ชิปเซ็ต ทำให้ Samsung เติบโต ในไตรมาสแรก ปี 2020
8 เม.ย. 2020
ในปี 2019 Samsung มียอดขายสมาร์ตโฟนเป็นอันดับหนึ่งของโลก
โดยจำหน่ายสมาร์ตโฟนได้กว่า 296 ล้านเครื่องทั่วโลก
ซึ่งเป็นยอดขายที่เหนือคู่แข่งอย่าง Apple, Huawei และ Xiaomi
โดยจำหน่ายสมาร์ตโฟนได้กว่า 296 ล้านเครื่องทั่วโลก
ซึ่งเป็นยอดขายที่เหนือคู่แข่งอย่าง Apple, Huawei และ Xiaomi
แต่ในปี 2020 มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบ
รวมถึงวิถีดำเนินชีวิตของผู้คนก็แตกต่างไปจากเดิม เช่นต้อง Work from home หรือเรียน Online Class
รวมถึงวิถีดำเนินชีวิตของผู้คนก็แตกต่างไปจากเดิม เช่นต้อง Work from home หรือเรียน Online Class
ตอนนี้รายได้ทุกๆ 100 บาทของ Samsung มาจาก
Device Solution 43 บาท
สินค้าไอที 38 บาท
เครื่องใช้ไฟฟ้า 17 บาท
เครื่องเสียง Harman 2 บาท
Device Solution 43 บาท
สินค้าไอที 38 บาท
เครื่องใช้ไฟฟ้า 17 บาท
เครื่องเสียง Harman 2 บาท
ส่วนในไตรมาสแรกของปี 2020 นั้น
Samsung มีรายได้ 1.5 ล้านล้านบาท กำไรจากการดำเนินงาน 172,500 ล้านบาท
Samsung มีรายได้ 1.5 ล้านล้านบาท กำไรจากการดำเนินงาน 172,500 ล้านบาท
ซึ่งตัวเลขดังกล่าว สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
โดยมีรายได้สูงขึ้น 5% และกำไรจากการดำเนินงานสูงขึ้น 3%
โดยมีรายได้สูงขึ้น 5% และกำไรจากการดำเนินงานสูงขึ้น 3%
ในช่วงนี้คนทั่วโลกน่าจะมีรายได้น้อยลง จากปัญหาทางเศรษฐกิจและมาตรการปิดร้านค้าของรัฐบาล
แต่ทำไมท่ามกลางวิกฤติแบบนี้ Samsung ยังสามารถสร้างผลประกอบการที่ดีได้อยู่?
แต่ทำไมท่ามกลางวิกฤติแบบนี้ Samsung ยังสามารถสร้างผลประกอบการที่ดีได้อยู่?
เหตุผลก็คือ รายได้หลักของ Samsung กำลังเติบโต
ตั้งแต่มีมาตรการ Lockdown และ Social Distancing รวมถึงคำแนะนำให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน
ทำให้เกิดปรากฏการณ์ Work from home และการเรียน Online Class ที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน
นอกจากนี้การใช้งานอินเทอร์เน็ตยังเพิ่มสูงขึ้นจากการใช้งาน Video Streaming, การเล่นเกม รวมถึงการซื้อของออนไลน์
นอกจากนี้การใช้งานอินเทอร์เน็ตยังเพิ่มสูงขึ้นจากการใช้งาน Video Streaming, การเล่นเกม รวมถึงการซื้อของออนไลน์
สรุปแล้วความต้องการในการใช้บริการออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น
ซึ่งบริการเหล่านี้ล้วนต้องอาศัยอุปกรณ์บางอย่าง ซึ่งเป็นอาวุธสำคัญของ Samsung
ซึ่งบริการเหล่านี้ล้วนต้องอาศัยอุปกรณ์บางอย่าง ซึ่งเป็นอาวุธสำคัญของ Samsung
มันคืออุปกรณ์ในกลุ่ม Device Solution เช่น Semiconductor, DRAM, NAND Flash ชิปเซ็ตและเซนเซอร์ต่างๆ
พูดง่ายๆก็คือ ฮาร์ดแวร์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดนั่นเอง
พูดง่ายๆก็คือ ฮาร์ดแวร์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดนั่นเอง
สิ่งที่ผู้บริโภคอาจจะมองไม่เห็นก็คือผู้ให้บริการออนไลน์ เช่น Streaming Service, E-Commerce, Cloud Service และ Data Center ล้วนมีความต้องการใช้ชิปเซ็ต และอุปกรณ์ต่างๆสำหรับเซิร์ฟเวอร์เพิ่มมากขึ้น
ซึ่งรายได้หลักของ Samsung นั้นก็ไม่ใช่สมาร์ตโฟนหรือเครื่องใช้ไฟฟ้า
แต่กลับเป็นกลุ่ม Device Solution ที่กำลังเป็นที่ต้องการอยู่นั่นเอง
แต่กลับเป็นกลุ่ม Device Solution ที่กำลังเป็นที่ต้องการอยู่นั่นเอง
สิ่งที่น่าสนใจคือ ในเวลาที่เศรษฐกิจกำลังแย่อย่างนี้ ค่าเงินวอนของเกาหลีใต้นั้นกำลังอ่อนลง
โดยนับตั้งแต่ต้นปีค่าเงินวอนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนลงไปถึง 5%
ซึ่งส่งผลดีต่อผู้ส่งออกอย่าง Samsung
เพราะบริษัทจะมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น จากการแปลงเงินตราต่างประเทศ กลับมาเป็นเงินวอน..
ซึ่งส่งผลดีต่อผู้ส่งออกอย่าง Samsung
เพราะบริษัทจะมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น จากการแปลงเงินตราต่างประเทศ กลับมาเป็นเงินวอน..