สมาคมผู้ค้าปลีกไทย แต่งตั้งให้ “นายณัฐ วงศ์พานิช” ดำรงตำแหน่ง “ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย” คนใหม่ พร้อมชูนโยบาย “TRA GREAT” สร้างความแข็งแกร่งให้ค้าปลีกไทย

สมาคมผู้ค้าปลีกไทย แต่งตั้งให้ “นายณัฐ วงศ์พานิช” ดำรงตำแหน่ง “ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย” คนใหม่ พร้อมชูนโยบาย “TRA GREAT” สร้างความแข็งแกร่งให้ค้าปลีกไทย

17 ต.ค. 2024
ตามที่ สมาคมผู้ค้าปลีกไทยได้มีการลงคะแนนการเลือกตั้งกรรมการบริหารชุดใหม่
เพื่อดำรงตำแหน่งและดำเนินงานในปี 2567-2569 เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2567
และมีการเสนอชื่อและแต่งตั้งให้ นายณัฐ วงศ์พานิช ดำรงตำแหน่งประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 นับเป็นประธานคนที่ 12
ที่ได้รับความไว้วางใจจากกรรมการบริหารและสมาชิกของสมาคมฯ เพื่อร่วมกันสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมค้าปลีกซึ่งเป็นเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจไทย โดยมีมูลค่ากว่า 4.4 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ระยะเวลา 2 ปีนับจากนี้ (ปี 2567-2569) นายณัฐ วงศ์พานิชจะดำเนินนโยบายร่วมกับกรรมการบริหาร และสมาชิก รวมไปถึงภาคีเครือข่ายสมาคมฯโดยการวางรากฐานและเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนาและส่งเสริมภาคค้าปลีกไทยผ่าน นโยบายการดำเนินงาน “TRA GREAT” ดังนี้
G - Global Hub Of Lifestyle :
สนับสนุนการยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคและระดับโลก
ด้านการท่องเที่ยว การรักษาพยาบาล การช้อปปิ้ง กีฬา กิจกรรมบันเทิง
และการต่อยอดซอฟต์พาวเวอร์และการเตรียมพร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่าง
มีคุณภาพ
1.1 สนับสนุนและต่อยอดการเป็น “ไลฟ์สไตล์ฮับแห่งเอเชีย” (Lifestyle
Hub of Asia) ทั้งทางด้านการแพทย์และส่งเสริมสุขภาพ, ช้อปปิ้ง, กีฬา
และธรรมชาติ
โดยเฉพาะการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วยการปักหมุดในกา
รเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกในด้าน “Shopping
Paradise” หรือ “สวรรค์แห่งการช้อปปิ้ง”
ที่จะช่วยสร้างเม็ดเงินไหลเวียนทางเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล อาทิ
การสนับสนุนการลดภาษีสินค้านำเข้าไลฟ์สไตล์หรู
เพื่อเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมายังประเทศไทยมากขึ้นแ
ละกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยต่อคนเพิ่มขึ้น ช่วยลดช่องว่างการเกิด
เกรย์มาร์เก็ต (grey market)
ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการจัดเก็บภาษีของภาครัฐได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
1.2 สนับสนุนการสร้างและต่อยอด Thailand Soft Power อาทิ
วัฒนธรรม อาหาร ภาพยนตร์ และอื่นๆ
ด้วยความร่วมมือผ่านภาคีเครือข่ายสมาคมฯ
R - Reinforce Retailer Competitiveness :
สร้างความแข็งแรงและความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการค้าปลีก
ไทย
2.1 สนับสนุนช่องทางจำหน่ายให้กับสินค้าของกลุ่ม SME
โดยเฉพาะวิสาหกิจรายย่อย (Micro SME) ที่มีรายได้ไม่เกิน 1.8
ล้านบาทต่อปี และ สินค้าท้องถิ่น สินค้าชุมชน
เพื่อสร้างช่องทางการตลาดและโอกาสในการจำหน่ายสินค้าทั้งในและต่า
งประเทศ
โดยสมาคมผู้ค้าปลีกไทยมีแผนคิกออฟการเปิดพื้นที่ออกร้านจำหน่ายสิน
ค้า SME สัญจรไปทั่วประเทศ ณ
ศูนย์การค้าและห้างร้านที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ
ภายในเดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป
