AutoX สนับสนุนเป้าหมายกลุ่ม SCBX เปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero นำร่องใช้พลังงานสะอาดในการทำธุรกิจควบคู่รีไซเคิลขวดน้ำดื่มผลิตเสื้อพนักงาน ปรับการดำเนินงานภายในองค์กรมุ่งเติบโตอย่างยั่งยืน
3 เม.ย. 2024
ออโต้ เอกซ์ (AutoX) ผู้ให้บริการสินเชื่อที่มีทะเบียนเป็นหลักประกัน ภายใต้แบรนด์ “เงินไชโย” มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนของกลุ่ม SCBX เพื่อช่วยบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) จากการดำเนินงาน ภายในปี 2030 และจากการให้สินเชื่อและการลงทุน ภายในปี 2050
โดยเริ่มจากการปรับการดำเนินงานภายในองค์กรของ AutoX ผ่านการลงทุนในเทคโนโลยีด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้วยการใช้พลังงานสะอาดจากโซลาร์เซลในการทำธุรกิจ
รวมถึงส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าจากการนำขวดน้ำดื่มมารีไซเคิลเพื่อผลิตเป็นเสื้อพนักงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนต่อผู้มีส่วนได้เสียในทุกมิติ พร้อมเร่งผลักดันให้ประเทศไทยพัฒนาสู่เศรษฐกิจและสังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน
-มุ่งมั่นช่วยกลุ่มลูกค้าที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงินควบคู่กับสร้างคุณค่าให้สังคมอย่างยั่งยืน
AutoX ดำเนินธุรกิจด้วยความมุ่งมั่นเพื่อช่วยปลดล็อกความเครียดจากภาระทางการเงินให้กับคนไทยโดยเฉพาะกลุ่มที่ยังเข้าไม่ถึงบริการทางการเงินในระบบ (underserved) ด้วยบริการสินเชื่อจำนำทะเบียน ภายใต้แบรนด์ “เงินไชโย”
โดยยึด 3 แกนหลักสำคัญ “เข้าใจ – เข้าถึง – พึ่งได้” ช่วยสร้างจุดต่างและความสามารถในการแข่งขัน พร้อมยึดมั่นในแนวนโยบายหลักการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) ของธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างเคร่งครัด
ปัจจุบัน AutoX เปิดให้บริการแล้วกว่า 2,008 สาขา ทั่วประเทศ ช่วยเพิ่มโอกาสและการเข้าถึงสินเชื่อในระบบให้กับคนไทยกว่า 310,000 ราย
ซึ่งนอกจากการเป็นผู้นำด้านการให้บริการสินเชื่อที่เข้าถึงง่ายแล้ว บริษัทยังตระหนักถึงบทบาทความรับผิดชอบต่อสังคม หรือ Assisting Community “สร้างคุณค่า แก่ชุมชน” โดยคำนึงถึงส่วนรวม
พร้อมทั้งร่วมสร้างสรรค์ชุมชน และสังคมที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหนึ่งในค่านิยมหลักขององค์กร ปูทางสู่การเป็นผู้นำด้าน Net Zero ในกลุ่มธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียน เพื่อช่วยสนับสนุนเป้าหมายด้านความยั่งยืนของกลุ่ม SCBX
-สร้างองค์กรที่ยั่งยืนจากการใช้พลังงานสะอาดโซลาร์เซลล์ที่สาขาเงินไชโยลดคาร์บอนกว่า 1,300 ตัน/ปี
เพื่อเป็นการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม บริษัทได้เริ่มทยอยปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้พลังงานที่สาขาเงินไชโยเป็นพลังงานทางเลือก เพื่อช่วยลดการพึ่งพาจากแหล่งที่ไม่ยั่งยืน และเป็นการลดต้นทุนในระยะยาว
โดยในปี 2023 ที่ผ่านมามีการนำร่องติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Rooftop) ที่สาขาจำนวน 222 สาขา และในปี 2024 จะติดตั้ง Solar Rooftop เพิ่มอีก 200 สาขา
-เสื้อพนักงาน “เงินไชโย” จากขวดน้ำดื่มพลาสติกรีไซเคิลช่วยโลกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการติดตั้งไฟส่องสว่างหน้าสาขา (Solar Cell) แล้วทั้งสิ้นกว่า 2,008 สาขา ซึ่งเมื่อรวม Solar Rooftop และ Solar Cell แล้ว ภายในปี 2024 บริษัทจะสามารถช่วยลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ได้ทั้งสิ้นกว่า 1,300 ตัน
จากข้อมูลของชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทยพบว่า ขยะพลาสติกเป็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอันดับต้นๆ ของโลก
โดยในปี 2022/2023 พบว่าประเทศไทยมีขยะประมาณ 25.7 ล้านตัน แบ่งเป็นขยะพลาสติก ราว 1.2 ล้านตัน/ปี ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นขยะพลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง (Single-Use)
ด้วยเหตุนี้ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกจากขวดน้ำดื่ม ในปี 2022 บริษัทจึงมีการริเริ่มนำขวดน้ำดื่ม PET Recycle ขนาด 600 มิลลิลิตร จำนวนกว่า 467,850 ขวด มารีไซเคิลเพื่อผลิตเป็นเส้นใยผ้าและแปลงสภาพเป็นเสื้อสำหรับพนักงานสาขาเงินไชโย ได้กว่า 31,190 ตัว
ซึ่งสามารถช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกจากการทำธุรกิจตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ควบคู่กับการสร้างความตระหนักเรื่องความยั่งยืน และส่งเสริมการใส่ใจสิ่งแวดล้อมให้แก่ผู้สวมใส่อีกด้วย
นอกจากนี้ บริษัทยังมีนโยบายการใช้วัสดุจากธรรมชาติ อาทิ ใช้กระดาษผลิตจากเยื่อกระดาษหมุนเวียน (กระดาษรีไซเคิล) ที่ช่วยลดการตัดต้นไม้ใหม่ในการทำธุรกรรมต่างๆ รวมถึงลดการใช้งานเอกสารรูปแบบกระดาษ (Paperless) ในงานเอกสารต่างๆ ในสำนักงานใหญ่ และการทำสัญญากับลูกค้าสำหรับสาขาทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นการช่วยประหยัดพลังงาน และทรัพยากรธรรมชาติ
รวมถึงเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยกระตุ้นให้เกิดการพัฒนารูปแบบการทำงานให้เป็นระบบดิจิทัลมากยิ่งขึ้นอีกด้วย นโยบายดังกล่าวจะช่วยลดการใช้กระดาษกว่า 14 ล้านแผ่นหรือช่วยลดการตัดต้นไม้ได้กว่า 2,400 ต้นภายในระยะเวลา 3 ปี