OR พลัซความสุข เพื่อผู้ใช้รถ EV ขยายสถานี EV Station PluZ ให้ครอบคลุมทุกเส้นทาง

7,000 หัวชาร์จ DC คือ หมุดหมายสำคัญที่ OR ตั้งเป้าไว้ว่าจะขยายบริการให้สำเร็จภายในปี 2573 เพื่อเติมเต็มทุกความต้องการของผู้บริโภค พร้อมรองรับเทรนด์การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

จากข้อมูลของสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย Electric Vehicle Association of Thailand - EVAT ตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2566 พบว่า

ในปี 2566 รถยนต์ไฟฟ้า BEV มียอดจดทะเบียนจำนวน 76,366 คัน
เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 9,678 คัน

ขณะที่ยอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้า BEV รวมทุกประเภท ตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2566
มีการจดทะเบียนใหม่ทั้งสิ้น 100,219 คัน เติบโต 380%
เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 20,816 คัน

จากแนวโน้มดังกล่าว ทำให้ OR ไม่เพียงเล็งเห็นถึงดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น
แต่ยังเร่งพัฒนาเครือข่ายสถานีชาร์จ รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้รถ EV ด้วยการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จให้ครอบคลุม 77 จังหวัด

โดยปัจจุบัน OR มีเครือข่าย ที่รองรับการชาร์จกว่า 837 แห่งทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 1 เมษายน 2567)
เพิ่มขึ้นถึง 323% เมื่อเทียบกับจำนวนสถานีชาร์จในเดือนมีนาคม 2566

แน่นอนว่า ตัวเลขที่เพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า OR มีความพร้อมในการอำนวยความสะดวก และสามารถเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้รถ EV เพิ่มขึ้นตามไปด้วย เพราะไม่ว่าจะเดินทางระยะใกล้-ไกล ทั่วประเทศ
ก็มีสถานีชาร์จรองรับทั้งเส้นทางหลัก แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ

รวมถึงการขยายพื้นที่การให้บริการเชิงพาณิชย์ ทั้งในและนอกสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น
ครอบคลุม ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงแรม รีสอร์ต อาคารสำนักงาน ร้านอาหาร โรงพยาบาล

เรียกได้ว่า พร้อมตอบโจทย์ผู้ใช้รถ EV ทุกคน ไม่ว่าจะมีไลฟ์สไตล์แบบไหน จะวันทำงานหรือวันพักผ่อนก็หายห่วง

นอกจากนี้ OR ยังตั้งเป้าขยายบริการในปี 2567 ให้ครบ 2,700 หัวชาร์จ DC และให้ครบ 7,000 หัวชาร์จ DC ภายในปี 2573

หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไม OR ถึงต้องจริงจังขนาดนี้ ?

อย่างที่รู้ว่า หนึ่งใน Key Success ที่จะทำให้ธุรกิจเติบโต คือ ความยืดหยุ่น พร้อมปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์

ดังนั้น เมื่อ OR จับสัญญาณได้แล้วว่า ทิศทางของผู้บริโภคกำลังพุ่งไปทางไหน
จึงไม่แปลกที่ต้องปรับทัพธุรกิจให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภค

แต่อีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้ OR เลือกที่จะเดินหน้าไปสู่ทิศทางการใช้พลังงานสะอาด ก็เพราะเป็นไปตามแนวคิด SDG ในแบบฉบับของ OR

ที่ต้องการสนับสนุนให้เกิดสังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน และบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2573
ตลอดจนการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) ภายในปี 2593

อย่างไรก็ตาม นอกจากการขยายสถานีชาร์จไฟฟ้าให้ครอบคลุม OR ยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ที่ทุกอย่างถูกย่อให้อยู่แค่ปลายนิ้ว

ด้วยแอปพลิเคชัน “อีวี สเตชั่น พลัซ” (EV Station PluZ) ที่พร้อมอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้รถ EV สามารถจองล่วงหน้าเพื่อเข้าชาร์จ เลือกหัวชาร์จที่ต้องการ เริ่ม-หยุดการชาร์จ ชำระเงิน และการตรวจสอบประวัติการใช้งาน สะดวกครบจบในแอปเดียว รองรับการใช้งานได้ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
ดาวน์โหลดแอป https://evstationpluz.page.link/app

ดังนั้น สุดท้ายนี้ ถ้าถามว่า OR ทำทั้งหมดนี้ไปเพื่ออะไร ?
คำตอบสั้น ๆ ก็คือ OR กำลังพลัซความสุข เพื่อผู้ใช้รถ EV สุขใจ ไร้กังวลกันถ้วนหน้า นั่นเอง