ถอดความสำเร็จ Love Andaman ผู้ปฏิวัติวงการทัวร์ ที่เคยถูกหัวเราะเยาะมาก่อน จนสร้างรายได้หลัก 100 ล้าน
16 ก.ย. 2022
หากจะพูดถึงการท่องเที่ยวทะเลอันดามัน ในประเทศไทย หลายคนคงนึกถึงความสวยงามของหมู่เกาะพีพี, หินเรือใบที่ตัดกับพื้นน้ำสีฟ้าครามของหมู่เกาะสิมิลัน และโลกใต้ทะเลอันอุดมสมบูรณ์ของหมู่เกาะสุรินทร์
ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมา ล้วนเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก
และสร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศไทยในแต่ละปี..
และสร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศไทยในแต่ละปี..
ยกตัวอย่างง่าย ๆ แค่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 ภูเก็ตจังหวัดเดียว ก็สามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวได้มากถึง 60,302 ล้านบาท ซึ่งมากเป็นอันดับ 1 ของเมืองไทยเลยทีเดียว
ดังนั้นเมื่อหน้าเค้กมันใหญ่ขนาดนี้ จึงทำให้ทะเลอันดามันเป็นที่จับจ้องของคนทำ “ธุรกิจทัวร์นำเที่ยว”
จนสุดท้ายตลาดนี้ ในมุมธุรกิจ ไม่ได้มีสีฟ้าสวยงามเหมือนภาพในหัวของนักท่องเที่ยว
แต่เป็น “มหาสมุทรสีแดง (Red Ocean)” ที่ทุกคนต้องงัดทุกไม้เด็ดมาแข่งกันเรียกลูกค้าอย่างดุเดือด..
จนสุดท้ายตลาดนี้ ในมุมธุรกิจ ไม่ได้มีสีฟ้าสวยงามเหมือนภาพในหัวของนักท่องเที่ยว
แต่เป็น “มหาสมุทรสีแดง (Red Ocean)” ที่ทุกคนต้องงัดทุกไม้เด็ดมาแข่งกันเรียกลูกค้าอย่างดุเดือด..
อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลัง ๆ ก็มีทัวร์นำเที่ยวอยู่แบรนด์หนึ่ง ที่สามารถสร้างความแตกต่างท่ามกลางอันดามันสีแดงแห่งนี้ได้อย่างโดดเด่น
ซึ่งแบรนด์นั้นก็คือ “Love Andaman” ทัวร์นำเที่ยวที่ใครหลายคนรู้จักกันดีผ่านรูปทะเลสวย ๆ ในเฟซบุ๊กแฟนเพจ และเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ที่ต่อแถวเช็กอินกันอย่างไม่ขาดสาย
โดยถ้าลองไปย้อนดูรายได้ของ Love Andaman (บริษัท เลิฟ ไอแลนด์ จำกัด)
ปี 2562 รายได้ 228 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 127 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 121 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 127 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 121 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่าแม้ช่วงการระบาดของโควิด 19 ที่การท่องเที่ยวแทบจะเป็นอัมพาตเกือบจะ 100% และนักท่องเที่ยวต่างชาติหาย
แต่แบรนด์ Love Andaman ก็ยังสามารถสร้างรายได้ทะลุ 100 ล้านบาทได้อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งน่าสนใจมาก เพราะตัวเลขแบบนี้ แสดงให้เห็นว่า Love Andaman มีสัดส่วนรายได้มาจาก “คนไทย” ค่อนข้างเยอะ
แต่แบรนด์ Love Andaman ก็ยังสามารถสร้างรายได้ทะลุ 100 ล้านบาทได้อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งน่าสนใจมาก เพราะตัวเลขแบบนี้ แสดงให้เห็นว่า Love Andaman มีสัดส่วนรายได้มาจาก “คนไทย” ค่อนข้างเยอะ
โดยบทความนี้จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจถึงเส้นทางของการปั้นแบรนด์ Love Andaman ว่าต้องผ่านมรสุมอะไรมาบ้าง กว่าจะกลายเป็น Top of Mind ของผู้บริโภคคนไทยได้แบบทุกวันนี้
ย้อนกลับไป 10 ปีก่อน..