2.2 สนับสนุนและลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ (Ease Of Doing
Business) เช่น ส่งเสริมให้ Micro SME
หันมาใช้ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Transaction)
เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ,
การปรับโครงสร้างภาษีของภาครัฐให้เข้ากับบริบทการค้าปัจุบันเพื่อให้ภา
ครัฐสามารถจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น
2.3 สนับสนุนและสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของเอสเอ็มอี
โดยร่วมส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีจดทะเบียนนิติบุคคล
เพื่อเป็นฐานข้อมูลประกอบการพิจารณาสินเชื่อตามกลไกตลาด
พร้อมทั้งเร่งจัดหากองทุนสินเชื่อ Soft Loan
ดอกเบี้ยต่ำด้วยเงื่อนไขที่ไม่ซ้ำซ้อนและเข้าถึงได้ง่าย
E - Elevate Human Capital :
สร้างอุปสงค์อุปทานด้านแรงงานและพัฒนาความสามารถของแรงงานธุรกิจ
ค้าปลีกในทุกระดับ
3.1 สนับสนุนการจ้างงานผู้สูงอายุ
3.2 พัฒนาฝีมือแรงงาน (Upskill ,Reskill)
เพื่อยกระดับขีดความสามารถในธุรกิจค้าปลีก
3.3
สนับสนุนการใช้หลักเกณฑ์มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติและมาตรฐาน
คุณวุฒิวิชาชีพมากำหนดอัตราค่าจ้างแทนค่าแรงขั้นต่ำ
A - Accelerate Action On Environment And Sustainability :
เร่งสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนสู่ภาคปฎิบัติ
4.1 ส่งเสริมให้ภาคค้าปลีกมุ่งสู่ธุรกิจสีเขียว ตั้งแต่การพัฒนา
การปรับปรุงกระบวนการผลิต
และการบริหารจัดการผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
พร้อมสนับสนุนผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เพื่อขานรับนโยบายภาครัฐในด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับสถานปร
ะกอบการที่ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
4.2 ยกระดับเรื่องสุขอนามัยและมาตรฐานความปลอดภัยในด้านอาหาร
(Food Safety & Food Hygiene) การจัดการอาหารส่วนเกิน
และการจัดการขยะของเสียอย่างครบวงจร อาทิ
การเข้าร่วมโครงการยกระดับและพัฒนางานสุขาภิบาลอาหาร
ผ่านสัญลักษณ์ อาหารสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ป้ายแซน (SAN)
หรือ แซนพลัส (SAN plus) ของกรมอนามัย และ การขับเคลื่อนเรื่อง
Waste Management ในห้างร้านของสมาชิกอย่างเป็นรูปธรรม
4.3
รณรงค์ให้ความรู้มาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดการใช้พ
ลังงาน ของสมาชิก ครบ 100 % ภายใน 4 ปี (2567-2571)
รวมทั้งส่งเสริมการลดคาร์บอน เช่น
การขยายช่องทางซื้อขายคาร์บอนเครดิตผ่านแอปพลิเคชัน CERO
Carbon Wallet ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เป็นต้น
T - Technology Adoption : สนับสนุนการใช้
เทคโนโลยีในธุรกิจค้าปลีกเพื่อก้าวสู่การเป็น Smart Retail
ผ่านการอบรมให้ความรู้แก่สมาชิกและผู้ประกอบการรายย่อยอย่างต่อเนื่อง
5.1 สนับสนุนการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
5.2
ส่งเสริมมาตรการด้านการลงทุนเทคโนโลยีค้าปลีกและผลประโยชน์ด้านล
ดหย่อนภาษี
5.3 ยกระดับธุรกิจค้าปลีกภูมิภาคให้มีความเข้าใจ เข้าถึง
และรู้เท่าทันนวัตกรรมและเทคโนโลยี
สมาคมผู้ค้าปลีกไทย
เชื่อว่าอุตสาหกรรมค้าปลีกเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศที่เชื่อมโ
ยงระบบนิเวศธุรกิจอย่างรอบด้าน ดังนั้นการได้รับการส่งเสริมและยกระดับในทุกมิติ
จะเป็นแรงหนุนเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็งและยั่งยืน
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.