Disney+ กำลังบุกตลาดอินเดีย

Disney+ กำลังบุกตลาดอินเดีย

5 เม.ย. 2020
ธุรกิจ Streaming มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด
โดยเฉพาะในปี 2019 ที่มี Streaming หน้าใหม่อย่าง Disney+ และ Apple TV+
ที่พร้อมจะมาเบียดเจ้าตลาดเดิมอย่าง Netflix
ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ในปีนี้
Disney ยังคงมีแผนจะเปิดให้บริการ Disney+ ในประเทศอินเดียวันที่ 3 เมษายน
โดยก่อนหน้านี้ผู้เล่นตัวเก๋าในตลาด Streaming อย่าง Netflix ก็ได้ทำในตลาดอินเดียมาตั้งแต่ปี 2016
แต่ในปี 2018 Netflix กลับได้ส่วนแบ่งทางการตลาดในอินเดียเพียง 2% เท่านั้น
ในขณะที่ผู้เล่นเจ้าใหญ่อย่าง Hotstar ที่เปิดตัวในปี 2015 สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดไปกว่า 40%
โดยปัญหาของ Netflix คือคอนเทนต์ที่คนอินเดียชอบเสพเป็นคอนเทนต์ของท้องถิ่น
ซึ่ง Netflix ไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานในอินเดียด้านนี้
และคนอินเดียชื่นชอบกีฬาคริกเกตกันมาก
แต่มีเพียง Star Sports และ Hotstar เท่านั้นที่ได้สิทธิ์ถ่ายทอด Indian Premier League ไป
คนอินเดียจึงนิยม Hotstar มากกว่า Netflix
และที่สำคัญคือ ราคาของ Netflix นั้นแพงกว่า Streaming เจ้าอื่นๆ
ในขณะที่ยักษ์ใหญ่อย่าง Hotstar ครองตลาดอยู่
แล้ว Disney จะทำอย่างไรเพื่อชิงส่วนแบ่งในตลาดมา?
ความจริงแล้ว Disney ไม่ได้กังวลเรื่อง Hotstar เลยแม้แต่น้อย
แถมยังดีใจเสียอีกที่ Hotstar ครองตลาด
ทำไมน่ะหรือ?
เพราะ Disney เป็นเจ้าของ Hotstar นั่นเอง
ดังนั้น Disney จึงใช้ฐานลูกค้า Hotstar ที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์
โดยอัปเกรดแพ็กเกจให้ลูกค้า Hotstar สามารถรับชม Disney+ ได้ด้วย
จากเดิมที่แพ็กเกจรายปีของ Hotstar ราคา 440 บาท
แต่ทันทีที่ Disney+ เปิดตัว แพ็กเกจเดิมของลูกค้าถูกอัปเกรดราคาเป็น 660 บาททันที
โดยสามารถรับชมได้ทั้งคอนเทนต์ของทั้ง Disney+ และ Hotstar
แน่นอนว่าคนอินเดียอาจจะไม่ได้อยากดูคอนเทนต์ของดิสนีย์อย่าง Avengers หรือ Star Wars
แต่ชาวอินเดียยังคงอยากดูกีฬาคริกเกตซึ่ง Hotstar ได้ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดอย่างแน่นอน
ส่วนถ้าผู้ใช้งานอยากจะใช้ Disney+ อย่างเดียวก็สามารถเลือกได้ในราคา 175 บาท
แต่..
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในอินเดียในตอนนี้ยังไม่ดีขึ้น
รัฐบาลจึงยังคงมีมาตรการ Lockdown ทั่วประเทศต่อไป
ซึ่ง Hotstar และ Disney+ ก็ได้รับผลกระทบอยู่ 2 เรื่อง
เรื่องแรกคือ Indian Premier League ลีกกีฬาคริกเกตที่คนอินเดียชื่นชอบนั้น
ถูกเลื่อนออกไปจนถึงวันที่ 15 เมษายน 2020
และยังไม่แน่ว่าจะถูกเลื่อนออกไปอีกหรือเปล่า
เรื่องนี้อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ Hotstar ร้อนๆ หนาวๆ เพราะผู้ใช้งานอาจจะยกเลิกบริการในช่วงที่ไม่มีการแข่งขันก็ได้
เรื่องที่สอง รายได้ที่ลดลงสวนทางกับค่าบริการที่เพิ่มขึ้น
การเข้ามาของ Disney+ เปรียบเสมือนการมัดมือชกให้ผู้ใช้งาน Hotstar ต้องจ่ายเงินเพิ่มไม่ว่าจะดูคอนเทนต์ Disney+ หรือไม่
ซึ่งในสถานการณ์ปกติก็อาจจะไม่ได้มีปัญหาอะไร ผู้ใช้งานอาจจะยอมจ่ายเพื่อดูกีฬาสุดโปรด
แต่ในช่วงเวลาที่มีการ Lockdown แบบนี้
ผู้ใช้งานไม่ว่าจะเป็นเจ้าของกิจการหรือลูกจ้างต่างได้รับผลกระทบในด้านรายได้อย่างแน่นอน
ค่าบริการที่แพงขึ้น แถมไม่ได้ดูคริกเกตอีก
แบบนี้อาจทำให้ผู้ใช้งานเลือกที่จะยกเลิกการใช้บริการก็ได้..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ต่อให้ชาวอินเดียที่ชื่นชอบคริกเกตหันไปใช้บริการของ Star Sports ที่เป็นคู่แข่ง แทนที่ Hotstar
พวกเขาก็ยังต้องจ่ายเงินให้ Disney อยู่เหมือนเดิม
เพราะ Disney ก็เป็นเจ้าของ Star Sports ที่อินเดียเช่นกัน..
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.