แมกซ์ โซลูชัน จับมือ กรุงศรี สร้างประสบการณ์การชำระเงินแบบไร้รอยต่อ ผ่าน Max Me Wallet

เพื่อตอบรับกับยุคสังคมไร้เงินสด หรือ Cashless Society ล่าสุด แมกซ์ โซลูชัน ได้จับมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง กรุงศรี เพื่อสร้างประสบการณ์ทางการเงินรูปแบบใหม่ ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล (e-Wallet) บนแอปพลิเคชัน Max Me ซึ่งเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบเป็นที่เรียบร้อย

จุดเริ่มต้นของความร่วมมือในครั้งนี้ เกิดขึ้นได้อย่างไร ?

คุณพร้อมศักดิ์ จรัญญากรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด บริษัทในเครือพีทีจี ได้กล่าวว่า เริ่มต้นจากการที่เรามีเป้าหมาย ให้ลูกค้าทุกคนได้สัมผัส และเข้าถึงโซลูชันการซื้อสินค้าและบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ ๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์

โดยเราเชื่อมั่นว่า ด้วยศักยภาพความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีทางการเงินของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จะเป็นหัวใจสำคัญที่มาเติมเต็มความสดใหม่ให้แก่ลูกค้าในทุก ๆ การใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้า การชำระค่าสินค้าและบริการ หรือแม้กระทั่งการโอนเงิน ผ่าน Max Me Wallet ให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยที่สุด

นอกจากนั้น นโยบายการดำเนินธุรกิจของเรา คือ ต้องการก้าวข้ามทุกข้อจำกัด ในฐานะผู้นำกลุ่มธุรกิจด้านพลังงานแบบครบวงจร สู่บริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตผู้คนในทุกช่วงเวลา ควบคู่ไปกับการสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจนอนออยล์ (Non-oil) ให้เติบโตในยุคดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน (Digital Transformation)

ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 1 ปีที่ผ่านมา บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด ได้มอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าผู้ถือบัตร Max Card จำนวนกว่า 18 ล้านสมาชิก ด้วยสิทธิประโยชน์แบบครบวงจร (One Stop Service) ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำเร็จ และการตอบรับที่ดีเกินความคาดหมายจากลูกค้าทั่วประเทศ

แล้ว Max Me Wallet จะทำให้ชีวิตของลูกค้าผู้ถือบัตร Max Card ง่ายขึ้นได้อย่างไร ?

คุณนิลวรรณ จีระบุญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ธุรกรรมการเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การพัฒนาโซลูชันการชำระเงินให้กับ Max Me Wallet นี้เราให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ในการสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดี ให้กับลูกค้าผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน เพื่อให้สามารถทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์มได้อย่างครบครันแบบไร้รอยต่อ

โดยลูกค้าสามารถเติมเงินเข้า e-Wallet โอนเงินออกไปยังบัญชีธนาคาร และชำระเงินด้วยการสแกนจ่ายได้ง่าย ๆ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย บนมาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากล

อย่างไรก็ตาม โซลูชันทางการเงินที่กรุงศรีได้ร่วมออกแบบให้กับแมกซ์ โซลูชัน เป็นหนึ่งใน “จิกซอว์” ที่จะนำไปสู่การสร้าง “รากฐาน” ในด้านการเงินดิจิทัล ซึ่งเป้าหมายจะสำเร็จได้ ก็ต้องประกอบไปด้วยแผนกลยุทธ์

ทั้งนี้ กรุงศรีได้วางแผนธุรกิจระยะเวลา 3 ปี ครอบคลุมตั้งแต่ปี 2564-2566 ด้วยการตั้งเป้าหมายสู่การเป็น “ธนาคารที่ตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจของลูกค้าทั่วทั้งภูมิภาค” ไม่เพียงเฉพาะในประเทศเท่านั้น

โดยหนึ่งในหัวใจหลักก็คือ การออกแบบบริการธุรกรรมทางการเงินร่วมกับพาร์ตเนอร์ ครอบคลุมในทุก ๆ อุตสาหกรรมดิจิทัล เช่น Money Exchange, Home Solution, Delivery Company และ Startup Company เพื่อช่วยให้การบริหารจัดการการเงินของลูกค้าเป็นไปอย่างราบรื่นและเกิดประสบการณ์ที่หลากหลาย

และสำหรับในปีนี้ กรุงศรีได้ให้ความสำคัญกับ 3 เรื่องหลัก คือ

1) การสร้างเครือข่าย และเดินหน้าพัฒนาความร่วมมือที่สามารถเชื่อมโยงตลาดในอาเซียน (ASEAN Connectivity)

2) การให้บริการที่เป็นมากกว่าสถาบันการเงิน ในฐานะพันธมิตรที่ลูกค้าไว้วางใจ (Trust Partner)

3) การนำดิจิทัลเทคโนโลยีมาใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจ (Digital and Innovation)

นอกจากนั้น ในช่วงที่ผ่านมา กรุงศรีได้นำเทคโนโลยี API (Application Program Interface) เข้ามาเป็นตัวช่วยในการเชื่อมต่อระหว่างลูกค้าและธนาคาร ทำให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลมีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากขึ้น

อย่างเช่น โซลูชัน e-Wallet นี้ ก็เป็นการนำเอา เทคโนโลยี API มาใช้งานในการเชื่อมต่ออยู่เบื้องหลัง ซึ่งจากเดิมที่ผู้ถือบัตร Max Card เป็นผู้ใช้รายย่อยจำนวนมาก ที่ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง มีการให้บริการบัตรสมาชิก สิทธิพิเศษและการสะสมแต้มเพื่อแลกเป็นส่วนลดหรือของรางวัลต่าง ๆ เมื่อกลยุทธ์ในการทำธุรกิจปรับเปลี่ยนไปเป็นการสร้างประสบการณ์ทางการเงินดิจิทัลมากขึ้น ธนาคารจึงเข้ามาเติมเต็มในส่วนนี้ได้ การทำรายการทางการเงินต่าง ๆ จึงเกิดขึ้น เช่น การเติมเงิน ซึ่งผู้ใช้บริการรายย่อยเองสามารถใช้ช่องทางของธนาคาร ไม่ว่าจะเป็น Mobile Banking Application, Internet Banking หรือแม้กระทั่ง ตู้ ATM ก็สามารถเติมเงินเข้า e-Wallet ได้ อีกทั้งยังสามารถนำ Max Me Wallet ไปใช้จ่ายชำระค่าสินค้าและบริการ ได้เสมือนเป็น Application ของธนาคารทั่วไป ง่าย สะดวก รวดเร็ว ครบวงจรการชำระเงิน

จะเห็นว่ากรุงศรีได้พัฒนาและวางรากฐานทางการเงินดิจิทัลมาอย่างต่อเนื่อง เพราะกรุงศรีมองเห็นว่า เทรนด์ในด้านบริการธุรกรรมทางการเงินได้เปลี่ยนไปแล้ว

ธนาคารจะกลายเป็นฟันเฟืองสำคัญ ที่ทำให้การรับ-จ่ายเงินของลูกค้า สามารถทำธุรกรรมได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว ด้วยข้อมูลที่เชื่อมต่อกันได้แบบไร้รอยต่อ ผ่านทางออนไลน์ ซึ่งก็คือยุคของการก้าวเข้าสู่สังคมดิจิทัลอย่างแท้จริง..