AIS The StartUp ชวนสตาร์ตอัป อัปสกิล ESG ทำธุรกิจอย่างยั่งยืน ปลดล็อกศักยภาพ โตไกลในตลาดทุน

ช่วงนี้ เทรนด์การทำธุรกิจที่คนทั่วโลกพูดถึงกันเป็นอย่างมาก
จนเรียกได้ว่าเป็นพื้นฐานที่มีความจำเป็น ก็คือ การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG ซึ่งหมายถึงการที่ให้ความสำคัญ กับ 3 ด้านหลัก ๆ ด้วยกัน คือ

- ด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental)
- ด้านสังคม (Social)
- ด้านธรรมาภิบาล (Governance)

ซึ่งการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG นี้ มีความสำคัญต่อธุรกิจทุกประเภท ทั้งขนาดใหญ่ แม้แต่สตาร์ตอัป หรือ Tech SME

เพราะในปัจจุบัน นักลงทุน ให้ความสำคัญกับหลักการ ESG เป็นอย่างมาก โดยนำมาเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะพิจารณาลงทุน ในธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง ไม่ว่าธุรกิจนั้นจะมีขนาดเล็ก หรือใหญ่ก็ตาม

ที่สำคัญยิ่งไปกว่าคือ ขีดความสามารถ ที่จะมากขึ้นในการ Scale ธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ปัญหาสำคัญ คือ ผู้ประกอบการสตาร์ตอัป และ Tech SME สัญชาติไทยหลายคน อาจยังไม่รู้ว่า จะเริ่มต้นนำหลักการ ESG มาใช้ในการดำเนินธุรกิจของตัวเองอย่างไร

ล่าสุด AIS The StartUp เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการสตาร์ตอัป และ Tech SME ไทย เป็นอย่างดี จึงได้มีการริเริ่มโครงการ ESG to Capital for Tech Entrepreneurs ขึ้นมา

เพื่อชวนผู้ประกอบการสตาร์ตอัป และ Tech SME สัญชาติไทย “อัปสกิล” การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ตามหลัก ESG โดยเฉพาะ

ความน่าสนใจของโครงการนี้ จะเป็นอย่างไร MarketThink จะพาไปเจาะลึกกันในโพสต์นี้..
ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า ทำไมการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG จึงมีความสำคัญ สำหรับธุรกิจสตาร์ตอัป และ Tech SME

เรื่องนี้ อธิบายได้แบบง่าย ๆ ว่า ในปัจจุบัน นักลงทุนให้ความสำคัญกับหลักการ ESG เป็นหนึ่งปัจจัยที่ใช้ในการประเมินมูลค่าบริษัท ตรวจสอบว่าธุรกิจนั้นมีการบริหารจัดการ การกำกับดูแล การประเมินความเสี่ยง การคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มากน้อยเพียงใด ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนกับธุรกิจนั้น

นั่นหมายความว่า หากธุรกิจสตาร์ตอัป หรือ Tech SME รายใด อยากขยายธุรกิจให้เติบโต (Scale-Up) ก็ต้องเริ่มต้นดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG ตั้งแต่วันนี้

หากเราเจาะลึกลงไปมากกว่านั้น จะพบว่าโครงการ ESG to Capital for Tech Entrepreneurs ของ AIS The StartUp นั้น เป็นการร่วมมือระหว่าง AIS The StartUp กับพันธมิตรรายใหญ่

ทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA)
และสมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย (Thai Startup Association)

เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการสตาร์ตอัปไทย ให้มีความเข้าใจในการประยุกต์ใช้หลักการด้าน ESG กับธุรกิจของตัวเอง

โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ ESG to Capital for Tech Entrepreneurs จะได้รับความรู้ ซึ่งเป็นประสบการณ์จริงด้าน ESG ของผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญ และวิทยากรระดับประเทศ จากพันธมิตรทั้ง 3 ของ AIS The StartUp ตลอดระยะเวลา 3 เดือนเต็ม

ตั้งแต่การปูพื้นฐาน ที่สร้างความเข้าใจ ให้ผู้ประกอบการเห็นถึงความสำคัญของการดำเนินธุรกิจ ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย พนักงาน คู่ค้า และชุมชน รวมถึงธรรมาภิบาลในด้านต่าง ๆ

เช่น ธรรมาภิบาลเพื่อองค์กร (Corporate Governance)
ธรรมาภิบาลการสร้างพันธมิตร (Partner Governance)
ธรรมาภิบาลทางการเงิน (Financial Governance)
และการกำกับดูแลผู้ถือหุ้น (Shareholder Governance)
ไปจนถึงการเสริมศักยภาพของธุรกิจ ด้วยการวิเคราะห์ความเสี่ยงจากการลงทุน

การวางรากฐานการทำธุรกิจตามหลักของ ESG ให้มีความเหมาะสมกับรูปแบบ และขนาดของธุรกิจสตาร์ตอัปแต่ละราย

ซึ่งเรื่องเหล่านี้ จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ธุรกิจสตาร์ตอัป และ Tech SME สัญชาติไทย ได้รับความเชื่อมั่น มีความได้เปรียบในการแข่งขัน รวมถึงสามารถเติบโตในตลาดทุนได้อย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ โครงการ ESG to Capital for Tech Entrepreneurs ยังทำให้ผู้ประกอบการ ได้รับรู้ถึงทิศทาง ภาพรวมเชิงนโยบายของภาครัฐ ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทิศทางการสนับสนุนธุรกิจสตาร์ตอัป และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล ของประเทศไทย

หรือการแบ่งปันประสบการณ์จริง จากองค์กรชั้นนำของประเทศ ที่จะมาแสดงให้เห็นถึงความสำคัญ และปัญหาที่อาจเจอ จากการนำหลักการด้าน ESG เข้าไปผนวกเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจ
เมื่ออ่านมาจนถึงตรงนี้ จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า สิ่งที่ AIS The StartUp กำลังทำอยู่นั้น คือการทำให้ธุรกิจสตาร์ตอัป สัญชาติไทย มีรากฐานการดำเนินธุรกิจที่มั่นคง

โดยเฉพาะการนำหลักการด้าน ESG เข้าไปใช้ในการวางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยง เตรียมความพร้อม และเปิดโอกาสให้ธุรกิจสตาร์ตอัป และ Tech SME ของไทย เข้าถึงตลาดทุน และขยายขนาดขององค์กร ได้ต่อไปในระยะยาว

นี่จึงถือเป็นการตอกย้ำ หัวใจสำคัญในการทำงานของ AIS The StartUp ที่มุ่งส่งเสริมการเติบโตแบบร่วมกันหรือ Partnership for Inclusive Growth ที่ยืดถือมาโดยตลอดนั่นเอง

#ESG #AIS #AISTheStartUp