PROSPECT REIT เพิ่มทุนครั้งที่ 1 ปักหมุดลงทุน ในทำเลทองโลจิสติกส์ สร้างโอกาสโต รับเศรษฐกิจฟื้น
16 ก.พ. 2023
ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล หรือ “PROSPECT REIT” ประกาศเพิ่มทุนครั้งที่ 1 เดินหน้าเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติม 2 โครงการศักยภาพสูง
โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 2 (BFTZ 2) และโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 3 (BFTZ 3) พื้นที่ให้เช่ารวมประมาณ 70,129 ตารางเมตร บนทำเลทองถนนบางนา-ตราด ศูนย์กลางโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมของไทย รวมมูลค่าลงทุนไม่เกิน 1,800 ล้านบาท
เสริมแกร่งด้วยพื้นที่คุณภาพ Free Zone หรือเขตปลอดอากร เอื้อต่อผู้ประกอบการที่มีการนำเข้าและส่งออกสินค้า ดึงดูดนักลงทุนขยายธุรกิจรับเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว
คาดการณ์ผลตอบแทนปีแรกสูงถึง 8.29%
ภายหลังเข้าลงทุนคาดจะดันมูลค่าสินทรัพย์แตะ 5,338 ล้านบาท
พร้อมลงทุนรูปแบบกรรมสิทธิ์ (Freehold) ในสัดส่วนที่มากขึ้น เพิ่มเสถียรภาพของกองทรัสต์ในระยะยาว
นางสาวรัชนี มหัตเดชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้พัฒนาและบริหาร ‘โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน (BFTZ)’ ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของกองทรัสต์และผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ เผยว่า
“ช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา พิสูจน์แล้วว่าธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เติบโตแข็งแกร่งสวนกระแส และมีแนวโน้มเติบโตต่อรับทิศทางเศรษฐกิจโลกที่กำลังฟื้นตัวด้วยแรงหนุนสำคัญ ได้แก่ การส่งออกสินค้า การเติบโตของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ตลอดจนการขยายตัวของธุรกิจที่กำลังมาแรง เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ธุรกิจผลิตโซลาร์เซลล์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
รวมถึงนักลงทุนต่างชาติที่เล็งย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศจีนมายังประเทศไทย เพื่อลดความเสี่ยงด้านซัปพลายเชน เมื่อดีมานด์ส่วนนี้เพิ่มขึ้น ธุรกิจคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าจึงได้รับอานิสงส์ โดยเฉพาะพื้นที่ทำเลทองของภาคอุตสาหกรรมในโซน บางนา-ตราด
โดยโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 1 (BFTZ 1) ซึ่งตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม.23 ส่วนหนึ่งเป็นทรัพย์สินใน PROSPECT REIT ขณะนี้มีผู้เช่าเกือบเต็มพื้นที่ทั้งหมดของโครงการ”
จากความต้องการใช้งานอาคารในโครงการ BFTZ 1 มีอัตราที่สูงมาโดยตลอด ตอกย้ำรากฐานแข็งแกร่งทั้งทำเลศักยภาพ มีพื้นที่เขต Free Zone และอาคารคุณภาพสูง ที่สามารถตอบโจทย์ได้หลากหลายอุตสาหกรรม
แม้ว่าพื้นที่โดยรอบโซน บางนา-ตราด เป็นบริเวณที่ตั้งโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าอยู่หลายแห่ง แต่พื้นที่เขต Free Zone ขนาดใหญ่เท่ากับโครงการบางกอกฟรีเทรดโซนนั้นมีไม่มาก เป็นอีกหนึ่งแต้มต่อที่สนับสนุนศักยภาพการเติบโตของโครงการ BFTZ 1 ให้เติบโตได้ในทุกสถานการณ์
และด้วยความต้องการการใช้พื้นที่โรงงานและคลังสินค้าในโซนนี้ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จึงได้พัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง อาทิ BFTZ 2 ถนนเทพารักษ์ และ โครงการ BFTZ 3 ถนนบางนา-ตราด กม.19 เป็น 2 โครงการใหม่ ที่กองทรัสต์ PROSPECT REIT กำลังจะเข้าลงทุน
และยังมีขยายโครงการไปยังจุดยุทธศาสตร์อุตสาหกรรม บริเวณภาคกลางตอนบน และระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) รับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมและนโยบายส่งเสริมการลงทุน
ในปัจจุบันโครงการภายใต้การบริหารจัดการ มีพื้นที่รวมประมาณ 1,000,000 ตารางเมตร
