V Precision Clinic เผย คนไทยหันมาดูแลตัวเอง แบบเชิงป้องกัน ส่งตลาดเวชศาสตร์ชะลอวัย โต 70%

V Precision Clinic (วี พรีซิชั่น คลินิก) คลินิกแพทย์ทางเลือก ด้านการแพทย์ศาสตร์ชะลอวัยและการแพทย์ที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยทีมแพทย์และทีมบริหารจากโรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน)

เผยพฤติกรรมคนไทยใส่ใจสุขภาพเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะวัย 40 ถึง 60 

จากปัจจัยการเกิดโรคระบาด และปัญหาเรื่องฝุ่น PM 2.5 รวมถึงความตระหนักในการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ส่งเสริมให้เทรนด์การดูแลสุขภาพ ที่เน้นการป้องกันมากกว่าการรักษา “เติบโต”

โดยเฉพาะตลาดด้านเวชศาตร์ชะลอวัย ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น 30% จากช่วงก่อนเกิดโรคระบาด และมีแนวโน้มเติบโตขึ้น 70% ในปีนี้

พท.นพ.ธรณัส กระต่ายทอง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การชะลอวัย คลินิกการแพทย์ทางเลือกเพื่อสุขภาพ V Precision Clinic ภายใต้การดูแลของ บริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

ปัจจุบัน ด้วยวิทยาการทางการแพทย์ที่ล้ำหน้า และเทคโนโลยี Anti Aging ที่ทันสมัย ทำให้ Mindset ของคนส่วนใหญ่ มีมุมมองเรื่องอายุเปลี่ยนไป นั่นคือการมองว่า “ความชราเป็นโรคหนึ่ง” แต่ก็ป้องกันหรือชะลอวัยได้

โดยทุกวันนี้ คนไม่ได้มองสาระสำคัญของการมีอายุที่มากขึ้น แต่จะเห็นว่าคนให้ความสำคัญกับการมีสุขภาพที่ดีจากภายใน

ดังนั้น เทรนด์การดูแลสุขภาพแบบชะลอวัย จึงได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และเราก็เริ่มเห็นผลลัพธ์ของการดูแลตัวเองของคนดังมากมาย ที่ดูอ่อนกว่าวัยและสุขภาพดี

สำหรับที่ V Precision Clinic ต้องบอกว่าได้รับความนิยมอย่างสูงและเติบโตอย่างมั่นคงในช่วงปี 2565 ที่ผ่านมา มีคนไข้มาใช้บริการมากกว่า 6,000 คน แบ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเพศหญิง 60% และเพศชาย 40%

นับเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด เนื่องจากเราเพิ่งเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในชื่อ V Precision Clinic ได้เพียงระยะเวลา 1 ปี

โดยแยกตัวออกมาจากแผนกเวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลวิภาวดี เพื่อรองรับการเติบโตของลูกค้าที่มากขึ้น ซึ่งในปีที่ผ่านมาสามารถทำรายได้รวมกว่า 100 ล้านบาท

จุดเด่นของ V Precision Clinic คือการวางรูปแบบการดูแลสุขภาพคนไข้แบบ Reverse Aging หรือ การชะลอวัยแบบย้อนกลับ ที่มาพร้อมการรักษาแบบ

- New Way to Heal เน้นการรักษาเฉพาะบุคคล ได้แก่ Personalized Medicine หรือ Tailor made เป็นการดิไซน์การรักษาแบบเฉพาะบุคคล ซึ่งแต่ละคนจะถูกวางแผน ในการตรวจหาและรักษาที่ไม่เหมือนกัน

- Dig to Deep หรือ Functional Medicine เป็นการหาสาเหตุของการเกิดโรคนั้น ๆ เพราะว่าโรคที่เกิดขึ้นกับแต่ละคนจะมีสาเหตุที่ไม่เหมือนกัน

- Cutting Edge of Technology โดยการใช้เทคโนโลยีหรือการแพทย์ ที่นอกเหนือจากการรักษาในโรงพยาบาล เช่น การตรวจแบบ Functional ที่เป็นการตรวจแลปพิเศษ ที่ต้องส่งผลไปที่อเมริกา ออสเตรเลีย หรือฮ่องกง

ซึ่งเป็นแลปเฉพาะทาง รวมทั้งการตรวจยีนส์ ในทาง Genetic เพื่อเอามา Match วางแผนในการรักษาต่อไป

สำหรับเทรนด์สุขภาพและความงามในปีนี้ นายแพทย์ธรณัส กล่าวว่า

ปลายปีที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปร่วมอัปเดตเทรนด์การแพทย์สมัยใหม่ที่สหรัฐอเมริกา เทรนด์สุขภาพจะเน้นไปที่การดูแลสุขภาพด้วย Cellular Medicine หรือ Advance Medicine ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรงมาก

อย่างเทคโนโลยี Cryotherapy การบำบัดด้วยความเย็นจัด มีนักแสดงฮอลลีวู้ดซื้อเครื่องนี้ไปใช้งานที่บ้าน เพื่อดูแลสุขภาพของตัวเอง

ซึ่งอาจจะไม่ใช่การรักษาแบบเดิมที่เราคุ้นชินกันอีกต่อไป โดยทางเราก็ได้มีการอัปเดตนวัตกรรมและนำเข้าเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อมาใช้รักษาและปรับใช้กับคนไข้ในปีนี้ เช่น

1) Cryotherapy

การบำบัดด้วยความเย็นจัด ช่วยในเรื่องของการลดอาการอักเสบ บาดเจ็บ
ลดน้ำหนัก ช่วยให้ผิวพรรณสดใส โดยใช้เวลาเพียง 3 นาทีในการเข้ารับการบำบัด

2) Weber IV Laser Therapy

การรักษาแบบ Light Therapy หรือ Low Power Light Therapy ก็คือการใช้ศักยภาพของแสงเลเซอร์ที่มีความแตกต่างกันในแต่ละ Wave Range เพื่อเอามารักษาแล้วก็บำบัดในหลาย ๆ โรค

เช่น คนไข้มีภาวะอ่อนเพลีย หรือต้องการในเรื่องของชะลอวัย ก็จะใช้แสงสีแดง เป็นตัวที่กระตุ้นพลังงานของเม็ดเลือดแดง เลือดขาว แล้วก็สร้างพลังงานให้กับเซลล์ในร่างกาย

ส่วนคนที่มีปัญหาเรื่องของระบบภูมิต้านทานไม่แข็งแรง อ่อนแอ เราก็จะใช้แสงเลเซอร์สีฟ้าเป็นตัวที่กระตุ้นภูมิ เพื่อที่จะให้ภูมิแข็งแรงขึ้น หรือการใช้แสงเลเซอร์สีเหลือง ซึ่งเป็นแสงสีเดียว กับแสงแดดในการกระตุ้นการสร้างวิตามินดีให้กับร่างกาย

3) Hyperbaric Chamber

คือเครื่องบำบัดด้วยออกซิเจนความกดอากาศสูง ที่จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย  เพิ่มประสิทธิภาพในการนอนหลับได้ดียิ่งขึ้น

และยังช่วยในเรื่องทำให้ผิวพรรณสดใสขึ้น ลดอาการบวมอักเสบ แผลกดทับ และช่วยลดอาการหูดับได้อีกด้วย