Netflix เริ่มประสบความสำเร็จกับแพ็กเกจราคาถูก แต่มีโฆษณาแทรก ด้วยจำนวนสมาชิกเกิน 1 ล้านคน ในสหรัฐ
21 มี.ค. 2023
ในช่วงปีที่แล้ว Netflix เป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิง ที่เผชิญกับสถานการณ์ จำนวนผู้สมัครสมาชิกลดลง เป็นครั้งแรก
ทำให้ Netflix ต้องสรรหามาตรการต่าง ๆ มาใช้ เพื่อกระตุ้นให้คนทั่วโลก กลับมาสมัครสมาชิกอีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งหนึ่งในมาตรการของ Netflix ที่ว่านี้ ก็คือ การทดลองออกแพ็กเกจที่มีราคาถูกกว่าปกติ ในบางประเทศ
โดยผู้ที่สมัครแพ็กเกจนี้ จะสามารถรับชมคอนเทนต์ทั้งหมดบน Netflix ได้เช่นเดิม แต่ต้องแลกกับการมีโฆษณาแทรกระหว่างการรับชม ในราคา 6.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 240 บาท) ต่อเดือน
ล่าสุด มีการรายงานว่า ในขณะนี้ มีผู้สมัครเพื่อใช้งานแพ็กเกจราคาถูกของ Netflix นี้แล้ว กว่า 1 ล้านราย ในสหรัฐอเมริกา หลังจากที่เปิดตัวแพ็กเกจนี้ไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว
และผู้สมัครสมาชิกราว 1 ล้านคนนี้ เป็นผู้ใช้ Netflix ที่สมัครสมาชิกใหม่
ไม่ใช่สมาชิกเดิม ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย โดยเปลี่ยนมาสมัครสมาชิกในแพ็กเกจที่มีราคาถูกที่สุด
ไม่ใช่สมาชิกเดิม ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย โดยเปลี่ยนมาสมัครสมาชิกในแพ็กเกจที่มีราคาถูกที่สุด
ซึ่งนั่น ก็หมายความว่า Netflix เริ่มมองเห็นทิศทางที่ดี ในการหารายได้จากธุรกิจโฆษณา ซึ่งเป็นโมเดลการหารายได้แบบใหม่ ๆ ของ Netflix ที่เกิดจากการออกแพ็กเกจที่มีราคาถูก แต่มีโฆษณาแทรก..
แถม Netflix ยังใช้แพ็กเกจราคาถูกที่ว่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของการทดลอง “ห้าม” ไม่ให้ผู้ใช้ แบ่งปันรหัสผ่าน ของแพ็กเกจ Family ร่วมกับบุคคลอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่อาศัยในบ้านหลังเดียวกันได้อีกด้วย
เพราะปฎิเสธไม่ได้เลยว่า ผู้ที่แบ่งปันรหัสผ่าน Netflix ร่วมกับบุคคลอื่น มักเป็นกลุ่มคนที่มีความไวต่อราคาสูง (Price Sensitive)
แพ็กเกจราคาถูก แต่มีโฆษณาแทรก จึงทำหน้าที่ดึงดูดคนกลุ่มนี้ ให้หันมาจ่ายเงินสมัครสมาชิกด้วยตัวเองได้โดยตรง..
อย่างไรก็ตาม แม้เราพอจะเห็นทิศทางที่ดี ของการที่ Netflix สามารถหารายได้จากการขายเวลาโฆษณาระหว่างการรับชม ให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ได้
แต่ในความจริงแล้ว ผู้ที่สมัครสมาชิกแพ็กเกจราคาถูก แต่มีโฆษณาแทรกนี้ ยังมีจำนวนที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับจำนวนผู้สมัครสมาชิกของ Netflix ทั้งหมด..
ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ในขณะนี้ รายได้จากการขายเวลาโฆษณา ยังไม่ใช่รายได้ส่วนสำคัญของ Netflix แต่อย่างใด
นอกจากนี้ หากเทียบกับแพลตฟอร์มสตรีมมิงอื่น ๆ ที่มีแพ็กเกจในรูปแบบคล้ายกัน จะพบว่า สามารถดึงดูดให้ผู้ใช้รายใหม่ เลือกสมัครสมาชิกแพ็กเกจในรูปแบบนี้ ได้ดีกว่า Netlfix มาก
อย่างในกรณีของ Disney Plus สามารถดึงดูดให้ผู้ใช้รายใหม่ สมัครสมาชิกแพ็กเกจราคาถูก แต่มีโฆษณาแทรก ได้ในสัดส่วนราว ๆ 36% ของจำนวนสมาชิกใหม่ทั้งหมด ในช่วงเวลาหลังจากเปิดตัวแพ็กเกจนี้ได้ 3 เดือน
ส่วน Netflix ทำได้ที่ราว ๆ 19% เท่านั้น ซึ่งนั่นก็หมายความว่า หาก Netflix ต้องการให้ความสำคัญกับแพ็กเกจนี้จริง
ทั้งในด้านการดึงดูดให้ผู้ใช้ใหม่ ๆ ให้สมัครสมาชิกเพิ่มเติม รวมถึงการสร้างรายได้จากธุรกิจโฆษณา
นั่นก็หมายความว่า Netflix ต้องหาทางสร้างฐานผู้ใช้งานใหม่ ๆ ที่สมัครสมาชิกแพ็กเกจนี้ ให้มากขึ้น..
นั่นก็หมายความว่า Netflix ต้องหาทางสร้างฐานผู้ใช้งานใหม่ ๆ ที่สมัครสมาชิกแพ็กเกจนี้ ให้มากขึ้น..