กลุ่มไมเนอร์ เข้าลงทุนแบรนด์ชานม “GAGA” ในสัดส่วน 50.1% เสริมแกร่งพอร์ต ลุยตลาดชาไข่มุก

ล่าสุดบริษัท ไมเนอร์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ได้มีการประกาศร่วมทุนกับ บริษัท กาก้า เบฟเวอร์เรจส์ (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของแบรนด์ชานมไข่มุกชื่อดัง “GAGA” ในสัดส่วนทั้งสิ้น 50.1%

โดยคุณดิลลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม MINT ได้บอกว่า

มีความยินดีที่ GAGA จะได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของร้านอาหารในเครือ และพร้อมที่จะทำงานร่วมกับเจ้าของแบรนด์ โดยเล็งเห็นโอกาสที่จะขยายธุรกิจของ GAGA ทั้งในและต่างประเทศ

และชื่อว่าแบรนด์ที่มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งของ GAGA นี้ จะช่วยส่งเสริมธุรกิจร้านอาหารของกลุ่มไมเนอร์ ให้เติบโตยิ่งขึ้น

ทางด้านของคุณอันหุล เชาฮาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไมเนอร์ ฟู้ด ได้กล่าวว่า ด้วยชื่อเสียง และกระแสตอบรับที่ดีของแบรนด์ทั้งในช่องทำงออฟไลน์และออนไลน์

ทำให้ GAGA มีศักยภาพในการขยายธุรกิจที่สูง และบริษัทตั้งเป้าที่ขะขยายสาขาในประเทศเพิ่มเติม จากที่มีอยู่แล้ว 29 แห่ง

พร้อมทั้งจะใช้ประโยชน์จากการที่ไมเนอร์ฟู้ด ดำเนินธุรกิจอยู่แล้วในหลายประเทศ เพื่อต่อยอดในการนำแบรนด์ GAGA เข้าสู่ตลาดใหม่ ทั้งในทวีปเอเชีย และตะวันออกกลาง

น่าสนใจว่าการเข้าลงทุนใน GAGA ของไมเนอร์ ครั้งนี้ น่าจะเสริมความหลากหลายให้กับพอร์ตธุรกิจอาหารในเครือไมเนอร์ ได้พอสมควร

เพราะที่ผ่านมา ตลาดชานมไข่มุกทั่วโลก ก็ใหญ่ขึ้น จนมีการคาดการณ์ว่า จะมีมูลค่าตลาดรวมราว 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.4 แสนล้านบาท) คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ย 9.3% ต่อปี

ส่วนในไทย ก็มีการคาดการณ์ว่า ตลาดชานมไข่มุก มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 4,000 ล้านบาท
อีกทั้งประเทศไทย ยังติดอันดับ 5 ประเทศ ที่มีการเติบโตของตลาดชานมไข่มุก สูงสุดอีกด้วย..

ซึ่งการลงมาเล่นในตลาดชาไข่มุกของเครือไมเนอร์ ที่เป็นผู้บริหารเชนร้านอาหารชื่อดัง ที่คุ้นหูคนไทย อย่างเช่น The Pizza Company, Burger King, Bonchon, Sizzler, Swensen's และ Dairy Queen จึงถือเป็นอะไรที่น่าติดตาม