วันที่ทะเลยังคงอุดมสมบูรณ์ และเทรนด์การรักษ์สิ่งแวดล้อม ยังไม่ได้เป็นที่นิยมเหมือนทุกวันนี้
วันที่ทะเลยังคงอุดมสมบูรณ์ และเทรนด์การรักษ์สิ่งแวดล้อม ยังไม่ได้เป็นที่นิยมเหมือนทุกวันนี้
สมัยนั้นกิจกรรมยอดนิยมที่ธุรกิจทัวร์แทบทุกเจ้าต้องหยิบมาใช้ดึงดูดลูกค้าก็คือ “การให้อาหารปลา”
เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต้องการเห็นปลาเยอะ ๆ มารุมกินอาหาร
เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต้องการเห็นปลาเยอะ ๆ มารุมกินอาหาร
อย่างไรก็ตาม แม้การให้อาหารปลาจะส่งผลดีกับการท่องเที่ยวสักแค่ไหน แต่มันกลับเป็นการทำลายระบบนิเวศแบบตรง ๆ เพราะจะทำให้ปลาเกิดความเคยชิน และไม่ยอมหาอาหารกินเอง ซึ่งส่งผลกระทบร้ายแรงกับห่วงโซ่อาหารในที่สุด
จุดนี้เองที่ “คุณต่อพงษ์ วงศ์เสถียรชัย” ผู้ก่อตั้ง Love Andaman มองเห็นถึงความเสื่อมโทรมของธรรมชาติ ที่ถูกทำร้ายจากการท่องเที่ยวแบบผิด ๆ มาตลอด
ดังนั้นถ้าหากเขาสามารถผลักดันให้ทุกคนหันมาใส่ใจธรรมชาติให้สามารถอยู่คู่กับคนไทยได้ไปตลอด ก็คงจะดีไม่น้อย
คุณต่อพงษ์ จึงได้นำโมเดล “การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์” ที่ได้รับความนิยมในประเทศออสเตรเลีย มาปรับใช้กับตลาดประเทศไทย โดยมีการไปขอความร่วมมือกับองค์กรเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ให้ช่วยสนับสนุนแนวคิดดังกล่าวด้วย
ซึ่งในช่วงแรกมันก็ยากลำบากพอสมควร เพราะมีข้อครหาจากหลายฝ่ายว่า การจัดทัวร์แบบนี้มันเป็นไปไม่ได้ และไม่น่าจะมีใครซื้อ ซึ่งบางรายถึงกับหัวเราะเยาะด้วยซ้ำไป..
แต่สุดท้ายแล้ว คุณต่อพงษ์ก็ได้นำโมเดลดังกล่าวมาปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองจนได้
และทำให้ Love Andaman กลายเป็นบริษัททัวร์แรก ๆ ที่เริ่มงดการให้อาหารปลาจากโปรแกรม
และทำให้ Love Andaman กลายเป็นบริษัททัวร์แรก ๆ ที่เริ่มงดการให้อาหารปลาจากโปรแกรม
อย่างไรก็ตาม แม้จะดูสวยหรู แต่การฝืนนำโมเดลการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่ผู้บริโภคยังไม่คุ้นเคยมาทำตลาดในเส้นทางเดินเรือยอดฮิตทั้งหลาย ไปสู้กับคู่แข่งตรง ๆ ก็ดูจะเป็นการเดิมพันที่เสี่ยงเกินไปหน่อย
ดังนั้น “เกาะตาชัย” ที่ยังไม่ได้รับความนิยมมากนักในช่วงนั้น จึงกลายมาเป็นเส้นทางแรก ๆ ของ Love Andaman ในการเริ่มนำโมเดลการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ มาทดลอง
โดยเกาะตาชัยนั้น เป็นเกาะที่สวยก็จริง แต่ค่อนข้างไกลจากฝั่ง
อีกทั้งบริเวณรอบ ๆ ยังไม่มีเกาะอื่นเลย จึงทำให้ไม่ค่อยมีผู้เล่นคนไหนกล้าลงทุนกับเส้นทางนี้
อีกทั้งบริเวณรอบ ๆ ยังไม่มีเกาะอื่นเลย จึงทำให้ไม่ค่อยมีผู้เล่นคนไหนกล้าลงทุนกับเส้นทางนี้
ดังนั้น การมาเปิดเส้นทางที่เกาะตาชัย จึงทำให้ Love Andaman ไม่ต้องไปแข่งขันกับคนอื่นเยอะ และสามารถสร้างจุดเด่นท่ามกลางอันดามันสีแดงในช่วงแรกได้ไม่ยาก..
