Apple เตรียมนำเทคโนโลยี Face ID ฝังใต้หน้าจอ มาใช้กับ iPhone 16 Pro ที่จะเปิดตัวในปีหน้า เป็นรุ่นแรก
3 มี.ค. 2023
ที่ผ่านมา เอกลักษณ์สำคัญของ iPhone ยุคใหม่ ก็คือ ติ่งบริเวณด้านบนหน้าจอ (Notch)
ซึ่งเป็นจุดที่รวบรวมเซนเซอร์ต่าง ๆ รวมถึงกล้องหน้า และ Face ID
ซึ่งเป็นจุดที่รวบรวมเซนเซอร์ต่าง ๆ รวมถึงกล้องหน้า และ Face ID
อย่างไรก็ตาม แม้ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max รุ่นล่าสุด ที่เปิดตัวเมื่อช่วงเดือนกันยายน ปี 2022 ที่ผ่านมา Apple จะตัดสินใจลบภาพจำแบบเดิม ๆ ของ iPhone ด้วยการเปลี่ยนไปใช้หน้าจอแบบ Dynamic Island ทดแทนหน้าจอที่มีติ่ง ซึ่งใช้มานานหลายปี
ล่าสุด มีการรายงานจากเว็บไซต์ข่าวด้านเทคโนโลยีในต่างประเทศ ระบุว่าในขณะนี้ Apple ได้ทำการจดสิทธิบัตร เทคโนโลยีหน้าจอ ที่มีการฝังเซนเซอร์ต่าง ๆ ไว้ด้านใน ไม่ว่าจะเป็น เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เซนเซอร์วัดแรงดัน และเซนเซอร์วัดระยะ เป็นต้น
ในสิทธิบัตรฉบับดังกล่าว ยังระบุด้วยว่า เทคโนโลยีการสแกนหน้า Face ID และสแกนลายนิ้วมือ Touch ID ก็สามารถติดตั้งไว้ใต้หน้าจอ ได้เช่นกัน
นอกจากนี้ สิทธิบัตรที่ Apple ทำการจดไว้ ไม่ได้หมายความถึงหน้าจอสำหรับ iPhone เพียงอย่างเดียว แต่ยังหมายถึงหน้าจอสำหรับอุปกรณ์ชนิดอื่น ๆ ด้วย
นั่นก็หมายความว่าในอนาคต เราอาจได้เห็นอุปกรณ์ชนิดอื่น ๆ ของ Apple เช่น iPad ใช้ประโยชน์จากสิทธิบัตรนี้ได้เช่นกัน
โดยหาก Apple มีแผนการนำเทคโนโลยีที่ได้จดสิทธิบัตร มาใช้งานจริง ก็จะทำให้ iPhone ไม่จำเป็นต้องมีติ่งที่หน้าจอ หรือ Dynamic Island อีกต่อไป เพราะเซนเซอร์ต่าง ๆ สามารถฝังไว้ใต้หน้าจอได้ทั้งหมด
ซึ่งจากการรายงานล่าสุด มีการคาดการณ์ว่า Apple ได้วางแผนที่จะใช้เทคโนโลยีเซนเซอร์ฝังใต้หน้าจอ ใน iPhone รุ่นต่าง ๆ ดังนี้
- ปี 2024 iPhone 16 Pro จะใช้เทคโนโลยี Face ID ฝังใต้หน้าจอ
- ปี 2026 iPhone 18 Pro จะใช้เทคโนโลยี Face ID และกล้องหน้า ฝังใต้หน้าจอ
- ปี 2026 iPhone 18 Pro จะใช้เทคโนโลยี Face ID และกล้องหน้า ฝังใต้หน้าจอ
ส่วน iPhone รุ่นธรรมดา ที่ไม่ใช่รุ่น Pro จะได้ใช้เทคโนโลยีทั้ง 2 นี้ ในภายหลัง ตามกลยุทธ์ของ Apple ที่มักใส่เทคโนโลยีล่าสุดของตัวเอง ให้กับ iPhone รุ่น Pro ซึ่งมีราคาแพงกว่าก่อน
และมีการคาดการณ์ด้วยว่า กว่าที่ iPhone ทุกรุ่น จะมีการฝังเซนเซอร์ต่าง ๆ รวมถึงกล้อง ไว้ที่ใต้หน้าจอได้ทั้งหมด ก็คงต้องรอกันจนถึงปี 2027 เลยทีเดียว..