Disney+ ทดสอบฟีเจอร์ใหม่ ขายสินค้าลิขสิทธิ์จากภาพยนตร์ดัง ซื้อได้ก่อนใคร แต่ต้องเป็นสมาชิกเท่านั้น
2 พ.ย. 2022
จะเกิดอะไรขึ้น หากสิ่งที่ดึงดูดให้ลูกค้า ยอมเสียเงินสมัครสมาชิกแพลตฟอร์มสตรีมมิง ไม่ใช่ภาพยนตร์ ซีรีส์ หรือรายการ ซึ่งเป็น “คอนเทนต์” เฉพาะของแพลตฟอร์มอีกต่อไป แต่เป็นสินค้าลิขสิทธิ์จากคอนเทนต์ดัง ที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
กลยุทธ์การดึงดูดผู้ชมที่ว่านี้ กำลังจะเกิดขึ้นจริงแล้ว กับแอปพลิเคชัน Disney+ ที่เริ่มทำการทดสอบฟีเจอร์ใหม่กับผู้ใช้งานกลุ่มเล็ก ๆ โดยวางจำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์จากภาพยนตร์ชื่อดัง เช่น Star Wars, Black Panther, Lightyear และ Frozen
โดยสินค้าลิขสิทธิ์นี้ มีทั้งที่เป็น เสื้อผ้า ของเล่น และของสะสม และมีความพิเศษอยู่ตรงที่ สมาชิก Disney+ จะได้สิทธิ์ในการเลือกซื้อก่อน แล้วจึงนำสินค้าเดียวกันนี้วางจำหน่ายในช่องทางอื่น ๆ ตามหลัง
แม้ Disney เลือกที่จะทดสอบฟีเจอร์ใหม่นี้ กับผู้ใช้งาน Disney+ เพียงกลุ่มเล็ก ๆ แต่สินค้าที่วางจำหน่าย กลับหมดอย่างรวดเร็ว เช่น
- ดาบ Lightsabers ที่สามารถเล่นเสียงของนักแสดง Star Wars ได้ ในราคา 400 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 15,100 บาท)
- ตุ๊กตา Ahsoka Tano ในราคา 50 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,800 บาท)
โดยผู้ใช้งาน Disney+ สามารถสแกน QR Code เพื่อสั่งซื้อสินค้าลิขสิทธิ์นี้ได้ทันทีขณะรับชม
- ทำไม Disney+ ต้องขายสินค้าสิขสิทธิ์ ?
สาเหตุที่ทำให้ Disney ต้องทำการทดสอบฟีเจอร์ขายสินค้าลิขสิทธิ์ ให้กับผู้รับชม Disney+ เป็นเพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมา การแข่งขันระหว่างแพลตฟอร์มสตรีมมิงต่าง ๆ เป็นไปอย่างดุเดือด
ดังนั้น Disney ในฐานะเจ้าของแพลตฟอร์ม จึงต้องหากลยุทธ์ใหม่ ๆ ในการดึงดูดให้ลูกค้า ต่ออายุสมาชิก Disney+ ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
และการขายสินค้าลิขสิทธิ์ ก่อนช่องทางอื่น ๆ ก็เป็นอีกกลยุทธ์ที่น่าสนใจ เช่นเดียวกันกับการสร้างคอนเทนต์ที่ช่วยดึงดูดผู้ชม
เพราะอย่าลืมว่า การแข่งขันระหว่างแพลตฟอร์มสตรีมมิงต่าง ๆ ทำให้จำนวนสมาชิกของแต่ละแพลตฟอร์มลดลง เพราะตัวเลือกที่มีมากขึ้น