โดยวิธีที่ Love Andaman ใช้สร้างคุณค่าให้กับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ก็น่าสนใจไม่น้อย
เพราะในทุกโปรแกรมของ Love Andaman จะมีวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับข้อห้ามต่าง ๆ ที่อาจส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม ก่อนเริ่มโปรแกรมเสมอ
รวมไปถึงยังมีการใส่ใจในทุกองค์ประกอบของโปรแกรมทัวร์
ตั้งแต่การเลือกเครื่องยนต์ของเรือ ที่จะต้องไม่ทิ้งคราบน้ำมันลงทะเล มาให้บริการ
ไปจนถึงลดการใช้พลาสติกให้ได้มากที่สุด ระหว่างโปรแกรมทัวร์อีกด้วย
ตั้งแต่การเลือกเครื่องยนต์ของเรือ ที่จะต้องไม่ทิ้งคราบน้ำมันลงทะเล มาให้บริการ
ไปจนถึงลดการใช้พลาสติกให้ได้มากที่สุด ระหว่างโปรแกรมทัวร์อีกด้วย
จากทั้งหมดที่กล่าวมา ทำให้ Core Value ของ Love Andaman ไม่ใช่แค่ความสนุกและความประทับใจ ที่ได้จากประสบการณ์การท่องเที่ยวเท่านั้น
แต่ยังมีความรู้สึกภาคภูมิใจในการรักษาสิ่งแวดล้อม ที่สามารถส่งต่อไปถึงกลุ่มเป้าหมายได้อีกด้วย
แต่ยังมีความรู้สึกภาคภูมิใจในการรักษาสิ่งแวดล้อม ที่สามารถส่งต่อไปถึงกลุ่มเป้าหมายได้อีกด้วย
และอีกอย่าง ถ้าลองวิเคราะห์ดี ๆ จะเห็นได้ว่า Love Andaman เป็นแบรนด์ที่ทำ Customer Journey ได้ดีมาก ๆ แบรนด์หนึ่ง
เริ่มตั้งแต่ช่วงการสร้าง Awareness (สร้างการรับรู้) ที่แบรนด์มีการใช้คอนเทนต์ที่มีคุณภาพ มาสื่อสารกับนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมาย
อย่างการใช้รูปที่สวยงามกว่าคู่แข่ง, CI มีคู่สีที่ชัดเจน และไลฟ์สดบรรยากาศสวย ๆ จากสถานที่จริงอยู่เสมอ
จึงทำให้กลุ่มเป้าหมายบางคนนั้นรู้จัก Love Andaman ก่อนมีแผนจะไปเที่ยวทะเลเสียอีก..
จึงทำให้กลุ่มเป้าหมายบางคนนั้นรู้จัก Love Andaman ก่อนมีแผนจะไปเที่ยวทะเลเสียอีก..
