัตสึระดับพรีเมียมที่ชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวสาย Foodie ทั่วโลก ยอมต่อคิวรอกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อสัมผัสประสบการณ์กับทงคัตสึระดับพรีเมียมของ Tonkatsu AOKI
และชาวไทยกำลังจะได้สัมผัสประสบการณ์จากร้าน Tonkatsu AOKI แบบนี้ด้วยตัวเอง เพราะ MAGURO Group กำลังนำร้าน Tonkatsu AOKI เข้ามาเปิดสาขาแรกในไทย ที่ศูนย์การค้า centralwOrld ชั้น 3 โซน Nippon Avenue เปิดวันแรก 20 ธันวาคมนี้
ที่สำคัญคือ ใครที่กังวลว่าจะต้องมาต่อคิวที่หน้าร้านนาน ๆ ก็ไม่ต้องกังวล เพราะเราสามารถจองคิวร้าน Tonkatsu AOKI ด้วยตัวเองได้แบบง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์ https://www.tablecheck.com/ ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม เป็นต้นไป
หรือติดตามอัปเดตเพิ่มเติมของร้าน Tonkatsu AOKI ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/@TonkatsuAokiThailand
Tag:Tonkatsu AOKI