เปิดโมเดลธุรกิจ “BETAGRO” ยืนหนึ่งบนความแตกต่างด้านนวัตกรรมอาหาร ส่งผลิตภัณฑ์คุณภาพสู่ตลาดกว่า 20 ประเทศทั่วโลก
27 ก.ค. 2022
เทรนด์อาหารที่มาแรงในปี 2022 ต้องมีชื่ออาหารเพื่อสุขภาพอยู่ในอันดับต้น ๆ
ตอบโจทย์ความต้องการของคนรักสุขภาพและความปลอดภัยของอาหาร
ถึงขนาดผู้คนในเมืองเริ่มหันมาปลูกผักกินเอง
ตอบโจทย์ความต้องการของคนรักสุขภาพและความปลอดภัยของอาหาร
ถึงขนาดผู้คนในเมืองเริ่มหันมาปลูกผักกินเอง
ในวันนี้เราจะไปทำความรู้จักกับบริษัทที่เป็นผู้นำในธุรกิจด้านอาหารครบวงจร
ที่พอเห็นชื่อแบรนด์กันแล้ว ก็น่าจะเคยเห็นผลิตภัณฑ์แบรนด์นี้ผ่านตามาอยู่บ้าง
ที่พอเห็นชื่อแบรนด์กันแล้ว ก็น่าจะเคยเห็นผลิตภัณฑ์แบรนด์นี้ผ่านตามาอยู่บ้าง
บริษัท เบทาโกร จำกัด มหาชน หรือ เบทาโกร (“บริษัทฯ”) เป็นบริษัทอาหารชั้นนำระดับสากล และเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้นำนวัตกรรมอาหารคุณภาพและปลอดภัย ที่มีประสบการณ์มากกว่า 55 ปี โดยเบทาโกรประกอบธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจร ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์และเวชภัณฑ์สำหรับสัตว์ ผลิตภัณฑ์อาหารจากสุกร สัตว์ปีก และไข่ไก่ ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป และอาหารสัตว์เลี้ยง เพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออกไปมากกว่า 20 ประเทศ ในภูมิภาคเอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือ และตะวันออกกลาง (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565)
โดยมีกลุ่มเป้าหมายทั้ง B2B ผู้ประกอบการรายย่อย (SME) ร้านอาหาร โรงแรม และโรงพยาบาล
และ B2C ผู้บริโภคครัวเรือน ที่มองหาผลิตภัณฑ์อาหารซื้อกลับบ้าน
และ B2C ผู้บริโภคครัวเรือน ที่มองหาผลิตภัณฑ์อาหารซื้อกลับบ้าน
เบทาโกร ให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตเพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ และได้มาตรฐานตามหลักสากล ตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) จากต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การผลิตอาหารสัตว์ การเลี้ยงสัตว์ และจำหน่ายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ การทำฟาร์มเชิงพาณิชย์ และการชำแหละ การแปรรูปเนื้อสัตว์ ไปจนถึงมีโรงงานและแปรรูปอาหารเป็นของตัวเองในการขาย
โดยธุรกิจหลักของบริษัทฯ แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
1. ธุรกิจกลุ่มเกษตร ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ ผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์และสารเสริมสำหรับสัตว์ รวมถึงอุปกรณ์และเครื่องมือฟาร์มที่หลากหลายแก่เกษตรกร และให้บริการห้องปฏิบัติการเน้นทดสอบความปลอดภัยของอาหารและการติดตามสุขภาพสัตว์
2. กลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน ผลิตและจำหน่ายเนื้อสัตว์ ไข่ไก่ และผลิตภัณฑ์ปลาแก่ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ การแปรรูปเนื้อสัตว์ปรุงสุก ผลิตภัณฑ์พร้อมปรุง ผลิตภัณฑ์กึ่งปรุงสุก ผลิตภัณฑ์พร้อมรับประทาน ผลิตภัณฑ์พลอยได้ และโปรตีนทางเลือก รวมถึงการทำฟาร์มเชิงพาณิชย์
3. กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ ประกอบธุรกิจในกัมพูชา ลาว และเมียนมา เพื่อผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร อาหารสัตว์ การเพาะพันธุ์สัตว์ ผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์และสารเสริมสำหรับสัตว์ อุปกรณ์ฟาร์มและผลิตภัณฑ์อาหาร รวมถึงสุกร สัตว์ปีก ไข่ไก่ และเนื้อสัตว์แปรรูปและอาหารแปรรูป
4. กลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยง ขนมขบเคี้ยวสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยง
โดยธุรกิจของเบทาโกรดำเนินการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก อาทิ แบรนด์ “BETAGRO” และ “S-Pure” สำหรับผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์อนามัย เนื้อสัตว์แปรรูป และอาหารแปรรูป และภายใต้แบรนด์ “ITOHAM” สำหรับผลิตภัณฑ์ไส้กรอกเกรด พรีเมียม แบรนด์ “Betagro” “Balance” และ “MASTER” สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ และแบรนด์ “Better Pharma” และ “Nexgen” สำหรับผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์และสารเสริมสำหรับสัตว์ นอกจากนั้นยังมีผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง ภายใต้แบรนด์ “Perfecta” “DOG n joy” และ “CAT n joy”
ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์เหล่านี้ ได้วางจำหน่ายผ่านช่องทางที่หลากหลาย และครอบคลุม สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายโดยตรงไม่ว่าจะเป็นร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม ช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายของบริษัทฯ ได้แก่ สาขาเบทาโกร 97 แห่ง ร้านเบทาโกรช็อป 207 แห่ง ร้านเบทาโกรเดลี 32 แห่ง และร้านเนื้อสัตว์อนามัย 715 แห่ง (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565) ทำให้เบทาโกร มีความเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภค ตลอดจนช่วยสร้างการรับรู้ในแบรนด์เบทาโกรได้เป็นอย่างดี
ศักยภาพและความแข็งแกร่งของเบทาโกร สะท้อนให้เห็นจากรายได้รวมของบริษัทฯ ที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเติบโตจาก 74,231.6 ล้านบาท ในปี 2562 เป็น 85,424.0 ล้านบาท ในปี 2564 คิดเป็น CAGR ที่ร้อยละ 7.4 ในปี 2564 ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สงครามรัสเซีย-ยูเครน หรือโรคระบาดในสัตว์ก็ตาม
โดยเบทาโกร เป็นพันธมิตรกับผู้ประกอบการช่องทางค้าปลีกร้านสะดวกซื้อ ไฮเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าเงินสดและบริการตัวเอง และซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วประเทศกว่า 100 แห่ง รวมถึง กูร์เมต์ มาร์เก็ต, บิ๊กซี, ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต, วิลลา มาร์เก็ต, โลตัส และซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ที่อื่น ๆ
นอกจากนั้น เบทาโกร ยังได้ร่วมลงทุนกับ KEX ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์อิเล็กทรอนิกส์ และเป็นผู้ประกอบการขนส่งแบบด่วนรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับช่องทางการจัดจำหน่ายของบริษัทฯ ผ่านทาง Kerry Cool
โดย Kerry Cool เป็นแพลตฟอร์มบริการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ ทำให้รักษาคุณภาพผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งการจัดส่งในรูปแบบนี้บริษัทฯ เชื่อว่าเป็นการเพิ่มโอกาสในการเติบโตได้อีก เพราะยังมีผู้ให้บริการน้อยกว่าความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงมีข้อได้เปรียบทางการขนส่งสินค้าด้วยคุณสมบัติที่พิเศษ และทันสมัย รวมถึงประหยัดต้นทุน
ด้วยความมุ่งมั่นและความเชื่อของเบทาโกร ที่ต้องการช่วยให้ประชาชนและชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยอาหารที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยที่มากขึ้น ในราคาที่เป็นธรรม
รายได้รวมจากการขายและการให้บริการ สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุด วันที่ 31 มีนาคม 2564 และ 2565 อยู่ที่ 21,258.3 ล้านบาท และ 25,311.8 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็น CAGR ที่ร้อยละ 19.1 และกำไรสุทธิสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุด วันที่ 31 มีนาคม 2564 และ 2565 อยู่ที่ 788.6 ล้านบาท และ 1,966.9 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็น CAGR ที่ร้อยละ 149.4
เบทาโกรเป็นหนึ่งในบริษัทอาหารชั้นนำระดับสากล ที่มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมอาหารอย่างต่อเนื่องและมีเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจ ทั้งด้านกำลังการผลิต รวมถึงช่องทางการจำหน่ายสินค้า ตลอดจนการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เพื่อตอบความต้องการของผู้บริโภค สร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารอย่างยั่งยืน
References:
-แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ Filing ของสำนักงาน ก.ล.ต.
-BTG Press Release
-https://thestandard.co/food-trends-2022/
-แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ Filing ของสำนักงาน ก.ล.ต.
-BTG Press Release
-https://thestandard.co/food-trends-2022/