และหลังจากที่กลุ่มเป้าหมายรับรู้ถึงแบรนด์ และเริ่มหาข้อมูลของ Love Andaman เพื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในช่วงขั้นตอน Consideration (พิจารณา) ของ Customer Journey
Love Andaman ก็ได้มีการทำ Influencer Marketing ตามช่องทางต่าง ๆ เช่น YouTube, Facebook เพื่อกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายตัดสินใจง่ายขึ้น และอยากลองไปท่องเที่ยวตามรอยบ้าง
เพราะในสมัยนี้ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยเชื่อการโปรโมตจากแบรนด์แบบตรง ๆ เหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่จะมีแนวโน้มเชื่อสิ่งที่ อินฟลูเอนเซอร์ หรือคนใกล้ชิดบอกมากกว่านั่นเอง..
ส่วนขั้นตอนต่อมาคือ Decision (การตัดสินใจซื้อ)
ในขั้นตอนนี้ Love Andaman จะมีการพ่วงแพ็กเกจพิเศษที่เป็นการแก้ Pain Point ของนักท่องเที่ยวด้วยเสมอ
ในขั้นตอนนี้ Love Andaman จะมีการพ่วงแพ็กเกจพิเศษที่เป็นการแก้ Pain Point ของนักท่องเที่ยวด้วยเสมอ
ไม่ว่าจะเป็น รถรับ-ส่ง ระหว่างที่พัก, เสิร์ฟอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ หรือแม้กระทั่งมีการไปจับมือกับโรงแรมชื่อดังต่าง ๆ ให้ทำแพ็กเกจที่พักพร้อมทัวร์ดำน้ำ เพื่อสร้างความรู้สึกคุ้มค่าให้กับลูกค้า
ขั้นตอนต่อมาคือ บริการหลังการขาย (Loyalty)
จริงอยู่ที่ธุรกิจแบบทัวร์นั้น อาจจะไม่เหมาะกับการทำบริการหลังการขายเท่าไรนัก แต่ Love Andaman ก็ยังสามารถทำได้อย่างชาญฉลาด..
จริงอยู่ที่ธุรกิจแบบทัวร์นั้น อาจจะไม่เหมาะกับการทำบริการหลังการขายเท่าไรนัก แต่ Love Andaman ก็ยังสามารถทำได้อย่างชาญฉลาด..
เพราะหลังจากที่ลูกค้าทุกคนเสร็จสิ้นโปรแกรมทัวร์ จะมีการเสิร์ฟอาหารให้แขกทุกคนอีกครั้ง
ตั้งแต่นำขนมเปี๊ยะชื่อดังอย่าง Madam Yu มาเสิร์ฟตั้งแต่อยู่บนเรือ ไปจนถึงตอนกลับเข้าฝั่ง ก็จะมีอาหารบุฟเฟต์เบา ๆ อย่างกระเพาะปลา, ผัดหมี่ และไอศกรีมกะทิ ไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง
ซึ่งแม้จะดูไม่มากมาย แต่ของเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ก็เป็นตัวช่วยชั้นดีที่จะทำให้ผู้บริโภคมีประสบการณ์ดี ๆ กับแบรนด์มากขึ้น..
และขั้นตอนสุดท้ายของ Customer Journey ก็คือ ทำให้เกิดการบอกต่อ (Advocacy) ที่ทางแบรนด์ได้ใช้ประโยชน์จากพลังของโซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์
เพราะคนที่มาท่องเที่ยวอย่างไรก็ต้อง “ถ่ายรูป” อยู่แล้ว ดังนั้น Love Andaman จึงมีการทำให้ทุกองค์
ประกอบของทัวร์สามารถถ่ายรูปออกมาแล้วสวย..
ประกอบของทัวร์สามารถถ่ายรูปออกมาแล้วสวย..
ตั้งแต่เลานจ์อาหารบุฟเฟต์, โซนนั่งรอ ไปจนถึงการจัดไลน์อาหารกลางวันให้สวยงาม
ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้นถูกออกแบบมาอย่างดี แถมแบรนด์ยังมีบริการให้เช่ากล้อง GoPro ไว้ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปสวย ๆ ใต้น้ำได้อีกต่างหาก..
ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้นถูกออกแบบมาอย่างดี แถมแบรนด์ยังมีบริการให้เช่ากล้อง GoPro ไว้ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปสวย ๆ ใต้น้ำได้อีกต่างหาก..
พอเป็นแบบนี้ เหล่าผู้ที่เคยใช้บริการของ Love Andaman จึงมักมีรูปสวย ๆ ไปแชร์บนโซเชียลมีเดียอยู่เสมอ
ซึ่งแน่นอนว่า นั่นเป็นการโปรโมตแบรนด์และประสบการณ์ที่ได้จากแบรนด์ แบบฟรี ๆ แถมมีประสิทธิภาพสูง โดยที่แบรนด์ไม่ต้องเสียเงินยิงแอด..
ซึ่งแน่นอนว่า นั่นเป็นการโปรโมตแบรนด์และประสบการณ์ที่ได้จากแบรนด์ แบบฟรี ๆ แถมมีประสิทธิภาพสูง โดยที่แบรนด์ไม่ต้องเสียเงินยิงแอด..
โดยในครึ่งปีแรกของปี 2565 Love Andaman ก็ได้รับรางวัลจาก Zocial Awards ในหัวข้อแบรนด์ที่สร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคบนโลกออนไลน์มากที่สุดในสายท่องเที่ยวอีกด้วย
สุดท้ายนี้ ถ้าจะถามว่า “การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์” ของ Love Andaman เปลี่ยนแปลงวงการทัวร์ในบ้านเราได้มากแค่ไหน ก็คงไม่มีใครตอบได้
แต่ที่แน่ ๆ นักท่องเที่ยวนับแสนคนที่เคยใช้บริการของ Love Andaman จะนำเอาความรู้และความเข้าใจถึงข้อห้ามต่าง ๆ ในการเที่ยวทะเล พกไปใช้กับการเที่ยวทะเลครั้งต่อไปด้วยแน่นอน
จากวลีฮิตที่ไกด์ของ Love Andaman ได้พูดกับลูกค้าก่อนเริ่มโปรแกรมทัวร์เสมอว่า
“การให้อาหารปลา คือสิ่งต้องห้ามของท้องทะเล”
—--------------------------
Sponsored by JCB
—--------------------------
Sponsored by JCB
JCB แฮปปี้ทุกไลฟ์สไตล์ มากกว่าส่วนลดและสิทธิประโยชน์ แต่เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ ในการใช้บัตรเครดิต JCB อย่างคุ้มค่าตลอดทั้งปี
รวบรวมทั้งร้านอาหารชั้นนำ ปั๊มน้ำมัน ซูเปอร์มาเก็ต แพลตฟอร์มการสั่งอาหาร ส่วนลดการจองที่พัก ร้านค้าชั้นนำอีกมากมายทั้งหน้าร้านและแพลตฟอร์มออนไลน์อีกกว่า 100 ร้านค้า ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ติดตามได้ที่ www.facebook.com/JCBCardThailandTH และ LINE Official Account : @JCBThailand (https://bit.ly/JCBTHLine)
#JCBใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา#JCBThailand#JCBOwnHappinessOwnStory
—--------------------------
อ้างอิง:
-https://datawarehouse.dbd.go.th/fin/profitloss/5/0825554000447
-https://www.loveandaman.com/copy-of-before-boarding
-https://www.youtube.com/watch?v=L6VIq7QAXh8&ab_channel=workpointTODAY
-superoffice.com/blog/customer-journey/
—--------------------------
อ้างอิง:
-https://datawarehouse.dbd.go.th/fin/profitloss/5/0825554000447
-https://www.loveandaman.com/copy-of-before-boarding
-https://www.youtube.com/watch?v=L6VIq7QAXh8&ab_channel=workpointTODAY
-superoffice.com/blog/customer-journey/