สรุปเทรนด์แปลก ๆ ตอนนี้ จำนำ iCloud แทนการ จำนำ iPhone

จำนำ คือ การนำทรัพย์สินไปเป็นหลักประกัน เพื่อกู้เงิน
โดยเจ้าของทรัพย์สิน หรือผู้จำนำ จะสามารถรับทรัพย์สินคืนได้ ก็ต่อเมื่อส่งเงินครบตามที่ตกลงไว้กับผู้รับจำนำ

ในอดีต ทรัพย์สินที่สามารถใช้จำนำได้มักเป็นของมีค่า เช่น โฉนดที่ดิน ทอง หรือแม้แต่ iPhone

แต่ปัจจุบันกำลังมีเทรนด์การจำนำแปลก ๆ ที่นอกเหนือจากสิ่งของมีค่า หรือ iPhone
นั่นก็คือ การจำนำด้วย “iCloud” หนึ่งในฟีเชอร์ของ iPhone

แล้วการจำนำด้วย iCloud คืออะไร ? มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง ? MarketThink จะสรุปให้ฟัง

หลายคนคงรู้อยู่แล้วว่า iCloud ก็คือ อีเมลของ Apple ซึ่งผู้ที่ใช้งานสินค้าจากแบรนด์ Apple มีกันทุกคน

โดย iCloud จะทำหน้าที่ต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น

- เก็บข้อมูล เพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมูลบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องส่งไฟล์ทีละอัน
- สำรองข้อมูล เพื่อรักษาข้อมูลสำคัญต่าง ๆ เช่น แอปพลิเคชัน, การตั้งค่า, ข้อมูลการใช้งาน
- ฟีเชอร์ Find My ที่ช่วยหาตำแหน่งของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ iCloud เดียวกัน
- สามารถสั่งล็อกอุปกรณ์ไม่ให้ใช้งานได้ เช่น ในกรณีที่เราทำสมาร์ตโฟนหาย และกลัวคนอื่นนำไปใช้งาน

ทีนี้ก็มาถึงคำถามที่ว่า แล้วจำนำ iCloud คืออะไร ?

การจำนำ iCloud มีขั้นตอนคร่าว ๆ คือ

1. ติดต่อร้านค้าหรือร้านรับจำนำที่น่าเชื่อถือ และใช้บัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตน

2. iCloud ของ iPhone แต่ละรุ่น จะมีเรตราคาการรับจำนำที่แตกต่างกัน
ยกตัวอย่างเช่น iCloud ของ iPhone 11 มีราคารับจำนำอยู่ที่ราว 2,000 - 4,000 บาท

3. เมื่อเราตกลงกับร้านเรียบร้อย ร้านจะให้เรานำบัญชี iCloud ของเราออก และนำบัญชี iCloud ของร้านล็อกอินเข้าไปแทน
เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย..

หลายคนอาจเกิดข้อสงสัยตามมาว่า แบบนี้ลูกค้าก็สามารถปลด iCloud แล้วหนีได้หรือเปล่า ?

สำหรับ iCloud แล้ว ไม่สามารถปลดล็อกได้ด้วยตนเอง ต้องเป็นเจ้าของ iCloud ปลดล็อกเองเท่านั้น

และหากลูกค้าไม่ชำระเงินภายในระยะเวลาที่กำหนด
เจ้าของ iCloud ซึ่งก็คือร้านที่รับจำนำ ก็สามารถสั่งล็อกเครื่องของลูกค้า ผ่านอินเทอร์เน็ตได้เลย

ซึ่งข้อดีของวิธีการนี้ ก็คือ ลูกค้าไม่จำเป็นต้องเอา iPhone มาจำนำทั้งเครื่อง แต่ใช้เพียง iCloud เท่านั้น
ทำให้ลูกค้ายังมี iPhone ไว้ใช้งานได้ และไม่จำเป็นต้องหาซื้อเครื่องสำรองมาใช้งาน

แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่เพียงข้อดี..
เพราะการรับจำนำด้วย iCloud ก็มีช่องว่างให้กับมิจฉาชีพด้วยเช่นกัน

ยกตัวอย่างเช่น นาย A ไปจำนำ iCloud กับร้านรับจำนำที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือร้านรับจำนำผ่านช่องทางออนไลน์

นาย A : ได้ติดต่อ และตกลงทำการจำนำ iCloud กับร้านค้า
ร้านค้า : ให้นาย A นำ iCloud ของตัวเองออก และนำ iCloud ของร้านค้าไปล็อกอินแทน

แต่ปรากฏว่า ร้านค้ากลับไม่โอนเงินให้นาย A ตามที่ตกลงกันไว้ พร้อมบังคับให้นาย A โอนเงินมาให้ร้านค้า เพื่อแลกกับการปลดล็อก iCloud ให้กับนาย A

จากเหตุการณ์นี้ ทำให้นาย A จำเป็นต้องโอนเงินให้กับร้านค้า เพื่อที่จะทำการปลดล็อก ให้ iPhone ตัวเองกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
เรียกได้ว่า เหมือนการโดนปล้นกันแบบดื้อ ๆ เลยทีเดียว

เรื่องนี้หมายความว่า ไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่า ร้านค้าจะโอนเงินจำนำ และจะปลดล็อก iCloud ตามที่กล่าวไว้จริง ๆ
ทำให้สุดท้ายเหตุการณ์นี้ต้องจบลงด้วย การดำเนินการทางกฎหมายหรือก็คือการแจ้งความ

ทั้งหมดนี้ ก็คือเทรนด์แปลก ๆ เอา iCloud ไปจำนำแทน iPhone ที่กำลังเกิดตอนนี้..