เบื้องหลังแนวคิด “Design Village” บางนา อีกก้าวสำคัญของบุญถาวร

เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ “Design Village” บางนา
คอมมูนิตี้ลิฟวิ่งมอลล์ แห่งใหม่ ที่บุญถาวรตั้งใจปลุกปั้น
พร้อมคัดสรรความพิเศษมารวมไว้ให้ครบจบในที่เดียว เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่

ตั้งแต่การออกแบบอาคาร ไปจนถึงการรวบรวมร้านค้าและร้านอาหารแบรนด์ดังมาไว้มากมาย เพื่อยกระดับความสุขในการใช้ชีวิตที่พิถีพิถัน มีไลฟ์สไตล์ทุกวัน รองรับความต้องการของคนทุกเจเนอเรชัน

สำหรับใครที่มีโอกาสไปใช้บริการ “Design Village” แห่งอื่น ๆ มาก่อน
คงนึกภาพตามได้ไม่ยาก ว่า “Design Village” จัดเต็มขนาดไหน

แต่ใครที่อาจจะยังไม่มีโอกาสได้ไปเช็กอิน “Design Village” อาจจะยังไม่แน่ใจ และอดสงสัยไม่ได้ว่า เบื้องหลังในการพัฒนา “Design Village” ของบุญถาวรคืออะไร

บทความนี้ MarketThink จะพาไปหาคำตอบพร้อมกัน

ก่อนอื่น ต้องย้อนไปสู่จุดเริ่มต้นของ “Design Village” แห่งแรก
ซึ่งเกิดจากการที่บุญถาวรเล็งเห็นแล้วว่า ทิศทางของตลาดและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนไป
โดยเฉพาะหลังสถานการณ์โรคระบาด ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนหลากหลายเจเนอเรชันไม่เหมือนเดิม

บวกกับลูกค้าของบุญถาวร มีความพิถีพิถัน และใช้เวลาในการเลือกซื้อสินค้าที่นานขึ้น
เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ มักเป็นสถาปนิก ผู้รับเหมา หรือมีสมาชิกในครอบครัวมาช่วยกันเลือกสินค้า

พอเห็นอินไซต์แบบนี้ บุญถาวร จึงมองว่า ถึงเวลาที่ต้องปรับตัวเองครั้งใหญ่ ด้วยการ​เป็นมากกว่าร้านขายวัสดุตกแต่ง เพิ่มพื้นที่รีเทล ก้าวสู่การเป็นคอมมูนิตี้ลิฟวิ่งมอลล์ ภายใต้ชื่อ “Design Village”
ที่มาพร้อมคอนเซปต์ FINEST NEIGHBOURING LIFESTYLE PLACE

ทั้งหมด เพื่อยกระดับการให้บริการของบุญถาวรให้มีความทันสมัย
พร้อมเติมเต็มไลฟ์สไตล์ทุกมิติ ไม่ว่าจะกิน ช็อป หรือชิล

ตอบโจทย์ลูกค้าที่มองหาไลฟ์สไตล์ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ ได้เพลิดเพลินกับความสุขในแบบฉบับของตัวเอง
บวกกับสนับสนุนธุรกิจรีเทลของบุญถาวร ที่ยืนหยัดอยู่คู่กับสังคมไทย มานานกว่า 50 ปี ให้ยิ่งแข็งแกร่ง

หลังจากเปิดตัว Design Village แห่งแรก ที่ราชพฤกษ์ ในปี 2561 ถามว่า ผลลัพธ์เป็นอย่างไร ?

ต้องบอกว่า ผลตอบรับดีตามคาด จนทำให้ในปีถัดมา บุญถาวรตัดสินใจเปิดตัว Design Village พุทธมณฑล ตามด้วยเกษตร-นวมินทร์ ในปี 2564

ซึ่งกระแสตอบรับดีไม่แพ้กัน สะท้อนผ่านยอดขายของบุญถาวร ภายหลังการปรับรูปแบบเป็น Design Village มีรายได้ 6 เดือน เติบโตกว่า 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ผลพลอยได้จากการปรับตัวครั้งนี้ ไม่เพียงช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ทันสมัย เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้มากขึ้น บุญถาวรเอง ยังได้พัฒนาพื้นที่ในแต่ละแห่งให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสร้าง Recurring Income จากผู้เช่าให้บริษัทอย่างสม่ำเสมอ

เรียกได้ว่า กลยุทธ์ของบุญถาวร มาถูกทางอย่างไม่ต้องสงสัย
จนทำให้ล่าสุด บุญถาวร ตัดสินใจเดินหน้าปรับปรุง บุญถาวร บางนา เป็น Design Village บางนา

เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของกลุ่มคนที่ชื่นชอบการแต่งบ้าน มีแนวคิดทันสมัย ต้องการสะท้อนตัวตนผ่านการตกแต่งที่พักอาศัย

โดยเลือกปักหมุดในย่านบางนา เพราะนอกจากจะเป็นทำเลทองใหม่ของการขยายการเติบโตของกรุงเทพฯ
ในรัศมีโดยรอบ 5 กิโลเมตร มีที่อยู่อาศัยมากกว่า 180 โครงการ