ปัจจุบัน PROSPECT REIT มีทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ BFTZ 1 ถนนบางนา-ตราด กม. 23 และโครงการ X44 Bangna KM.18 ซึ่งมีพื้นที่อาคารคลังสินค้าและโรงงานให้เช่ารวม 222,203 ตารางเมตร
ในส่วนของทรัพย์สินที่ PROSPECT REIT จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมจำนวน 2 โครงการ เป็นทรัพย์สินของ บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ได้แก่
1) โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 2 (BFTZ 2) ถนนเทพารักษ์ มีพื้นที่เช่า 20,996 ตารางเมตร เป็นอาคารสำเร็จรูป Ready Built จำนวน 12 ยูนิต แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ คลังสินค้า โรงงานแบบ Stand-alone และโรงงานขนาดเล็ก เป็นการลงทุนในรูปแบบสิทธิการเช่า ระยะเวลาลงทุนไม่เกิน 28 ปี
2) โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 3 (BFTZ 3) ถนนบางนา-ตราด กม.19 มีพื้นที่เช่า 49,133 ตารางเมตร ประกอบด้วยอาคารคลังสินค้าสำเร็จรูป 23 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ Free Zone ทั้งหมด เป็นการลงทุนในรูปแบบกรรมสิทธิ์
โดยนับตั้งแต่ก่อตั้งกองทรัสต์ ทรัพย์สินภายใต้การบริหารของ PROSPECT REIT มีอัตราการเช่าไม่เคยต่ำกว่า 90% ล่าสุดอัตราเช่า ณ สิ้นปี 2565 สูงถึง 93% และมีอัตราการต่อสัญญา ปี 2565 อยู่ที่ 97%
พร้อมผู้เช่ากระจายตัวในหลายกลุ่มอุตสาหกรรมที่จำเป็นต่อการอุปโภค-บริโภค เช่น ธุรกิจอาหาร กระดาษ รีไซเคิล ชิ้นส่วน ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ จากหลากหลายสัญชาติ อาทิ ญี่ปุ่นไทย จีนฝรั่งเศส และอเมริกัน
ทำให้ผลการดำเนินงานปี 2565 ยังโดดเด่นต่อเนื่อง ด้วยรายได้ 445.21 ล้านบาท และกำไรจากการลงทุนสุทธิ 284.83 ล้านบาท
ล่าสุดจ่ายเงินออกให้ผู้ถือหน่วยอยู่ที่ 0.2200 บาทต่อหน่วย รวมทั้งปีคิดเป็น 0.9025 บาทต่อหน่วย
ภายหลังการเพิ่มทุนและเข้าลงทุนเพิ่มเติม กองทรัสต์จะมีทรัพย์สินภายใต้การบริหารรวม 292,332 ตารางเมตร คาดว่าจะมีมูลค่าสินทรัพย์ตามงบการเงินของกองทรัสต์เพิ่มจาก 3,538 ล้านบาท เป็น 5,338 ล้านบาท
หลังเพิ่มทุนครั้งนี้เสร็จสิ้น ผู้จัดการกองทรัสต์ พร้อมเดินหน้าศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินคุณภาพต่อเนื่อง ทั้งจากผู้สนับสนุนหลักของกองทรัสต์ที่มีการขยายโครงการไปยังจุดยุทธศาสตร์อุตสาหกรรม ทั้งภาคกลางตอนบนและระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)
และทรัพย์สินจากผู้พัฒนาโครงการรายอื่น เข้าสู่กองทรัสต์หลังจากนี้ด้วยเช่นกัน
ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์เป็น 10,000 ล้านบาทภายในปี 2567
PROSPECT REIT จะทำการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมจำนวนไม่เกิน 130,000,000 หน่วย โดยเสนอขายให้แก่ผู้ถือหน่วยเดิมที่มีสิทธิจองซื้อหน่วยทรัสต์ที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ไม่เกิน 117,000,000 หน่วย กำหนดอัตราส่วนใช้สิทธิ์จองซื้อที่ 1 หน่วยทรัสต์เดิม ต่อ 0.4775 หน่วย
ทรัสต์ที่ออกและเสนอขายเพิ่มเติม เสนอขายในระหว่างวันที่ 8-14 มีนาคม 2566 จองซื้อที่ราคาสูงสุด 9.7 บาทต่อหน่วยทรัสต์ โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XR ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566
สามารถจองซื้อได้ที่สำนักใหญ่ของบริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ จำกัด หรือช่องทาง online ทาง www.tiscosec.com และจะเปิดให้บุคคลทั่วไปจองซื้อหน่วยทรัสต์ระหว่างวันที่ 16-20 มีนาคม 2566 ที่สำนักงานของผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ หรือช่องทางอื่น ๆ ตามที่ผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์กำหนด
และคาดว่าบริษัทฯ จะนำหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในเดือนมีนาคม 2566
Tag:PROSPECT REIT