Apple เริ่มเปิดโอกาสให้ชำระเงิน ด้วยระบบของ Third-Party แต่ยังเก็บค่าธรรมเนียม 26%
1 ก.ค. 2022
Apple เริ่มเปิดโอกาสให้ชำระเงิน ด้วยระบบของ Third-Party แต่ยังเก็บค่าธรรมเนียม 26%
App Store เป็นอีกหนึ่งรายได้หลักของ Apple มาโดยตลอด เพราะทุกครั้งที่มีการซื้อขายแอปพลิเคชัน
ทางผู้พัฒนาจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 15-30% ให้กับ Apple
ทางผู้พัฒนาจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 15-30% ให้กับ Apple
อย่างไรก็ตาม การหัก 15-30% ของทุกการใช้จ่ายบน App Store ถือเป็นตัวเลขที่เยอะพอสมควร จึงทำให้ผู้พัฒนาแอปฯ จากหลายประเทศแสดงความไม่เห็นพอใจกับเงื่อนไขดังกล่าว..
รวมถึงเรียกร้องและฟ้องร้องให้ Apple ลดค่าธรรมเนียม หรือเปิดช่องทางเลือกอื่น (เช่น ระบบชำระเงินของ Third-Party) ให้ลูกค้าได้เลือก
รวมถึงเรียกร้องและฟ้องร้องให้ Apple ลดค่าธรรมเนียม หรือเปิดช่องทางเลือกอื่น (เช่น ระบบชำระเงินของ Third-Party) ให้ลูกค้าได้เลือก
ล่าสุดมีรายงานว่า ผู้พัฒนาแอปฯ รายหนึ่งในประเทศเกาหลีใต้ สามารถขออนุญาตใช้การชำระเงินใน App Store ผ่าน Third-Party ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่ว่า.. การชำระเงินแบบ Third-Party บน App Store นั้น Apple จะมีการเก็บค่าธรรมเนียม 26% จากผู้พัฒนาแอปฯ และทางผู้พัฒนาจะต้องรายงานยอดขายทั้งหมดไปยัง Apple อีกด้วย
จะเห็นว่าค่าธรรมเนียมที่ 26% แม้ยังสูงอยู่ แต่ก็ต่ำกว่าอัตราสูงสุดที่ 30% อยู่นิดหน่อย..
ถึงแม้การอนุญาตให้ใช้ช่องทางของ Third-Party ในการชำระเงินบน App Store จะยังสามารถทำได้แค่ในประเทศเกาหลีใต้เท่านั้น
แต่ Apple ก็คงมีการอนุญาติให้มีการใช้ระบบการชำระเงินแบบ Third Party ใน App Store กับประเทศอื่น ๆ เร็ว ๆ นี้
เรื่องราวดังกล่าว เป็นผลมาจากการผ่านกฏหมายของประเทศเกาหลีใต้ ที่ห้ามเจ้าให้ของแพลตฟอร์มซื้อ-ขายแอปพลิเคชันอย่าง App Store และ Play Store บังคับนักพัฒนาบนแพลตฟอร์มของตัวเอง ให้ใช้ระบบจ่ายเงินของตัวเองเท่านั้น ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ซึ่งในขณะนั้น Apple ก็มีท่าทีที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว โดยอ้างเหตุผลด้านความโปร่งใส และความปลอดภัยของผู้ใช้งาน..
Apple ได้กล่าวว่า การชำเงินผ่าน Third-Party บน App Store นั้น จะมีการแสดงป็อปอัปว่า “แอปพลิเคชันนี้ไม่รองระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย”
และยังได้มีการออกมาเตือนถึงนักพัฒนาแอปพลิเคชันที่ไม่ต้องการใช้ชำระเงินของ Apple ว่า หากมีปัญหาเกิดขึ้น นักพัฒนาจะต้องจัดการกับประวัติการซื้อ, การคืนเงิน และปัญหาอื่น ๆ ด้วยตนเอง และ Apple จะไม่
มีการช่วยเหลือใด ๆ ทั้งสิ้น..
มีการช่วยเหลือใด ๆ ทั้งสิ้น..
น่าสนใจว่าขณะนี้สหภาพยุโรป ก็กำลังหารือเกี่ยวกับการบังคับให้ Apple อนุญาตให้รองรับ “การชำระเงิน” และ “ร้านค้าแอปพลิเคชัน” แบบ Third-Party บนอุปกรณ์ Apple เพื่อลดการผูกขาดในตลาดแอปพลิเคชัน
เช่นเดียวกัน
เช่นเดียวกัน
และสุดท้ายแล้ว หาก Apple รองระบบการชำระเงินแบบ Third-Party ไปทั่วโลกจริง จะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทมากน้อยแค่ไหน เพราะที่ผ่านมา Apple มีรายได้จากการขายบริการออนไลน์ถึง 19%..
อ้างอิง :