BTS แจ้งปรับขึ้นราคาในรอบ 5 ปี เริ่มต้น 17 บาท แพงสุด 62 บาท มีผลปีหน้า
30 พ.ย. 2022
ล่าสุด นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 บริษัทฯ จะปรับราคาค่าโดยสารที่เรียกเก็บสำหรับรถไฟฟ้าบีทีเอส
ในเส้นทางสัมปทานระยะทาง 23.5 กิโลเมตร 24 สถานี ได้แก่ สายสุขุมวิท (สถานีหมอชิต - สถานีอ่อนนุช) และสายสีลม (สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ - สถานีสะพานตากสิน)
รวมถึงส่วนต่อขยายสายสีลม สถานีกรุงธนบุรี และสถานีวงเวียนใหญ่
รวมถึงส่วนต่อขยายสายสีลม สถานีกรุงธนบุรี และสถานีวงเวียนใหญ่
จากราคา 16 - 44 บาท ปรับเป็น 17 - 47 บาท
ทั้งนี้ การปรับราคาค่าโดยสารใหม่นั้น ยังต่ำกว่าเพดานอัตราค่าโดยสารสูงสุดตามสัญญาสัมปทาน ซึ่งอยู่ในอัตรา 21.52 - 64.53 บาท
ซึ่งในการปรับขึ้นราคาครั้งนี้ มีผลทำให้ค่าโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งสาย (รวมส่วนต่อขยาย 1 ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง และช่วงสะพานตากสินบางหว้า)
จากเดิมอยู่ที่ 59 บาท จะเพิ่มขึ้นเป็น 62 บาท..
จากเดิมอยู่ที่ 59 บาท จะเพิ่มขึ้นเป็น 62 บาท..
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้เปิดให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสมาตั้งแต่ปี 2542 เป็นเวลา 23 ปี มีการปรับราคาเพียง 3 ครั้งเท่านั้น
โดยการปรับราคาครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2560 ปรับจาก 15 - 42 บาท เป็น 16 - 44 บาท จนถึงปัจจุบัน ซึ่งผ่านมากว่า 5 ปีแล้วที่บริษัทฯ ยังไม่ได้มีการปรับราคาค่าโดยสารพื้นฐานที่เรียกเก็บ
ซึ่งสัญญาสัมปทานกำหนดให้บริษัทฯ สามารถปรับค่าโดยสารที่เรียกเก็บได้ทุก ๆ 18 เดือน โดยไม่เกินเพดานอัตราค่าโดยสารสูงสุด
แต่เนื่องจากบริษัทฯ ได้คำนึงถึงผลกระทบของประชาชนจึงได้มีการชะลอการปรับอัตราค่าโดยสาร อย่างต่อเนื่อง
และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือ ผลกระทบจากสถานการณ์อัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้ราคาต้นทุนสินค้า โดยเฉพาะด้านพลังงาน อัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ที่สูงขึ้น, อัตราค่าจ้างแรงงานที่ปรับเพิ่มขึ้น
อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการด้านต่าง ๆ เช่น ค่าซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า ที่มีจำนวนรถไฟฟ้าให้บริการสูงสุดถึง 98 ขบวน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งนี้ทางบริษัทฯ ได้พยายามตรึงราคาค่าโดยสารมาโดยตลอด
สำหรับผู้โดยสารที่ใช้บัตรโดยสารเที่ยวเดียว (Single Journey Card), บัตรแรบบิทบุคคลทั่วไป (Adult) และบัตรแรบบิทนักเรียน นักศึกษา (Student)
จะยังคิดอัตราเดิมจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 และจะเริ่มคิดอัตราค่าโดยสารใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป
จะยังคิดอัตราเดิมจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 และจะเริ่มคิดอัตราค่าโดยสารใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป
ส่วนบัตรแรบบิทสำหรับผู้สูงอายุ (Senior) จะยังคงได้รับส่วนลด 50% ของอัตราค่าโดยสารปกติ
และสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางแบบไม่จำกัดเที่ยว และระยะทางต่อวัน สามารถซื้อบัตรโดยสารประเภทหนึ่งวัน (One-Day Pass) ในราคา 150 บาท