โอกิลวี่ ประเทศไทย แต่งตั้ง จิรวรา วีรยวรรธน ขึ้นเป็น CEO คนใหม่
22 พ.ย. 2022
โอกิลวี่ ประเทศไทย ประกาศแต่งตั้ง จิรวรา วีรยวรรธน ขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่
ซึ่งคุณจิรวรา จะเข้ามาดูแลธุรกิจของโอกิลวี่ ทั้งในด้านผลประกอบการ ด้านการบริหารคน ด้านการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า
ซึ่งคุณจิรวรา จะเข้ามาดูแลธุรกิจของโอกิลวี่ ทั้งในด้านผลประกอบการ ด้านการบริหารคน ด้านการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า
และด้านกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ผนวกกับดาต้าและเทคโนโลยี เพื่อสร้างอิมแพคให้กับธุรกิจ คน และสังคม
ทั้งนี้ คุณจิรวรา เริ่มงานที่โอกิลวี่ในปี 2538 และได้รับการโปรโมตให้รับตำแหน่งสำคัญต่าง ๆ ซึ่งรวมทั้งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของโอกิลวี่ในปี 2559 หลังจากรับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของ โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ มาก่อนหน้านั้นเป็นเวลา 8 ปี
คุณจิรวรา เป็นนักบริหารที่มากด้วยประสบการณ์ในการดูแลให้คำปรึกษาด้านการตลาดและการสื่อสารให้บริษัทและองค์กรขนาดใหญ่ระดับประเทศและระดับโลกในหลากหลายธุรกิจ
ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารและโภชนาการ รีเทล สุขภาพและความงาม แฟชั่น เทคโนโลยี ไปจนถึงองค์กรภาครัฐและองค์กรไม่แสวงหากำไรต่าง ๆ
ตลอดเวลา 27 ปีที่ร่วมงานกับโอกิลวี่ คุณจิรวรา ได้แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในแบรนด์และธุรกิจของลูกค้า รวมทั้งความคิดและความต้องการของผู้บริโภค
และสามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ร่วมกับดาต้าและเทคโนโลยีเปลี่ยนทุก ๆ ความท้าทายเป็นความสำเร็จ
คุณจิรวรา ยังได้เขียนบทความลงสื่อชั้นนำด้านธุรกิจและไลฟ์สไตล์ และได้ตีพิมพ์หนังสือหลายเล่มในหัวข้อการพัฒนาตนเองและภาวะผู้นำ
และยังได้รับเชิญจากสื่อและงานสัมมนาต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อไปให้ความรู้ในเรื่องการสื่อสารและการบริหารคนอยู่เสมอ เช่น แชร์มุมมองการนำองค์กรข้ามผ่านการเปลี่ยนแปลงให้กับสื่อด้านเทคโนโลยีระดับเอเชีย
อีกทั้งได้รับเลือกจากสื่อด้านธุรกิจและการตลาดชื่อดังของเอเชียแปซิฟิก ให้เป็นหนึ่งใน Women to Watch หรือผู้บริหารหญิงที่มีความสามารถเป็นที่น่าจับตามองของเอเชีย
รวมถึงได้รับเชิญไปเป็นกรรมการตัดสินรางวัลในระดับนานาชาติ และสอนหนังสือในระดับอุดมศึกษาในหัวข้อการตลาดยุคใหม่ การสร้างแบรนด์บุคคล และการบริหารจัดการภาวะวิกฤติ
คุณจิรวรา กล่าวว่า “เรามีความเชื่อมาตลอดว่า สิ่งที่ทำให้เราแตกต่าง คือการใช้ความคิดสร้างสรรค์สร้างการเปลี่ยนแปลง เพื่อตอบทุกโจทย์ของลูกค้า ตั้งแต่ขั้นตอนในการหาอินไซต์ ไปจนถึงการสร้างงาน
ดังนั้น ไม่ว่าเทรนด์หรือกระแสจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ตราบใดที่เรามีความเข้าใจและความเชี่ยวชาญในการใช้ความคิดสร้างสรรค์พลิกแพลงวิธีการ บวกกับความเข้าใจในแบรนด์ลูกค้า และผู้บริโภค เราก็จะสามารถสร้างงานที่มีอิมแพคอย่างแท้จริงได้
“สิ่งที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะทำต่อจากนี้ ก็คือการนำความเชื่อนี้แผ่ขยายไปให้ถึงลูกค้าและพาร์ตเนอร์ของเรา
ด้วยสภาพเศรษฐกิจและสังคมทั้งของไทยและของโลกที่มีความผันผวนตลอดเวลา เราจะต้องสร้างความแตกต่างด้วยงานที่ยอดเยี่ยมที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้
ด้วยสภาพเศรษฐกิจและสังคมทั้งของไทยและของโลกที่มีความผันผวนตลอดเวลา เราจะต้องสร้างความแตกต่างด้วยงานที่ยอดเยี่ยมที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้
รวมทั้งวิธีการทำธุรกิจที่เปลี่ยนไปจากเดิม เพื่อที่จะช่วยลูกค้าเราให้เติบโตท่ามกลางความไม่แน่นอน เราจะโฟกัสบนการสร้างงานที่มีอิมแพคใน 3 ด้าน คือ
ด้านคน (Impact for People) แสดงให้เห็นชัดเจนว่าสินค้าและบริการของเราทำให้ชีวิตคนดีขึ้นหรือง่ายขึ้นอย่างไร
ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม (Impact for Planet) ถ่ายทอดให้เห็นบทบาทของแบรนด์ที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนสังคมและสิ่งแวดล้อมไปในทิศทางที่ดีขึ้น
และด้านธุรกิจ (Impact for Performance) ที่จะยังคงสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับแบรนด์ไปพร้อม ๆ กัน”