สรุปไฮไลต์ พื้นที่รีเทล ในโครงการ One Bangkok มีทั้งแบรนด์หรู ดิวตี้ฟรี แหล่งปาร์ตี้หลังเลิกงาน

ถ้าใครขับรถผ่าน ในย่านพระราม 4 ตัดกับหัวมุมถนนวิทยุ น่าจะเห็นความคืบหน้าของ One Bangkok โครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบมิกซ์ยูส ของ TCC Asset และ Frasers Property ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้นกว่า 120,000 ล้านบาท

ในวันนี้ กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส์ พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด ได้เปิดเผยรายละเอียด เกี่ยวกับ One Bangkok Retail ซึ่งเป็นพื้นที่รีเทล ภายในโครงการ One Bangkok เป็นครั้งแรก 

โดยไฮไลต์ จะมีอะไรบ้างนั้น MarketThink จะสรุปให้อ่านกันในโพสต์นี้..

เรื่องแรกเลย คือ One Bangkok Retail จะมีพื้นที่เช่าสุทธิรวมทั้งสิ้น 160,000 ตารางเมตร โดยจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วน ที่เชื่อมต่อกัน ได้แก่

- Parade 

ความสูง 9 ชั้น มีพื้นที่เช่ารวม 85,000 ตารางเมตร ผสมผสานทุกไลฟ์สไตล์ ทั้ง Shop, Play, Work และ Eat

โดยในพื้นที่ส่วน Parade นี้ มีความน่าสนใจอยู่ตรงที่ ร้านค้าต่าง ๆ ที่จะมาเปิดให้บริการ ซึ่งมีทั้ง

ซูเปอร์มาร์เก็ต ที่รวบรวมสินค้าจากทั่วทุกมุมโลก
ร้านอาหาร Casual Dining และคาเฟ่ชั้นนำ
แบรนด์ High Street Fashion และ Fast Fashion 
Co-Working Space
ร้านหนังสือในคอนเซปต์ใหม่
Home & Lifestyle
และ Entertainment Center

- THE STOREYS

อยู่บนพื้นที่เช่ารวม 35,000 ตารางเมตร บนความสูง 5 ชั้น เป็นแพลตฟอร์มแห่งความคิดสร้างสรรค์ และเทรนด์ใหม่ ๆ 

โดยในพื้นที่ THE STOREYS นี้ จะมีทั้งร้านค้าแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ ผสานกลิ่นอายวัฒนธรรมท้องถิ่นร่วมสมัย

คอนเซปต์สโตร์
ร้านอาหาร บาร์แอนด์บิสโทร 
และแหล่งแฮงก์เอาต์ยามค่ำคืน

- Post 1928

เป็นพื้นที่รีเทลระดับ Luxury บนพื้นที่ 5 ชั้น 40,000 ตารางเมตร

ความน่าสนใจของ Post 1928 คือ ถนนสายช็อปปิง (Shopping Street) สายแรกของกรุงเทพฯ รวบรวมร้านค้า Flagship Store จากแบรนด์ดังระดับโลก ในรูปแบบ Standalone ตลอดสองฝั่งของถนน

ตั้งแต่ซูเปอร์แบรนด์แฟชั่น นาฬิกา จิวเวลรี่ ตลอดจน Streetwear ระดับพรีเมียม

และที่สำคัญคือ ในวันนี้มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมด้วยว่า ภายในโครงการ One Bangkok จะมีร้านค้าปลอดภาษี (Duty Free) บนพื้นที่ขนาด 5,000 ตารางเมตร อยู่ภายในโครงการอีกด้วย

นอกจากนี้ One Bangkok Retail ยังมีการออกแบบด้วยคอนเซปต์ ที่เรียกว่า Retail Loop พื้นที่อินดอร์ และเอาต์ดอร์ที่เชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อ รวบรวมแบรนด์แฟชั่น และไลฟ์สไตล์รวมกว่า 900 ร้านค้า

และ Food Loop ที่รวบรวมร้านอาหารระดับ Fine Dining ภัตตาคารชั้นนำ Rooftop Bars ร้านแฮงก์เอาต์ และสตรีตฟูด รวมกว่า 250 ร้านดัง ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ความยาวรวมกว่า 1.5 กิโลเมตร อีกด้วย

สำหรับกำหนดการเปิดบริการของพื้นที่รีเทลทั้ง 3 ส่วนนี้ 

Parade และ THE STOREYS จะเปิดให้บริการในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ส่วน Post 1928 จะเปิดให้บริการเป็นลำดับต่อไป

และมีการตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะมีผู้เข้ามาใช้บริการรวมไม่ต่ำกว่า 90 ล้านคนต่อปี แบ่งเป็นกลุ่มคนไทย และ Expat (ชาวต่างชาติในไทย) 60% และนักท่องเที่ยวอีก 40%