มาร์ก มอง แว่น Vision Pro ของ Apple อาจเป็น คอมพิวเตอร์แห่งอนาคต แต่ไม่ใช่แนวทางที่ Meta ต้องการทำ
9 มิ.ย. 2023
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายคนคงเห็นข่าว Apple เปิดตัวแว่น VR/AR ที่มีชื่อว่า “Vision Pro” ซึ่งนับว่าเป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี
เรื่องนี้ทำให้ Apple และ Meta ที่เคยออกแว่น VR มาก่อนแล้ว เป็นคู่แข่งกันในอุตสาหกรรมโดยปริยาย
เรื่องนี้ทำให้ Apple และ Meta ที่เคยออกแว่น VR มาก่อนแล้ว เป็นคู่แข่งกันในอุตสาหกรรมโดยปริยาย
ล่าสุด ที่ประชุม Meta ในวันนี้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ได้พูดถึงแว่น Vision Pro ของ Apple เป็นครั้งแรก
โดยมีรายละเอียดคือ มาร์กบอกว่า อยากรู้ว่าแว่นของ Apple จะเป็นอย่างไร
แต่เบื้องต้นเท่าที่ดูก็นับว่าเป็นข่าวดีของ Meta เพราะว่า ยังไม่เห็นโซลูชั่นใด ๆ ที่ล้ำหน้าเกินกว่าที่ Meta เคยสำรวจและเคยทำ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอที่ให้ความละเอียดสูง หรือเทคโนโลยีต่าง ๆ
แต่เบื้องต้นเท่าที่ดูก็นับว่าเป็นข่าวดีของ Meta เพราะว่า ยังไม่เห็นโซลูชั่นใด ๆ ที่ล้ำหน้าเกินกว่าที่ Meta เคยสำรวจและเคยทำ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอที่ให้ความละเอียดสูง หรือเทคโนโลยีต่าง ๆ
แต่ด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่ Apple ใส่ลงไปในแว่น ทำให้แว่นมีราคาสูงกว่าแว่น VR ของ Meta ถึง 7 เท่า
โดยแว่น Vision Pro ของ Apple ราคา 3,499 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 121,000 บาท)
ส่วนแว่น Quest 3 ของ Meta ที่เพิ่งเปิดตัวสัปดาห์ที่แล้ว ราคา 999 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 35,000 บาท)
โดยแว่น Vision Pro ของ Apple ราคา 3,499 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 121,000 บาท)
ส่วนแว่น Quest 3 ของ Meta ที่เพิ่งเปิดตัวสัปดาห์ที่แล้ว ราคา 999 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 35,000 บาท)
อีกทั้ง เมื่อใส่ทุกอย่างลงในแว่น ทำให้แว่นต้องใช้พลังงานมากกว่าปกติ จึงต้องเสียบสายชาร์จไว้ตลอดระยะเวลาการใช้งาน
มาร์ก ยังบอกอีกว่า แนวทางการพัฒนาแว่น VR/AR ของ Meta และ Apple แตกต่างกัน
โดย Meta มุ่งเน้นที่จะทำให้แว่นเข้าถึงผู้ใช้งานทุกคนด้วยราคาไม่แพง รวมถึงต้องการสร้าง Metaverse หรือโลกเสมือน ที่ทุก ๆ คนเข้ามามีปฏิสัมพันธ์กัน ทำให้เกิดความใกล้ชิดกันมากขึ้น
โดย Meta มุ่งเน้นที่จะทำให้แว่นเข้าถึงผู้ใช้งานทุกคนด้วยราคาไม่แพง รวมถึงต้องการสร้าง Metaverse หรือโลกเสมือน ที่ทุก ๆ คนเข้ามามีปฏิสัมพันธ์กัน ทำให้เกิดความใกล้ชิดกันมากขึ้น
แต่สำหรับแว่น Vision Pro ของ Apple
มาร์ก บอกว่า จากการพรีเซนต์ผลิตภัณฑ์ในวันจันทร์ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า วิดีโอต่าง ๆ ที่นำมาพรีเซนต์ มักจะเห็นผู้ใช้งานนั่งใช้งานแว่นอยู่คนเดียวตามลำพัง
มาร์ก บอกว่า จากการพรีเซนต์ผลิตภัณฑ์ในวันจันทร์ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า วิดีโอต่าง ๆ ที่นำมาพรีเซนต์ มักจะเห็นผู้ใช้งานนั่งใช้งานแว่นอยู่คนเดียวตามลำพัง
ดังนั้นมาร์ก จึงมองว่า แว่น Vision Pro ของ Apple อาจเป็นคอมพิวเตอร์แห่งอนาคต
หรืออธิบายง่าย ๆ ก็คือ ใช้แว่นในการดูหนัง ฟังเพลง ทำงาน แทนคอมพิวเตอร์ ซึ่งแนวทางแบบนี้ ไม่ใช่สิ่งที่ Meta ต้องการ..
หรืออธิบายง่าย ๆ ก็คือ ใช้แว่นในการดูหนัง ฟังเพลง ทำงาน แทนคอมพิวเตอร์ ซึ่งแนวทางแบบนี้ ไม่ใช่สิ่งที่ Meta ต้องการ..
อย่างไรก็ดี มาร์ก เชื่อว่า การแข่งขันในอุตสาหกรรมแว่น VR/AR จะน่าสนใจและน่าตื่นเต้นมากขึ้น
สรุปสั้น ๆ คือ มาร์กมองว่า แนวทางของ Meta และ Apple ต่อแว่น VR/AR แตกต่างกัน
Meta ต้องการให้แว่นเข้าถึงทุกคน และใช้เป็นโซเชียลในการมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน
แต่ Apple เหมาะใช้งานแบบส่วนตัว ซึ่งมีเทคโนโลยี AR ที่ผู้สวมใส่แว่น ยังสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างในโลกจริงได้
แต่ Apple เหมาะใช้งานแบบส่วนตัว ซึ่งมีเทคโนโลยี AR ที่ผู้สวมใส่แว่น ยังสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างในโลกจริงได้
หลังจากนี้ ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า ท้ายที่สุดแล้ว แนวทางไหน จะเป็นแนวทางที่ใช่ที่สุด สำหรับผู้ใช้งาน..