สามารถเชื่อมระหว่างกรุงเทพฯ กับโซนภาคตะวันออก
แถมในอนาคตอันใกล้นี้ รถไฟฟ้าสายสีเขียวก็จะเปิดให้บริการ อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ลำพังปักหมุดอยู่ในโลเคชันที่มีศักยภาพอาจไม่พอ
ถ้าจะดึงดูดให้ใคร ๆ ก็อยากมาเช็กอิน คอนเซปต์ของ Design Village บางนา ก็ต้องไม่ธรรมดา

งานนี้ บุญถาวรเลยจัดเต็ม เนรมิตเนื้อที่รวม 30 ไร่ ของ Design Village บางนา เพื่อตอบโจทย์ให้กับผู้ที่พิถีพิถันกับสไตล์การตกแต่งบ้าน

พร้อมรองรับกลุ่มผู้ที่มีใจรักในการดิไซน์ที่อยู่อาศัย และเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงไอเดียใหม่ ๆ เพื่อการอยู่อาศัยที่เปี่ยมด้วยสุนทรียภาพ

เริ่มจากอาคารบุญถาวร ซึ่งเป็นพื้นที่ Home & Living Retail มีแบรนด์คุณภาพชั้นนำมากมาย
อาทิ Tile Gallery, Kitchen, Bath&Bath, Anyhome, Lighting Center, LIFESTYLE furniture

ยกทัพแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับโลก สินค้าคุณภาพ เช่น NATUZZI EDITIONS, CAMERICH, KUKA, AMERICAN ELITE และแบรนด์ชั้นนำอื่น ๆ อีกมากมาย

และเพิ่มให้ตอบโจทย์ “คอมมูนิตี้ลิฟวิ่งมอลล์” ด้วยอาคาร Lifestyle Retail ประกอบด้วยร้านค้าและร้านอาหารมากมาย เช่น

- ร้านค้ากลุ่มโฮมแอนด์ลิฟวิ่ง เช่น OPPEIN Bangkok โซลูชันแบบครบวงจรสำหรับห้องครัว ตู้เสื้อผ้า ตู้เก็บของ และประตูภายใน OPPEIN เป็นผู้ผลิต Cabinetry รายใหญ่ที่สุดในเอเชีย และเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในประเทศจีน, Zedere, Glasten

- ร้านเสื้อผ้าชื่อดังอย่าง Uniqlo Roadside

- ร้านค้ากลุ่ม Health & Wellness เช่น Pruksa Wellness, GALAXY Fitness 
แนวคิดใหม่กับบรรยากาศการออกกำลังกายธีมอวกาศ สาขาแรกในประเทศไทย

ในฝั่งกลุ่มร้านอาหารชั้นนำ ก็คัดสรรร้านมาให้เลือกอิ่มอร่อย

อย่างเช่น Masaru Shabu & Sushi Buffet, Signature BKK บุฟเฟต์ชาบู-อาหารนานาชาติซูเปอร์พรีเมียม, รสนิยม ร้านอาหารไทย ตกแต่งในบรรยากาศย้อนยุค จาก Iberry Group, ลิ้มเหล่าโหงว ตำนานบะหมี่ลูกชิ้นปลากระโดดได้ สร้างสรรค์ความอร่อยยาวนานกว่า 80 ปี, YAMAYA TEMPURA by Hakata สาขาแรกของเมืองไทย, วราภรณ์ ซาลาเปา, Wines Catalog, After You, Fresh Me และ Tora Cha เป็นต้น

ส่วนอาคาร Gourmet Market Standalone Flagship ผู้นำธุรกิจรีเทลอาหาร ที่ตั้งเป้าจะเป็น Food Destination แห่งใหม่ในย่านบางนา

จึงรวบรวมอาณาจักรอาหาร และแบรนด์ชั้นนำกลางเมืองมาเสิร์ฟบนพื้นที่กว่า 2,500 ตารางเมตร
ครั้งแรกกับการแนะนำเมนูใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ Bistro จาก You Hunt We Cook
เปิดทำการตั้งแต่เวลา 6.00-24.00 น.

ตลอดจนอาคารสตาร์บัคส์ ไดร์ฟทรู สามารถออร์เดอร์เมนูโปรดได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาลงจากรถ

นอกจากความครบครันของร้านค้า Design Village บางนา ยังโดดเด่นด้วยแนวคิดในการออกแบบเป็น Prompt Access

หรือการจัดโซนร้านค้าและบริการ ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่ายโดยรอบตัวอาคาร
กระชับระยะทางจากประตูรถถึงประตูร้าน เพิ่มความสะดวกสบายโดยไม่ต้องเสียเวลาวนหาที่จอดรถ

นอกจากนี้ ตัวอาคารยังออกแบบให้มีการรับแสงธรรมชาติ การระบายอากาศ การประหยัดพลังงานอย่างยั่งยืนในระยะยาว

อีกทั้งยังมีการบริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า อีกด้วย

ใครที่ไม่อยากพลาดโอกาสเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ครบครัน และชวนให้ตื่นตาตื่นใจแบบนี้
Design Village บางนา เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเต็มรูปแบบแล้ว

บอกเลยว่า แวะมา Design Village ช่วงนี้ คุ้มสุด ๆ
เพราะมีโปรโมชันฉลองเปิดให้บริการ อย่าง​ Unfold Your Passion ช็อปครบ รับทันที Design Village Tumbler

ยิ่งไปกว่านั้น ยิ่งช็อปมาก ยิ่งมีโอกาสลุ้นรับรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1,000,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ - 31 สิงหาคม 2566